Datasets:

AIAT

/

Pangpuriye-public_ThaiSum40k

like 0

Follow

Artificial Intelligence Association of Thailand 17

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

แข้งสาวชบาแก้วแม้จะสู้อย่างสุดใจ แต่ก็ไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่ง ของอดีตแชมป์โลกอย่างญี่ปุ่นได้ พ่ายไปอย่างสนุก 0-2 ในเกมนัดเปิดหัว บอลหญิงเอเชียนเกมส์

วันที่ 16 ส.ค. 61 การแข่งขันฟุตบอลหญิง เอเชียนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยเกมรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่สนามบูมิ ศรีวิจายา สเตเดียม เป็นการพบกับระหว่าง ชบาแก้ว ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ,เปิดฉากครึ่งแรกมาได้เพียง 10 นาที ญี่ปุ่นมีโอกาสทักทายก่อน จากการยิงของ ยูอิ ฮาเซกาวะ แต่พิกุล เขื่อนเพ็ชร ยังวิ่งเข้ามาสกัดเอาไว้ได้ทัน,แต่นาทีที่ 33 ทัพซามูไรสาวก็ทำประตูขึ้นนำ 1-0 สำเร็จ เมื่อ มานะ อิวาบูชิ ซัดไกลข้ามหัว ณัฐรุจา มุทนเวช ผู้รักษาประตูของไทยเข้าไป และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้,ครึ่งหลังนาที 58 กาญจนา สังข์เงิน ตัดบอลได้กลางสนาม ก่อนลากเข้ามายิงเอง แต่น้ำหนักเบาเกินไป ซาคิโตะ อิเคดะ รับเข้าซองเอาไว้ได้,กระทั่งท้ายเกมนาที 85 ญี่ปุ่นก็มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะเป็น 2-0 จากการโหม่งของ ยูกะ โมมิกิ,ทำให้จบเกม ญี่ปุ่น เอาชนะ ไทย ไปได้ 2-0 เก็บสามแต้มได้ตามคาด ส่วนในเกมนัดต่อไป ไทยจะพบกับ เวียดนาม ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ เวลา 18.30 น.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

แนวคิดเสรีนิยม (liberalism) ไม่ได้ปฏิเสธการดำรงอยู่ของความคิด ความเชื่อแบบอนุรักษ์นิยม หรือความคิดความเชื่อแบบอื่นๆ เช่นสังคมนิยมเป็นต้น

เมื่อมองจากจุดยืนแบบเสรีนิยมไม่ใช่ว่าใครไม่คิดไม่เชื่อแบบเสรีนิยมแล้วแปลว่าผิด จะผิดก็ต่อเมื่อมีการใช้ความคิดความเชื่อนั้นๆ ละเมิดเสรีภาพคนอื่นหรือก่ออันตรายทางกายภาพแก่คนอื่นเท่านั้นโดยหลักการกว้างๆ ที่ว่า ปัจเจกบุคคลใช้เสรีภาพได้อย่างเต็มที่ตราบที่ไม่ละเมิดเสรีภาพคนอื่นหรือไม่ก่ออันตรายทางกายภาพแก่คนอื่น ย่อมเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของเสรีนิยมเอง ที่เป็น จุดแข็ง คือเสรีนิยมเปิดกว้างโอบรับทุกความคิด ความเชื่อให้มี ที่ยืน ในสังคมอย่างมีเสรีภาพในการแสดงออกเท่าเทียมกัน ไม่ว่าความคิด ความเชื่อนั้นๆ จะถูกบุคคล สังคม หรือรัฐมองว่างมงาย น่ารังเกียจ หรือนิยามว่ามันเป็นภัยอันตรายอย่างไรก็ตาม แต่ถ้ามันยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่คนอื่นซึ่งหน้า หรืออยู่ในสถานการณ์ที่เชื่อแน่ว่าจะเกิดอันตรายต่อคนอื่นจริง ความคิดความเชื่อที่ถูกบุคคลหรือสังคมมองว่าเป็นอันตรายนั้นๆ ก็ย่อมแสดงออกได้ขณะดียวกันการเปิดกว้างเช่นนั้นก็อาจเป็น จุดอ่อน ของเสรีนิยมด้วย เพราะเมื่อว่าโดยหลักการแล้วเสรีนิยมยอมให้การพูดรุนแรง (hate speech) ที่ไม่ก่ออันตรายทางกายภาพแก่คนอื่นมีเสรีภาพในการแสดงออกได้ เช่นการล้อเลียนเสียดสีความเชื่อทางศาสนา การแสดงออกของพวกคลั่งศาสนา พวกอนุรักษ์นิยมขวาจัด และอื่นๆ ที่ไม่ก่ออันตรายแก่คนอื่นซึ่งหน้า หรืออยู่ในสถาการณ์ที่ประเมินได้แน่นอนว่าจะก่ออันตรายแก่คนอื่น แต่การให้เสรีภาพเช่นนี้ก็อาจเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือความรุนแรงที่คาดไม่ถึง ดังนั้นในการปรับใช้หลักเสรีภาพในการพูด การแสดงออกของประเทศเสรีประชาธิปไตยแต่ละแห่งจึงระแวดระวัง hate speech เกี่ยวกับ ประเด็นอ่อนไหว ต่างๆ ไม่เท่ากัน (เช่นชาวเยอรมันอาจเห็นว่า ประเด็นการแสดงสัญลักษณ์นาซีเป็นเรื่อง อ่อนไหว ที่ต้องเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษเป็นต้น)พูดอีกอย่างคือ การที่เสรีนิยมถือว่า ปัจเจกบุคคลมีสิทธิอย่างสมบูรณ์เหนือชีวิตจิตใจของตนเอง และอิสรภาพของปัจเจกบุคคลเป็นเอกเทศจากสังคม ทำให้แต่ละคนมีเสรีภาพที่จะเลือกใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้ หรือเลือกความคิด ความเชื่อ อุดมการณ์แบบไหนก็ได้ ถึงแม้ว่าคนอื่น สังคมหรือรัฐจะเห็นว่านาย ก.เลือกใช้ชีวิต เลือกความคิดความเชื่อในทางที่เป็นโทษกับตัวเอง แต่ถ้านั่นไม่เป็นอันตรายต่อใครอื่นนอกจากตัวเขา คนอื่น สังคมหรือรัฐจะเข้าไปใช้อำนาจหรือกฎหมายแทรกแซงขัดขวางไม่ได้ อย่างดีที่สุดที่ทำได้คือให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับเขา แต่หากเขาไม่ทำตามก็บังคับเขาไม่ได้ ในแง่นี้ถ้าหากคนจำนวนมากเลือกใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาจนสถิติผู้ติดโรคพิษสุราเรื้อรังสูงเกิน ก็ย่อมหนีไม่พ้นที่จะกลายเป็นภาระของรัฐและสังคมในการใช้ภาษีเพื่อการรักษาพยาบาลคนเหล่านั้นทางออกของรัฐเสรีประชาธิปไตยคือ การวางมาตรการต่างๆ ป้องกันการใช้เสรีภาพอย่างขาดความรับผิดชอบ เช่นคุณจะใช้ชีวิตเกียจคร้าน เมามายจนกระทั่งละเลยความรับผิดชอบเลี้ยงดูและส่งเสียบุตรให้มีการศึกษาตามมาตรฐานที่รัฐกำหนดไม่ได้ หรือวางมาตรการให้เข้าถึงการเสพสิ่งที่เป็นผลเสียต่อสุขภาพได้ยากขึ้น เป็นต้นขณะเดียวกันรัฐก็ต้องให้การศึกษาแก่พลเมืองเพื่อสร้างสำนึกเคารพเสรีภาพเชิงลบ (negative freedom) คือสำนึกไม่ละเมิดเสรีภาพคนอื่น และสำนึกในการใช้เสรีภาพเชิงบวก (positive freedom) คือสำนึกในการใช้เสรีภาพเลือกดำเนินชีวิต โอกาสที่เป็นบวกกับตัวเอง เลือกสร้างสรรค์งานที่ตนเองรัก เลือกเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะต่างๆ ในทางสังคมและการเมืองในระดับชุมชนและระดับชาติเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรมด้านต่างๆ เป็นต้นแล้วอนุรักษ์นิยมคืออะไร ทำไมฝ่ายอนุรักษ์นิยมในบ้านเราจึงเกรี้ยวกราดกับความคิดแบบเสรีนิยมจนเกินงาม เช่นกล่าวหาว่าเป็น ซ้ายดัดจริต คิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขบ้าง หรือเกิดปรากฏการณ์ที่มีดารา นักร้อง นักเขียนดังออกมาไล่ฝ่ายเสรีนิยมบางคนออกจากประเทศไทยบ้าง และตามมาด้วยการแจ้งความเอาผิด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล หัวหน้าและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ที่ชูอุดมการณ์เสรีประชาธิปไตยในการต่อสู้ทางการเมือง และประกาศว่าจะนำปัญหาขัดแย้งทางการเมืองไปแก้ไขผ่านกระบวนการรัฐสภาที่จริงแล้วแนวคิด อนุรักษ์นิยม (conservatism) หมายถึง แนวคิดที่มุ่งรักษาความเชื่อและคุณค่าแบบเก่า เช่น ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี อุดมการณ์ทางการเมืองที่สืบทอดมายาวนาน เฉพาะฝ่ายอนุรักษ์นิยมในบ้านเรามักผูกโยงศาสนา วัฒนธรรมประเพณี อุดมการณ์ทางการเมืองเข้ากับสำนึกทางประวัติศาสตร์ ราชาชาตินิยม ที่เชื่อว่าความเป็นชาติเกิดขึ้น พัฒนาและมั่นคงมาได้เพราะคุณูปการของสถาบันกษัตริย์ ศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองได้เพราะกษัตริย์อุปถัมภ์ ดังนั้น สถาบันกษัตริย์จึงเป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติ ศาสนาและเป็นศูนย์รวมจิตใจหรือ ความจงรักภักดี ของประชาชนในชาติสังคมการเมืองที่ดีแบบอนุรักษ์นิยมไทย คือสังคมการเมืองที่รู้รักสามัคคีภายใต้อุดมการณ์ราชาชาตินิยม และดูเหมือนฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะเชื่อว่ามีความจริง ความดีสูงสุดที่แน่นอนตายตัวเป็นคำตอบแบบเบ็ดเสร็จอยู่แล้ว นั่นคือความจริง ความดีสูงสุดของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สังคมเราจะไม่มีปัญหาขัดแย้งอะไรเลยถ้าหากว่าคนไทยทุกคนรักชาติ นำหลักธรรมของศาสนามาปฏิบัติ และจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรมและเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองแต่ปัญหาคือ ตามความคิดฝ่ายอนุรักษ์นิยมนั้น ไม่ว่าจะมองจากจุดยืนของกองทัพหรือรัฐบาลทหาร มวลมหาประชาชน กปปส. พรรคพลังประชารัฐและพรรคแนวร่วม (อาจรวมประชาธิปัตย์ด้วย?) รวมทั้งจุดยืนของดารา นักร้อง นักเขียนชื่อดังทั้งหลายที่ออกมาไล่ฝ่ายเสรีนิยมบางคนออกนอกประเทศ หรือใช้กฎหมายเอาผิดต่างๆ นั้นย่อมไม่มี ที่ยืน ให้ฝ่ายเสรีนิยมเอาเสียเลยคำตอบอยู่ที่ว่านั่นเป็นทัศนะแบบ อนุรักษ์นิยมล้าหลัง หรือ อนุรักษ์นิยมก้าวหน้า ถ้าเป็นอนุรักษ์นิยมก้าวหน้าอย่าง สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ก็ย่อมมีที่ยืนให้กับเสรีนิยม เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมล้าหลังที่ใช้ข้อกล่าวหา ล้มเจ้า ทำลายคนคิดต่างหรือฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ในความเห็นของสุลักษณ์การใช้ ม.112 หรือการอ้างเรื่องล้มเจ้าทำลายคนคิดต่าง ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง หรืออ้างทำรัฐประหารจะเป็นผลเสียต่อสถาบันกษัตริย์มากกว่า เพราะเป็นการอ้างสถาบันกษัตริย์แบ่งแยกประชาชนเป็นฝักฝ่าย ดังนั้นในความคิดของสุลักษณ์พวกที่อ้าง ความจงรักภักดี ที่ไม่ใช้สัจจะและความถูกต้องเป็นพื้นฐานนั่นแหละคือพวกล้มเจ้าตัวจริงแต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายอนุรักษ์นิยมก้าวหน้าแบบสุลักษณ์ที่ยืนยัน เสรีภาพ ในการแสดงออก หรือให้ ที่ยืน แก่ฝ่ายเสรีนิยมก็มีอยู่น้อยมากในแวดวงปัญญาชน สื่อมวลชน และบรรดานักเคลื่อนไหวทางสังคมในบ้านเรา ขณะเดียวกันอนุรักษ์นิยมก้าวหน้าแบบสุลักษณ์ก็มีปัญหาสำคัญบางประการ กล่าวคือ ความเป็นอนุรักษ์นิยมทางคุณค่า ทำให้เมื่อถึงที่สุดแล้วสุลักษณ์ก็ยืนยันคุณธรรมความดีของบุคคลเป็นทางออกของปัญหาการเมืองมากกว่าที่จะยึดมั่นในการเดินตามกระบวนการที่ชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยอย่างคงเส้นคงวา เพราะเขายังเชื่อในความคิด เผด็จการโดยธรรม หรือเผด็จการโดยคนดีตามคำสอนของ พุทธทาส ว่าเป็นทางออกของวิกฤตการเมืองแบบไทยๆ ได้ ส่วนปัญหาของฝ่ายอนุรักษ์นิยมล้าหลังนั้น นอกจากไม่ให้ที่ยืนแก่ฝ่ายเสรีนิยม หรือคนคิดต่าง เชื่อต่าง มีอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่าง ด้วยการไล่ออกนอกประเทศ แจ้งความเอาผิด กระทั่งทำรัฐประหาร บัญญัติกฎหมายที่ขัดหลักสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามระบอบเสรีประชาธิปไตยและใช้กฎหมายเช่นนั้นปิดปาก ไล่ล่าเอาผิดฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองแล้ว ปัญหาสำคัญมากของพวกเขาคือ การเดินสวนทางกับคุณค่าที่พวกตนกล่าวอ้าง ไม่ว่าจะเป็นคุณธรรมทางศาสนา ความมีน้ำใจแบบไทย ความซื่อสัตย์สุจริต ความโปร่งใสตรวจสอบได้ ธรรมาภิบาล ฯลฯ เพราะการทำและสนับสนุนรัฐประหารหรือการเข้าสู่อำนาจอย่างไม่ชอบธรรม การไล่คนอื่นออกนอกประเทศ การใช้กฎหมายไล่ล่าคนคิดต่าง การใช้อำนาจที่วิจารณ์และตรวจสอบไม่ได้ ล้วนแต่ขัดกับหลักคุณค่าหรือคุณธรรมความดีที่พวกเขากล่าวอ้างหากเทียบกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมยุคเก่า (classical conservative) เช่น สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระยาอนุมานราชธนเป็นต้น ยังนับว่าเป็นอนุรักษ์นิยมที่ใช้ข้อเท็จจริง ความรู้ เหตุผล คุณธรรมเป็นจุดยืนในการเผชิญหน้ากับความคิด ความเชื่อที่แตกต่าง หรือพวกที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมใหม่ (neo-conservative) อย่าง ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นต้น ก็ยังใช้ข้อเท็จจริง ความรู้ เหตุผล หรือแสดงออกถึงความมีรสนิยมที่ดีกว่าในการต่อสู้กับฝ่ายคิดต่าง ขณะที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมปัจจุบันทั้งไร้รสนิยม ไม่สนใจข้อเท็จจริง ไม่ใช้หลักการและเหตุผลในการต่อสู้กับฝ่ายคิดต่างเอาเสียเลย ชอบที่จะกล่าวหาเลื่อนลอยแบบ สายมโน และใช้อำนาจดิบเถื่อนในการจัดการฝ่ายตรงข้ามมากกว่าแล้วฝ่ายเสรีนิยมสู้เพื่ออะไร สู้เพื่อขจัดทำลายฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่ให้มีที่ยืนในประเทศนี้เช่นนั้นหรือ หรือว่าฝ่ายเสรีนิยมจงใจมองข้าม ละเลยความมีอยู่จริงหรือตัวตน ตรรกะเหตุผลของฝ่ายนุรักษ์นิยมเช่นนั้นหรือ เปล่าเลย ที่จริงแล้วฝ่ายเสรีนิยมสู้เพื่อให้ตนเองมีที่ยืน ซึ่งหมายถึงสู้เพื่อสร้างพื้นที่เสรีภาพและประชาธิปไตยให้ทุกคน ทุกฝ่ายไม่ว่าจะมีความคิดแบบอนุรักษ์นิยม เสรีนิยม สังคมนิยม และอื่นๆ ได้มีที่ยืน มีสิทธิและเสรีภาพในการพูด การแสดงออกเท่าเทียมกัน และได้มีโอกาสแข่งขันความคิด นโยบายต่างๆ ที่จะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นภายใต้กติกาที่ฟรีและแฟร์ เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนเลือกอย่างไร ก็ต้องยอมรับตามนั้น ขณะเดียวกันก็ต้องเคารพสิทธิเสียงข้างน้อยและประกันเสรีภาพในการวิจารณ์ตรวจสอบอำนาจที่มาจากเสียงข้างมากและอำนาจอื่นๆพูดอีกอย่าง การที่ฝ่ายเสรีนิยมยืนยันการเปิดกว้างโอบรับทั้งความคิดอนุรักษ์นิยม สังคมนิยมและอื่นๆ ที่ตรงข้ามกับเสรีนิยมให้มีที่ยืนบนเวทีเสรีภาพในการในการแสดงออกเท่าเทียมกัน ก็เท่ากับว่าเสรีนิยมยอมรับการ ถูกท้าทาย จากความคิดตรงกันข้ามอื่นๆ ด้วย และแน่นอนว่าความคิดอื่นๆ ก็ต้องยอมรับการท้าทายจากความคิดเสรีนิยมด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยมอ้างว่าตนเอง มีสิทธิ์ตั้งคำถามและวิจารณ์ความคิดแบบธนาธร ปิยบุตร ฝ่ายเสรีนิยมย่อมไม่มีปัญหาอะไรกับการ ใช้สิทธิ ดังกล่าวเลย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าทำไมเมื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยมกล่าวอ้างเรื่อง สิทธิ แล้วจึงไล่คนคิดต่างออกนอกประเทศ ทำไมจึงแจ้งความเอาผิด ทำไมจึงทำรัฐประหาร บัญญัติกฎหมายที่ขัดหลักสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานและใช้กฎหมายเช่นนั้นปิดปากหรือไล่ล่าเอาผิดฝ่ายเสรีนิยม เราอยู่ร่วมกันอย่างเคารพสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของกันและกันอย่างแฟร์ๆ ไม่ได้เลยหรือถามว่า ถ้าฝ่ายอนุรักษ์นิยมกับเสรีนิยมอยู่ร่วมกันอย่างเคารพสิทธิและเสรีภาพของกันและกันอย่งแฟร์ๆ จะเป็นการทำลายความมั่นคงของชาติอย่างไรหรือ เปล่าเลย ชาติก็ยิ่งจะมั่นคงคู่กับเสรีภาพและประชาธิปไตย สถาบันกษัตริย์จะไม่มั่นคงหรือ ก็เปล่าเช่นกัน เพราะประเทศเสรีประชาธิปไตยอย่างอังกฤษ หรือญี่ปุ่นสถาบันกษัตยริย์ก็ยังมั่นคง และมั่นคงได้โดยที่ไม่มีคนกลุ่มใดๆ ใช้อภิสิทธิ์อ้างสถาบันกษัตริย์มาปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพของประชาชน หรือคนคิดต่าง หรือทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ดัชนีเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 24.03% ลดลงจากครั้งที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการบริโภคภาคเอกชน การส่งออกสินค้า การลงทุนภาคเอกชน และการลงทุนภาครัฐที่ยังไม่เต็มที่ ส่วนใหญ่มองเศรษฐกิจยังคงถดถอย

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ จากองค์กรชั้นนำ 25 แห่ง จำนวน 63 คน เรื่อง ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน อยู่ที่ระดับร้อยละ 24.03 ลดลงเล็กน้อยจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ที่อยู่ในระดับ 24.51,ทั้งนี้ การที่ดัชนีมีการปรับตัวลดลงและค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นถึงสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่ยังอ่อนแอเป็นอย่างมาก เมื่อวิเคราะห์ลงไปในแต่ละปัจจัยขับเคลื่อน พบว่าปัจจัยที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 ได้แก่ การบริโภคภาคเอกชน (ดัชนีเท่ากับ 6.45) การส่งออกสินค้า (ดัชนีเท่ากับ 7.26) การลงทุนภาคเอกชน (ดัชนีเท่ากับ 9.68) ขณะที่การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ เห็นได้จากค่าดัชนีที่อยู่ในระดับ 38.71 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำและเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการสำรวจครั้งก่อน ที่ค่าดัชนีเท่ากับ 38.03 ขณะที่การท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยเดียวที่ทำงานได้ดี โดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 58.06 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนและอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 3 เดือน,ด้านความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีอยู่ที่ 58.41 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ค่าดัชนีเท่ากับ 70.35) เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 72.99 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ค่าดัชนีเท่ากับ 80.99) ซึ่งการที่ค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 สะท้อนให้เห็นว่า นักเศรษฐศาสตร์ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่ความมั่นใจดังกล่าวมีระดับที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากการสำรวจ 3 ครั้งก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าแม้เศรษฐกิจข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า,ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทย อยู่ในช่วงใดของวัฏจักร พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 52.4 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession) รองลงมาร้อยละ 20.6 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) และร้อยละ 14.3 เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough) มีเพียงร้อยละ 1.6 ที่เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak) เมื่อแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด (ร้อยละ 22.2) และ ฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด (ร้อยละ 66.7) แล้วเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าในเดือนมกราคมที่ผ่านมา จะพบว่า เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในภาวะถดถอยหรือชะลอตัว ซึ่งแตกต่างจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าที่มองว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงฟื้นตัว

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

จากกรณีที่มีผู้แอบอ้างสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียงชักชวนให้เกษตรกรเข้าเป็นสมาชิกเรียกเก็บเงินค่าสมัคร 850 บาท ค่าอบรม 1,500 บาท และมีเงินให้เดือนละ 15,000 บาท ขณะที่เกษตรกรหลายพื้นที่ทยอยลาออกจากการเข้าเป็นสมาชิกและแจ้งความ

จากกรณีที่มีผู้แอบอ้างสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียงชักชวนให้เกษตรกรเข้าเป็นสมาชิกเรียกเก็บเงินค่าสมัคร 850 บาท ค่าอบรม 1,500 บาท และมีเงินให้เดือนละ 15,000 บาท ขณะที่เกษตรกรหลายพื้นที่ทยอยลาออกจากการเข้าเป็นสมาชิกและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 มี.ค. นายธัชชัย สีสุวรรณ รอง ผวจ.พิษณุโลก เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์ สมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายธัชชัยกล่าวว่า หลังจากมีคำสั่งแจ้งไปยังนายอำเภอทุกอำเภอเมื่อวันที่ 27 ก.พ.2560 ให้สอดส่องว่ามีพฤติกรรมในพื้นที่หรือไม่ หากพบการกระทำเข้าข่ายหลอกลวงขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับสั่งห้ามสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียงจัดกิจกรรมที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนในพื้นที่ จ.พิษณุโลกโดยเด็ดขาดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป,ร.ต.อ.ดำรง สินสวาท พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ เปิดเผยว่า จากข้อมูลและหลักฐานต่างๆ ความผิดของนายทวีศักดิ์ที่เกี่ยวกับคอนโดฟาร์ม ถือว่าสำเร็จแล้ว สามารถดำเนินคดีได้ จึงได้ทำเรื่องเสนออธิบดีให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ แต่อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาคดีพิเศษ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนผู้ที่นำคลิปแอบอ้างเบื้องสูงมาให้นั้น ต้องให้ผู้นำส่งข้อมูลไปแจ้งความในพื้นที่ที่เกิดเหตุคือ จ.ลพบุรี เพื่อจะได้เร่งดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว จากการสืบสวนทราบว่า นายทวีศักดิ์จะเปลี่ยนชื่อสมาคม และจดทะเบียนในการลงทุนเลี้ยงกุ้งก้ามแดง โดยให้ผู้อื่นขึ้นเป็นนายกสมาคมแทน พร้อมตั้งชื่อกลุ่มให้สอดคล้องกับพื้นที่ที่จะดำเนินการ แม้ว่านายทวีศักดิ์จะเปลี่ยนชื่อสมาคมก็ไม่ถือว่าพ้นความผิด ที่ผ่านมามีการแอบอ้างสร้างคอนโดฟาร์ม แต่ก็ไม่มีการสร้าง ถือว่าเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน และมีสมาชิกกู้เงิน sme bank เพื่อลงทุนเลี้ยงกุ้งก้ามแดงส่งออกด้วย,ด้านนายสถาพร จันทร์กระเวน ผู้จัดการอาวุโสธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อมแห่งประเทศไทย สาขา จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ธนาคาร sme bank ปล่อยกู้ให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เป็นนิติบุคคล วัตถุประสงค์เพื่อเป็นเงินหมุนเวียน ลงทุนขยายปรับปรุงกิจการ จะไม่ปล่อยกู้ให้กับเกษตรกร อย่างไร ก็ตาม ฝากไปยัง นสพ.ไทยรัฐได้ช่วยรวบรวมข้อมูลและพฤติการณ์ของนายทวีศักดิ์ วีระศักดิ์ นายกสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียงตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ให้ประชาชนได้ทราบถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อผู้ที่ได้รับความเสียหายจะได้ทราบ และเข้าแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป เบื้องต้นมีผู้เสียหายแจ้งความข้อหาฉ้อโกงที่ จ.ชัยนาท จำนวน 3 ราย ที่ จ.สุโขทัย จำนวนกว่า 40 ราย.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

โชเซ มูรินโญ กุนซือสเปเชียล วันของ สิงโตน้ำเงินคราม โดน เอฟเอ สั่งแบนห้ามคุมทีมข้างสนาม 1 เกมหลังมีพฤติกรรมที่เหมาะสมจากเกมที่พ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 2 พ.ย. ว่า สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือเอฟเอ สั่งลงโทษแบน โชเซ มูรินโญ กุนซือของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ห้ามลงคุมทีมข้างสนาม 1 เกมพร้อมปรับเงิน 4 หมื่นปอนด์กรณีด่าผู้ตัดสินในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่บุกไปพ่ายต่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว,เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว กุนซือชาวโปรตุกีสถูกเอฟเอตั้งข้อหามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลังไปด่า โจนาธาน มอส ผู้ตัดสินในเกมที่เชลซี พ่ายต่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 โดยเจ้าตัวไม่พอใจที่ผู้ตัดสินรายนี้ไปให้ใบแดงไล่ เนมันยา มาติช ออกจากสนามเป็นเหตุให้ตัวเขาต้องถูกผู้ตัดสินอัญเชิญขึ้นไปชมเกมบนอัฒจรรย์เช่นเดียวกับ ซิลวิโน ลูโร ผู้ช่วยของเขา,โดยล่าสุด มูรินโญ ก็ไม่ปฏิิเสธคำกล่าวหานี้ของเอฟเอ และยอมรับคำกล่าวหานี้โดยละมอบ ส่งผลให้ มูรินโญ จะถูกแบนห้ามคุมทีมข้างสนาม 1 เกมซึ่งเป็นเกมลีกนัดต่อไปในสุดสัปดาห์นี้ที่จะพบกับ สโต๊ก ซิตี้ ทีมที่เพิ่งเขี่ยพวกเขาร่วงตกรอบ แคปิตอล วันคัพ รอบ 4 มาหมาดๆเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา,แถลงการณ์จากเอฟเอ ผู้จัดการทีมของเชลซียอมรับคำกล่าวหาของเอฟเอเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการใช้ภาษา และ/หรือ พฤติกรรม ต่อผู้ตัดสินใจเกมนี้ในรอบห้องแต่งตัวช่วงระหว่างการพักครึ่งของเกมการแข่งขันที่พบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2015

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ก๋วยเตี๋ยวที่นี่ปรุงแต่ละชามตามออร์เดอร์ของลูกค้าอย่างเคร่งครัด เผ็ดมาก เผ็ดน้อย ผักอะไรไม่ใส่บ้าง ลูกค้าสามารถระบุรายละเอียดตามความชอบได้ตามไกด์ไลน์ที่แจ้งไว้บนโต๊ะ ในพวงเครื่องปรุงที่นี่มีเต้าหู้ยี้ให้เพิ่มรสชาติเค็มๆ มันๆ ใครไม่เคยชิมก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหรือลวกจิ้มกับเต้าหู้ยี้ ลองแล้วจะติดใจขึ้นชื่อว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปิ้งสูตรพิเศษของที่นี่จึงมีดีตรงน้ำจิ้มที่ให้มะเขือเทศมาเป็นชิ้นๆ เลย

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็รู้ว่าเมืองนนท์ไม่ได้มีดีแค่ทุเรียน โดยเฉพาะย่านสะพานพระรามห้าที่เต็มไปด้วยของกินอร่อยๆ เรียงรายอยู่สองข้างทาง แต่หนึ่งในร้านที่คนมาย่านนี้ห้ามพลาด ก็ต้องเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือของลุงกี้ที่อยู่เชิงสะพานพระรามห้าฝั่งขาออก ที่คนแถบนนทบุรีรู้จักเป็นอย่างดี จริงๆ ก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นสิ่งที่หากินได้ไม่ยากนัก ดังนั้น สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าดังหลายแห่งจึงจะต้องมีอะไรพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงที่โด่งดังยาวนาน และเอกลักษณ์ที่ทำให้คนติดใจ ซึ่งก๋วยเตี๋ยวเรือบางกร่างของลุงกี้ที่คนแน่นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดาหรือวันหยุด ก็มีรสชาติเป็นสิ่งที่การันตีได้ว่าดีงามอยู่แล้ว ที่นี่ไม่มีเมนูอื่นมากมาย จะมีเพียงก๋วยเตี๋ยวเรือที่เด่นตรงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวสูตรเข้มข้นที่ลุงกี้ได้สูตรจากเพื่อนรัก และฝีมือการปรุงที่ลูกค้ายกนิ้วให้ แต่อย่างหนึ่งที่เราสังเกตได้คือ ความใส่ใจ เพราะจะมีแต่เพียงลุงกี้และครอบครัวเท่านั้นที่จะประจำสเตชันการปรุง เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ก๋วยเตี๋ยวแห้ง และก๋วยเตี๋ยวต้มยำทุกชามที่ออกไป ตรงตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าระบุรายละเอียดเอาไว้ ไกด์ไลน์ประกอบการสั่งความใส่ใจที่ว่านี้ครอบคลุมถึงลูกค้าที่สั่งกลับบ้านด้วย จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวสักกี่เจ้าที่เมื่อสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้งใส่ถุง นอกจากทางร้านจะคลุกเส้นกับเครื่องปรุงให้รสชาติความอร่อยเคลือบจนทั่วถึง และไม่ให้เส้นกอดกันเป็นก้อนเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว หลังจากรัดปากถุงเรียบร้อย ยังต้องคว่ำถุงค้างไว้ก่อนจะส่งลูกค้า เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องปรุงรสต่างๆ ที่อาจจะยังไม่ละลายดีจะไม่ไปกองรวมกันอยู่ที่ก้นถุงดังที่เรามักจะเจอ ถือว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจส่งมอบความอร่อยอย่างแท้จริงปรุงชามต่อชามโดยคนในครอบครัวเท่านั้นเนื้อเปื่อยทางร้านก็มีก๋วยเตี๋ยวน้ำตก (15-35 บาท ตามขนาด) มีหมูและเนื้อให้เลือกทั้งแบบสดหรือเปื่อย ลูกชิ้น และตับเท่านั้น ใครชอบน้ำซุปแบบน้ำตก ที่นี่เป็นสูตรน้ำข้นแบบอยุธยาที่ไม่ใส่กะทิ จุดเด่นจึงอยู่ที่น้ำซุปหอมเครื่องเทศ ที่แม้จะใส่มาพอขลุกขลิกก็เพียงพอที่จะทำให้รสเข้ม ปรุงเผ็ดระดับมาตรฐานของร้าน นอกจากนี้หลายคนยังติดใจพริกน้ำส้มสูตรพิเศษที่ทำให้แทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม แต่ถ้าใครอยากลองราดน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้เพิ่มรสชาติเค็มๆ มันๆ ก็สามารถตักได้จากพวงเครื่องปรุงเลย ก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรอยุธยามาในน้ำขลุกขลิกเข้มข้นถึงใจก๋วยเตี๋ยวเรือต้มยำ (15-30 บาท ตามขนาด) ก๋วยเตี๋ยวแบบอยุธยาที่ไม่ได้ใส่พริกเผา แต่โรยพริกป่นหอมๆ แม้หน้าตาดูไม่เผ็ดมาก ก็อย่าเพิ่งปรุงเพิ่มจนกว่าจะลองชิม เพราะพริกเขาจะค่อยๆ ทวีความเผ็ดขึ้น เมื่อรับประทานไปเรื่อยๆ และแม้จะลองสั่งแบบแห้งโดยลดระดับความเผ็ดมาชิม ก็ถือว่าปรุงได้กลมกล่อม จัดจ้านด้วยมะนาวแท้ รสชาติเปรี้ยวเค็มหวานลงตัวทั่วถึง เพราะคลุกเส้นกับเครื่องปรุงมาให้เลย สามารถสั่งเกี๊ยวทอดมารับประทานคู่เพิ่มเทกซ์เจอร์ได้ชามนี้เส้นเล็กแห้งต้มยำหมูลวกจิ้มสูตรพิเศษ (25-35 บาท ตามขนาด) อย่าลืมแจ้งว่าเป็นลวกจิ้มสูตรพิเศษตอนเขียนออร์เดอร์ เพราะสูตรพิเศษที่ว่านี้คือ การนำลวกจิ้มธรรมดามาคลุกซีอิ๊วดำ ถั่วบด และปรุงพริกน้ำส้ม บวกกับพริกแห้งป่นลงไปเล็กน้อย ให้มีรสชาติจัด แต่ถ้าใครชอบรสชาติออริจินัลของหมูหรือเนื้อสด เปื่อย ลูกชิ้น เครื่องใน ก็จะมีลวกจิ้มแบบธรรมดาเช่นกัน และอย่านึกว่าเขาลืมเสิร์ฟน้ำจิ้ม เพราะลุงกี้อยากให้ทุกคนได้ปรุงตามความชอบด้วยนานาเครื่องปรุงที่อยู่บนโต๊ะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพริกน้ำส้ม พริกแห้งป่น และแน่นอนว่าเต้าหู้ยี้ก็สามารถนำมาปรุงได้เช่นกัน ลวกจิ้มสูตรพิเศษที่ปรุงมาให้แล้ว แต่เพิ่มเต้าหู้ยี้สักหน่อยลูกชิ้นปิ้ง (ไม้ละ 10 บาท) ไฮไลต์ของที่นี่ นอกจากตัวลูกชิ้นคุณภาพดีเนื้อแน่นแล้ว ยังมีน้ำจิ้มที่ตักมะเขือเทศเป็นชิ้นๆ มาให้ด้วย รับประกันความถูกปากดังที่ได้ยินโต๊ะข้างๆ เอ่ยปากขอน้ำจิ้มเยอะๆ เลยลองไปพูดคุยกับลูกสาวของลุงกี้ ว่าอะไรคือเบื้องหลังน้ำจิ้มที่ลูกค้าชื่นชอบ จึงได้รู้ว่าเธอทดลองจากหลายสูตร จนลงตัวที่การผสมสับปะรดลงไป เพื่อให้รสชาตินุ่มนวล และนอกจากมะเขือเทศสีดาที่ใส่เพื่อให้มีสีสันแล้ว ยังใส่มะเขือเทศราชินีเพื่อให้ได้รสอมเปรี้ยวอมหวานเป็นอีกเนื้อสัมผัสให้เคี้ยวเพลินๆ อีกด้วย สั่งมาเคี้ยวเพลินๆ ระหว่างรอลุงกี้ ก๋วยเตี๋ยวเรือบางกร่างเวลาเปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. หยุดทุกวันพุธที่ตั้ง: ถนนนครอินทร์เชิงสะพานพระรามห้าฝั่งขาออก ให้ลงสะพานแล้วใช้ทางออกแรก เพื่อวิ่งทางคู่ขนานประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงร้านโทรศัพท์: 08 2444 5492ที่จอดรถ: ริมถนนMap:พิสูจน์อักษร:

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

วิทยา ลุยต่อเข้าคุย 3 แนวร่วมเปิดโปงซื้อขายเก้าอี้วงการสีกากี อ้างได้ข้อสรุปตรงกัน ซัด สตช.ใช้นิสัยตำรวจข่มขู่ จี้ บิ๊กตู่ ใช้ ม.44 แช่แข็งบัญชีโยกย้ายตำรวจจนกว่าจะปฏิรูปเสร็จภายใน 10 เดือน

อ้างรอปฏิรูป10เดือน สตช.ขู่ฟ้องทําเสียหาย,วิทยา ลุยต่อเข้าคุย 3 แนวร่วมเปิดโปงซื้อขายเก้าอี้วงการสีกากี อ้างได้ข้อสรุปตรงกัน ซัด สตช.ใช้นิสัยตำรวจข่มขู่ จี้ บิ๊กตู่ ใช้ ม.44 แช่แข็งบัญชีโยกย้ายตำรวจจนกว่าจะปฏิรูปเสร็จภายใน 10 เดือน ขณะที่รองโฆษก ตร.ระบุ กรณีแกนนำ กปปส.กล่าวเรื่องซื้อขายตำแหน่งใน บช.น. ยังเป็นเพียงการกล่าวหาลอยๆ ไม่เหมือน ภ.8 ขณะนี้ฝ่ายกฎหมาย ตร.และ บช.น. อยู่ระหว่างตรวจสอบจะเข้าข่ายความผิดใด, ,ความคืบหน้าเกี่ยวกับการเปิดโปงการซื้อขายตำแหน่งในวงการสีกากี โดยเมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 16 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส. และอดีตสมาชิก สปท.กล่าวว่า ได้เข้าพบ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ และ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แจ้งความทุกครั้งที่พูดถึงการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ เพื่อขอประสบการณ์จากทุกคน และได้ขอสรุปตรงกันว่า สตช.ใช้นิสัยตำรวจข่มขู่ เมื่อดูสำนวนคดีก็ไม่มีอะไรเลย แต่สร้างภาพจะแจ้งความจับกุม สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ ไม่ต้องพูดในสิ่งที่เขาขู่มา แต่จะให้กำลังใจรัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปตำรวจ เพราะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ พูดว่า การวิ่งเต้นโยกย้ายเป็นปัญหาหนึ่งของ สตช.ที่ทำให้ต้องปฏิรูป ดังนั้น เวลาที่เหลือ 10 เดือนจะต้องปฏิรูปให้เสร็จ โดยพวกตนจะเข้าไปช่วยดูเรื่องนี้ด้วย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะจบอย่างไร ถ้าทุกฝ่ายพร้อมจะจบ ต้องจบด้วยการปฏิรูปตำรวจ,นายวิทยากล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเคยระบุถึงการโยกย้ายว่า มีเมียลับๆของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไปเรียกรับเงิน 2 ล้าน 5 ล้าน 7 ล้านบาท วันรุ่งขึ้นก็มีการโยกย้าย พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 ตำรวจจะมาสอบถามว่ามีข้อมูลหรือไม่ ขอฝากบอกว่าเย็นนี้เจอกัน แต่คิดว่าต้องไปเอาข้อมูลจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพราะไม่เคยระบุว่าการวิ่งเต้นเกิดขึ้นที่ไหน หรือใครจ่ายเงิน ส่วนที่ระบุว่า พล.ต.ต.ใหญ่กว่า พล.ต.อ. ก็เช่นกันให้ไปถามกันเองว่าเป็นใคร ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีและนายวิษณุ ว่าก่อนปฏิรูปตำรวจเสร็จสิ้นภายในอีก 10 เดือนข้างหน้า ขอร้องให้ใช้มาตรา 44 ยุติการแต่งตั้งโยกย้ายไว้ก่อน จนกว่าจะปฏิรูปเสร็จสิ้น ดูสิว่ามันจะอดตายกันหรือไม่ ช่วงเดือน ส.ค. ต.ค.และ เม.ย.ปีหน้า รอการปฏิรูปก่อน ยังไม่ต้องโยกย้าย คิดว่าคงไม่ลงแดงตายกันไปก่อน แต่จะมีคนสาธุ,อดีตแกนนำ กปปส.กล่าวอีกว่า ตำรวจจะมาสอบตนในฐานะพยาน แต่หากจะออกหมายเรียกหรือหมายจับจะไม่ขอประกันตัว แต่จะให้นายกรัฐมนตรีไปประกัน เพราะท่านขอบคุณตนที่ให้ข้อมูล ดังนั้น ถ้ามีอะไร จะวิ่งหานายกรัฐมนตรี ขอให้ ผบ.ตร.คิดให้ดีแล้วกัน,วันเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า หลังจากนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.ปชป.ร้องเรียนการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจโดยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน ผบ.ตร.มิได้นิ่งนอนใจ และได้ให้จเรตำรวจแห่งชาติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ มีกรอบระยะเวลาดำเนินการที่ชัดเจน และเพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างอิสระและโปร่งใส มีคำสั่งให้ ผบช.ภ.8 มาปฏิบัติหน้าที่ยัง ศปก.ตร.เพื่อป้องกันความสับสนในการบริโภคข่าวสาร จึงชี้แจงเพิ่มเติมว่า ถึงตรงนี้ต้องแยกเรื่องนี้เป็น 2 ประเด็น คือ กรณีร้องเรียนที่เกิดขึ้นใน บช.ภ.8 มีการร้องเรียนเป็นหนังสือที่ระบุถึงพฤติการณ์ต่างๆ และนายวิทยาได้เป็นผู้เปิดประเด็นนี้ผ่านสื่อมวลชน ตร. มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตามที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ข้อมูลที่ได้รับนี้ ผบ.ตร.ได้ขอบคุณ และยืนยันว่าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นมีความเป็นอิสระในการตรวจสอบ ไม่มีการเข้าไปแทรกแซง และได้รับรายงานว่าคณะกรรมการตรวจสอบฯ จะนัดสอบปากคำจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อที่จะตอบคำถามของสังคม,พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีการกล่าวอ้างโดยนายวิทยา ผ่านสื่อมวลชนบางสื่อถึงปัญหาการซื้อขายตำแหน่งที่เกิดขึ้นใน บช.น. ที่มีอัตรามากกว่า บช.ภ.8 นั้น ในชั้นนี้ยังเป็นเพียงการกล่าวหาลอยๆ ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนมาเหมือนกรณีของ ภ.8 ดังนั้น ฝ่ายกฎหมายและ บช.น. อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าคำพูดของนายวิทยาที่กล่าวกับสื่อต่างๆจะเข้าข่ายความผิดกฎหมายใด เช่น หมิ่นประมาททำให้องค์กรตำรวจเสียหายหรือไม่ โดยปกติผู้ใดกล่าวอะไร ก็ต้องรับผิดชอบในคำพูดของตนเองอยู่แล้ว ตรงนี้เองเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2554 ที่โรงเรียนสิทธิชุมชนเขาคูหา หมู่ที่ 9 ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา นางสาวส.รัตมณี พลกล้า และนายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความจากศูนย์ข้อมูลชุมชน

ได้ลงพื้นที่เพื่อเตรียมข้อมูลต่อสู้ในคดีนางราตรี มณีรัตน์ นางวรรณี พรหมดง นางเอื้ออารีย์ มีบุญ นางสาวธัชพัณณ์ ถิระผะลิกะ และนางศิริวรรณ ถิระผะลิกะ ฟ้องบริษัท พีรพลมายนิ่ง จำกัด ฐานความผิดละเมิด เรียกร้องค่าเสียหายจากผลกระทบจากการดำเนินการเหมืองหินเขาคูหา ซึ่งศาลนัดเบิกความ ระหว่างวันที่ 21 – 24 มิถุนายน 2554 นางสาวส.รัตมณี พลกล้า และนายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความจากศูนย์ข้อมูลชุมชน ร่วมกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เตรียมข้อมูลในคดีชาวบ้านเขาคูหา ที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิดหิน ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท พีรพลมายนิ่ง จำกัด ในการนี้ นางสาวส.รัตมณีและนายธีรพันธุ์ได้ร่วมกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา รวบรวมเอกสาร ข้อมูล หลักฐาน และรายละเอียดเกี่ยวกับการแตกร้าว ที่เกิดจากการระเบิดหินของบริษัท พีรพลมายนิ่ง จำกัดของบ้านแต่ละหลัง นางสาวส.รัตมณี เปิดเผยว่า จากการลงสำรวจบ้านเของชาวบ้าน 6 หลังพบว่า แตกร้าวตรงบริเวณ เสา คาน ขอบประตู ขอบประตูหน้าต่าง จากแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดหิน คล้ายกันทุกหลัง ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ให้นายช่างวิศวกรรมโยธาเข้ามาตรวจสอบสภาพบ้าน ก่อนจะฟ้องเรียกค่าเสียหายมาก่อนแล้ว

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

คุณย่าวัย 83 ปี ย้อนความหลัง 50 ปี เคยรับเสด็จ ในหลวง ร.9 พร้อมถวายแหนมเนื้อแก้ว ของขึ้นชื่อของจังหวัดนครสวรรค์ เผย ยังจดจำความรู้สึกยินดีปลาบปลื้มใจในครั้งนั้นได้ไม่เคยลืม แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแล้วก็ตาม

วันที่ 21 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครสวรรค์ว่า ประชาชนทั้งประเทศต่างโศกเศร้าเสียใจ ส่วนประชาชนที่เคยใกล้ชิดและเคยเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดยเสด็จฯ ยังจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อทรงงาน และทรงเยี่ยมเยียนประชาชน เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2509 ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 จากจำนวน 9 ครั้ง ที่เสด็จฯ ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยครั้งนั้น เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่เสด็จฯ มาในครั้งนั้นนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2509 ที่ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จทรงงานในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และทรงเยี่ยมเยียนประชาชน,ด้าน นางวรรณา ชมภูรัตน์ อายุ 83 ปี ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 17/7 หมู่ที่ 7 ต.ยางตาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ได้นำภาพถ่ายสมัยเป็นสาว เมื่ออายุ 33 ปี เป็นหนึ่งในประชาชนจำนวนมาก ที่มีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พร้อมกับถวายแหนมเนื้อแก้ว ที่เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดนครสวรรค์ ที่บริเวณโถงกลางศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ โดยกล่าวเผยความรู้สึกว่า แม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ตนเองก็ยังจดจำความรู้สึกยินดี ที่ได้เฝ้าฯ และถวายแหนมเนื้อแก้ว แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เป็นอย่างดี ตนเองตื่นเต้นดีใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าในชีวิตของตนนั้นจะได้เฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 อย่างใกล้ชิดเป็นครั้งที่สอง พระองค์ทรงรับไปแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ตรัสว่า แหนมคงอร่อยมากนะคะ,ส่วนคนด้านขวามือสุดที่นั่งในภาพชื่อ นางสุนันท์ บรรตาทึก (คุณแม่ของนายสุธา บรรตาทึก ขทร.ยโสธร) เป็นพี่สาวของตนเองได้เสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณย่ายังเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังอีกว่า เมื่อสมัยคุณย่าอายุ 20 กว่าปี ได้ไปอยู่อาศัยที่จังหวัดเชียงใหม่ คุณย่ายังได้เข้าถวายงานในพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงนั้นยังเป็นสาววัยรุ่น โดยเพื่อนของคุณพ่อเป็นนายอำเภอสมัยนั้น ได้หาคนเข้าไปช่วยทำอาหารเพื่อรับแขกบ้านแขกเมืองที่มาจากประเทศเดนมาร์ก ซึ่งวันที่เข้าไปนั้นยังตื่นเต้นไม่หายเลยเพราะว่าจะต้องนั่งรถทหารขึ้นไปพร้อมกับวัตถุดิบต่างๆ เพื่อนำไปทำอาหารพื้นเมืองเหนือให้แขกบ้านแขกเมืองรับประทาน ตนเองนั้นดีใจและปลาบปลื้มที่ได้เข้าถวายงาน พร้อมเห็นบุญบารมีของพระองค์ท่าน เราทุกคนโชคดีที่เกิดมาในผืนแผ่นดินท่าน ต่อจากนี้มีความตั้งใจว่า เมื่อทำบุญทุกครั้งจะถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน และสวดมนต์ทุกคืน แถมยังเชื่อว่า ชาวไทยทุกคนคงไม่ลืมพระองค์ท่าน

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

พล.อ.ประวิตรบอกไม่จำเป็น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเผยยังไม่คุย ส่วน วันชัย ชี้ชักศึกเข้าบ้าน ขณะที่ นิพิฏฐ์ รองหัวหน้า ปชป. ค้าน ชี้ต่างจากพม่าเพราะเราอยู่ในระบบประชาธิปไตยมาก่อน นปช.

พล.อ.ประวิตรบอกไม่จำเป็น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเผยยังไม่คุย ส่วน วันชัย ชี้ชักศึกเข้าบ้าน ขณะที่ นิพิฏฐ์ รองหัวหน้า ปชป. ค้าน ชี้ต่างจากพม่าเพราะเราอยู่ในระบบประชาธิปไตยมาก่อน25 เม.ย. 2559 จากที่กรณีเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมาจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่าบรรยากาศการทำประชามติต้องไม่อยู่ในบรรยากาศของความกลัว ที่กลัวแม้กระทั่งการแสดงความคิดเห็น ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ คสช.ควรยกเลิกการทำประชามติเสีย รวมถึงการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจที่จะให้การทำประชามติเป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรมตามความฝันของ กกต.นั้น ในทางปฏิบัติแล้วสามารถเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย กกต. และผู้มีอำนาจควรเปิดกว้างให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สหภาพยุโรป (อียู) หรือองค์กรใดๆ ก็ตามในระดับนานาชาติมาสังเกตการณ์ในการลงประชามติอย่างเปิดเผย ซึ่งนี่เป็นเรื่องของความสุจริต โปร่งใส และความไว้เนื้อเชื่อใจข้อเสนอให้ยูเอ็น อียูหรือองค์กรระดับนานาชาติเข้ามาสังเกตการณ์ลงประชามติ ของ จตุพร นั้นส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาจากฝ่ายต่างๆ ดังนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะให้ต่างชาติเข้ามา รอให้มีการเลือกตั้งส.ส. ค่อยว่ากันอีกที และการที่พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองที่ออกมาคลื่อนไหวให้รับหรือไม่รับร่างฯ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะคุมเสียงของพรรคตัวเองได้หรือไม่ขณะที่ เสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ยังไม่มีการหารือเป็นรูปธรรมแต่อย่างใดวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกรณีด้วยว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ที่จะชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านโดยไม่จำเป็น คนไทยดูแลกันเองได้ พรรคการเมือง ประชาชน ทุกภาคส่วนมีสิทธิร้องเรียนหากเห็นการทุจริต ไม่จำเป็นต้องให้ต่างด้าวท้าวต่างแดนมาดูแลการชักชวนต่างชาติเข้ามา เท่ากับย่ำยีดูถูกถูกคนไทยด้วยกันเอง ดังนั้น รัฐบาลหรือใครถ้าทำทุจริตระหว่างทำประชามติถือเป็นการกระทำที่โง่เงา ไม่ควรยอมรับการกระทำนั้น นปช.เพียงแสดงท่าที พฤติกรรมเอะอะโวยวายพูดง่ายๆ ไม่ว่า คสช.กับรัฐบาลทำอะไร บรรดาแกนนำจะพยายามหาเรื่องอยู่ร่ำไป แต่รัฐบาล คสช.คงรู้ทันเกม ไม่หลงกระแสตามคนเหล่านี้ที่จงใจป่วนทั้งในและนอกประเทศ ต้องการสร้างสถานการณ์บ้านเมืองว่าไม่สงบเรียบร้อย หวังชักนำชาวต่างชาติเข้ามา ทั้งที่ปัญหาทั้งหมดเกิดจากพวกเขาเองทั้งสิ้น สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายทั้งที่ความจริงไม่มีอะไรเลยวันชัย กล่าวนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนี้ด้วยว่า สถานการณ์ไทยต่างกับพม่า เพราะพม่าหลังรับเอกราชจากอังกฤษ รัฐบาลทหารก็เข้ายึดอำนาจเป็นเวลานานกว่า50ปี และเพิ่งกลับเข้าสู่ระบบประชาธิปไตย ซึ่งพม่าสามารถปรับตัวหลุดพ้นจากระบบทหารได้รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยนั้น เดิมเราอยู่ในระบบประชาธิปไตยมาก่อน แต่เพิ่งจะสะดุดในช่วง3ปีที่ผ่านมา และขณะนี้เรากำลังจะเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยอีกครั้ง จึงไม่เห็นความจำเป็นใดที่ไทยต้องเปิดให้องค์กรระหว่างประเทศ หรือยูเอ็น อียูเข้ามา เพราะเท่ากับประจานประเทศเราเอง ว่าคนในชาติคุยกันไม่ได้ต้องดึงคนต่างชาติ มาแทรกแซงกิจการภายในของชาติไทย ทั้งที่เราแค่สะดุดล้ม และกำลังจะลุกขึ้นเพื่อเดินต่อนายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของพม่าที่ให้ต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์ เพราะเขาอยู่กับรัฐบาลทหารมาตลอด การเลือกตั้ง หรือทำประชามติใดๆ เขาไม่เคย ไม่มีประสบการณ์ แต่ไทยเราเลือกตั้งมาตามวาระ และประชามติก็เคยทำ มีประสบการณ์แล้วในรัฐธรรมนูญปี50เรารู้ เราเข้าใจ จึงไม่จำเป็นต้องดึงองค์กรต่างชาติ หรือคนชาติอื่นเข้ามายุ่งในกิจการภายในของเรา เพราะเมื่อจะเอาเขาเข้ามา ไม่ใช่ว่าจบง่ายๆ มันมีเงื่อนไขต่างๆมากมาย ตามมาอีกปัญหาจะไม่จบ ปัญหาในชาติไทย เราคนไทยแก้ไขกันเองได้

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตำรวจพังงานำหมายจับศาลรวบตัวเจ้าหนี้เงินกู้มือโหด ข้อหาจ้างวานฆ่าสาวจับปูเปรี้ยว คุมตัวไปสอบที่ สภ.ตะกั่วทุ่ง โดยผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยเตรียมคุมตัวส่งศาลขอฝากขังต่อไป

จากกรณีพบศพ น.ส.เหลือง พระชะนะ อายุ 38 ปี อาชีพหาปูเปรี้ยว ชาว จ.บุรีรัมย์ ถูกคนร้ายฆ่าโหดหมกร่องน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน เมื่อวันที่ 7 ส.ค.63 เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายภากร (เหล่ง) ทองวล อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจ่อยิง น.ส.เหลือง หรือน้อย พระชะนะ อายุ 38 ปี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา และให้การซัดทอดว่าได้รับการว่าจ้างให้กระทำการจากเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบรายหนึ่งในพื้นที่ล่าสุด วันที่ 19 ส.ค.2563 ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.เอกรัฐ สวนแสน ผกก.สภ.ตะกั่วทุ่ง พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รอง ผกก.สส. นำโดย ร.ต.อ.นัฐภณ หวานแก้ว รอง สว.สส. พร้อมชุดสืบสวน สภ.ตะกั่วทุ่ง เข้าร่วมจับกุม นายสุเทพ แซ่หย่อง อายุ 55 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 4 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ตามหมายจับคดีค้างเก่า ศาลจังหวัดพังงา ในคดีข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐานก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด ไม่ว่าด้วยการใช้ บังคับขู่เข็ญ จ้าง วาน หรือยุยง ส่งเสริม หรือด้วยวิธีการอื่นใด ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อนทั้งนี้ได้นำตัวส่ง พ.ต.ท.ศุภชัย เกื้อเส็ง พงส.สภ.ตะกั่วทุ่ง สอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวไปฝากขังเรือนจำพังงา พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไปสำหรับ นายสุเทพ แซ่หย่อง ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาว่า ปล่อยกู้ยืมเงินกำหนดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด พร้อมกับภรรยาชาวสุราษฎร์ธานี และได้ยื่นประกันตัวด้วยวงเงินจำนวนคนละ 50000 บาท ก่อนปล่อยตัวกลับภูมิลำเนา จนล่าสุดถูกนายภากร ผู้ต้องหาคดีฆ่าสาวหาปูเปรี้ยว ให้การซัดทอดว่าเป็นผู้จ้างวาน โดยให้เงินดำเนินการจำนวน 2500 บาทถ้วน.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ส่อเค้าวุ่น พบสาวบุกยิงเจ้าอาวาสวัดอารีทวีวนาราม 6 นัดรวด เป็นผู้ป่วยทางจิตของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครสวรรค์ ตร.เผยระหว่างสอบปากคำพูดจาวกวน แต่ยืนยันเสียงแข็งว่ามีสัมพันธ์กันจริง

จากกรณีสาววัย 31 ปี บุกยิง พระณัฐพล จิตรจำนงค์ อายุ 42 ปี เจ้าอาวาส วัดอารีทวีวนาราม บ้านหนองอีดุก หมู่ที่ 5 ต.ดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ได้รับบาดเจ็บสาหัสท่ามกลางสายตาชาวบ้านที่มาทำบุญวันพระกว่า 100 คน เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (,สาวบุกยิงเจ้าอาวาส6นัด อ้างถูกสั่งไปทำแท้ง จึงอยากให้รู้ถึงความเจ็บปวด,),ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 มี.ค. 60 ร.ต.อ.วิโชคชัย อ่อนละมัย ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและตรวจสอบเอกสารในตัวนางสาวบุ๋ม (นามสมมติ) พบว่ามีบัตรประจำตัวผู้ป่วยทางจิตเวชของโรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ ซึ่งตลอดเวลาที่สอบปากคำ นางสาวบุ๋ม จะพูดจาวกวน และยืนยันว่ามีสัมพันธ์กับพระณัฐพลจริง และปืนที่ใช้ก่อเหตุได้มาจากการรับจำนำจากคนอื่น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ,ทั้งนี้ จะต้องรอสอบปากคำพยานแวดล้อมคือชาวบ้านในชุมชนที่เกิดเหตุ และคำให้การจากปากของพระณัฐพล ต่อไป ส่วนนางสาวบุ๋ม คงจะต้องดำเนินการตามระเบียบผู้กระทำผิดที่เป็นผู้ป่วยจิตเวชคือ ส่งรักษาตัวต่อไป และจะได้ตามสืบหาตัวเจ้าของปืนต่อไปด้วย.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตกงาน-ห้ามเข้าป่า-ไร้เงิน-ไม่มีอาหาร ศึกรอบด้านกระทบ 7 หมู่บ้าน กลุ่มชาติพันธ์ ต.เชียงดาว เร่งฟื้นป่า ฟื้นคน จัดพิธีบวชป่าเพื่อเป็นแหล่งอาหารให้ชุมชน

วันที่ 6 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา กลุ่มชาติพันธ์หลากหลายชนเผ่า ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ร่วมกันจัดพิธีบวชป่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว ฝั่งตะวันออกน้ำแม่ปิง แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันอนุรักษ์ผืนป่า งดแผ้วถางในบริเวณนี้ และร่วมกันปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด เช่น พะยูง สมอพิเภก มะม่วงป่า เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ และสร้างแหล่งอาหารในป่าชุมชนนายนิคม พุทธา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่ปิง กล่าวว่า การบุกรุกขยายพื้นที่ทำกิน ปลูกพืชเชิงเดี่ยวเกิดขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้ป่าบริเวณนี้กลายสภาพเป็นเพียงป่าเล็กป่าน้อยขาดความอุดมสมบูรณ์ขณะเดียวกันการทำเกษตรเชิงเดี่ยว ต้นทุนการผลิตสูงแต่ควบคุมการตลาดไม่ได้ เกิดภาวะหนี้สิน ปีนี้ยิ่งถูกซ้ำเติมอย่างหนัก จากภัยแล้ง การขยายเวลาห้ามเข้าป่าช่วงไฟป่า และการระบาดของไวรัส COVID-19 ชาวบ้านจึงไม่มีรายได้ ขาดแคลนอาหาร และความสามารถในการพึ่งพาตนเองกลุ่มชาติพันธ์ที่อาศัยใน ต.เชียงดาว ส่วนใหญ่ทำเกษตร รับจ้างทั่วไป และไม่มีสัญชาติไทย จึงประสบปัญหาในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของรัฐ รวมถึงมาตรการเยียวยาล่าสุดจากผลกระทบ COVID-19โครงการอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่ปิงจึงระดมข้าวของ บริจาคช่วยเหลือ 7 หมู่บ้าน ในต.เชียงดาว เพื่อบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้า และการบวชป่าครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทุกภาคส่วนร่วมกันหาทางออกในระยะยาวผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประชาชนที่ต้องการร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือแบ่งปัน ให้กับชาวบ้านที่ยากลำบาก มีฐานะยากจน ด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง ยา เวชภัณฑ์ และเมล็ดพันธุ์พืช ร่วมบริจาคได้ที่ โครงการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำแม่ปิง 22 หมู่บ้านส่งไปได้ที่ ค่ายเยาวชนเชียงดาว 530 หมู่ 6 ต.เชียงดาว อ. เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 50170 (ไม่รับบริจาคเงิน) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.081-992-6031

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ที่มาภาพสถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5 เม.ย. 2560 รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเวลาที่ผ่านามา 20.08 น. ห้องวิทยุ จส.100 รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่หน้ากองสลากเก่า ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพมหานคร

5 เม.ย. 2560 รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเวลาที่ผ่านามา 20.08 น. ห้องวิทยุ จส.100 รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่หน้ากองสลากเก่า ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพมหานคร โดยเป็นระเบิดปิงปอง ซุกในถังขยะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่เก็บขยะของ กทม. หูอื้อจากเสียงระเบิดโดยพ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม บอกว่า เวลาประมาณ 20.00 น. เกิดเสียงดังคล้ายระเบิด หรือประทัด ขึ้นบริเวณถังขยะทางเดินเท้า ซึ่งเป็นที่จอดรถของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดีเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดภายในถังขยะวางอยู่บริเวณริมรั้วทางเท้า เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด ของกรุงเทพมหานคร เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า ขณะกำลังกวาดทำความสะอาด บริเวณตู้ไปรษณีย์บนทางเท้า เกิดเหตุระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ทันที เนื่องจากอยูใกล้กับจุดเกิดเหตุโดยผู้บาดเจ็บทราบชื่อ คือ สุริยาพร พูลสมบัติ มีอาการหูอื้อ ลูกจ้างชั่วคราว สำนักงานเขตห้วยขวาง และ พิมพ์วรา รวีนพสิทธิ์ บาดเจ็บเล็กน้อยมีรอยแดงที่แขน ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้วขณะที่สาเหตุและชนิดของระเบิด ยังคงอยู่ระหว่างตรวจสอบ โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุดังกล่าวด้วย โดยเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปดูจุดเกิดเหตุด้วยตนเอง

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

Nana Coffee Roasters ร้านกาแฟในซอยนานา เกิดจากการรวมตัวกันของสไตลิสต์และเจ้าของธุรกิจร้านดอกไม้ Oneday Wallflowers ร่วมกับสองผู้ก่อตั้ง Nana Coffee Roasters ร้านกาแฟและโรงคั่วแถวหน้าของวงการกาแฟไทย เน้นเสิร์ฟกาแฟคุณภาพสูงจากแหล่งปลูกชั้นดี (Specialty Coffee)เมนูซิกเนเจอร์ที่ใครๆ กล่าวถึงคือ Boisson de Kanda กาแฟดำมิกซ์กับน้ำลิ้นจี่และ Rose Lemonade ให้รสเปรี้ยวซ่าและสดชื่น ดื่มง่าย แต่สำหรับคอกาแฟ เราอยากแนะนำกาแฟฟิลเตอร์ เช่น Maker Series และ Nitro Cold Brew ที่ใช้กาแฟดริปแทนกาแฟสกัดเย็น

เราเดินลัดเลาะเข้าไปในตรอกเล็กๆ ของซอยนานา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหัวลำโพงและเยาวราช แวดล้อมไปด้วยตึกเก่าทรงเสน่ห์ กลิ่นหอมสดชื่นจากดอกไม้เคล้าอโรมาของกาแฟที่ลอยโชยออกมา บอกให้รู้ว่าเรามาถึงที่นัดหมายแล้วNana Coffee Roastersซอยนานา คือร้านกาแฟแห่งใหม่ประจำย่านที่ซ่อนตัวอยู่ในร้านดอกไม้ Oneday Wallflowers Oldtown ของ คุณลักษณ์-ณัฐพัชร สุริยะกำพล ซึ่งตอนแรกตั้งใจจะทำเป็นออฟฟิศส่วนตัวและเปิดให้คนทั่วไปมาเยี่ยมชมเฉพาะเวลามีงาน Open House ประจำปีเท่านั้น แต่ด้วยพื้นที่ของชั้น 2 ที่ยังว่าง และสไตล์การตกแต่งร้านอันแสนมีเอกลักษณ์ (เช่นเดียวกับดอกไม้ที่เขาคัดสรรมาให้เลือก) ก็เป็นที่ถูกใจของผู้มาเยือน ทำให้เขาตัดสินใจชวน คุณกุ้ง-วรงค์ ชลานุชพงศ์ กับ คุณกุ้ง-กานดา โทจำปา สองผู้ก่อตั้ง Nana Coffee Roasters ร้านกาแฟและโรงคั่วกาแฟแถวหน้าของวงการมาร่วมงานกันในฐานะพาร์ตเนอร์ ที่สำคัญ พวกเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบและรสชาติสุดๆ กับเครื่องดื่มทุกแก้วและขนมโฮมเมดทุกจาน โดยเฉพาะการคัดสรรเมล็ดกาแฟสายประกวดจากแหล่งปลูกต่างๆ ที่ผ่านกระบวนการชั้นดีและได้รับรางวัลการันตีมาให้ทุกคนได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดตามสโลแกน Best Aroma Everydayเมื่อเครื่องดื่มถูกเสิร์ฟและบทสนทนาเริ่มต้นขึ้น เราก็ตกหลุมรักและสนุกกับการดื่มด่ำประสบการณ์กรุ่นกลิ่นกาแฟในร้านนี้ทันที ไม่ว่าคุณจะเป็นคอกาแฟหรือไม่ เราก็ไม่อยากให้ใครพลาดThe Vibeหลายๆ คนอาจคุ้นเคยกับการออกแบบตกแต่งคาเฟ่ของสไตลิสต์ฝีมือดีอย่างคุณลักษณ์จาก Casa Lapin สุขุมวิท 26 อยู่บ้าง แต่ร้านนี้พิเศษตรงที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างอินดัสเทรียลดีไซน์กับมินิมัลลิสต์ โดยยังคงเสน่ห์ของโครงสร้างตึกแถวเก่าอายุเกือบ 100 ปีเอาไว้ เน้นความโปร่งของพื้นที่ด้วยเพดานสูง ให้แสงลอดผ่านตามธรรมชาติ บวกกับการตกแต่งบรรยากาศรอบๆ ด้วยดอกไม้นานาชนิดก็ชวนให้รู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ในสวนเรือนกระจกอยู่ไม่น้อย แต่ละชั้นจะมีมุมน่ารักๆ สำหรับนั่งจิบกาแฟ และแน่นอน แชะภาพสวยมากตามสมัยนิยม บาร์กาแฟบนชั้น 2ชั้น 2 จะมีบาร์กาแฟด้านใน ซึ่งหากใครเดินเข้าไปก็จะสะดุดตาทันทีกับเคาน์เตอร์ทองแดงแวววาว ตัดกับสีเข้มของผนังแผ่นไม้ที่ใช้เทคนิคการเผาไม้ตั้งตระหง่านอยู่ด้านล่างพร้อมกับภาพวาดแผนที่โลก ที่เด็ดสุดคือทางร้านใช้ Modbar หรือบาร์ชงกาแฟดีไซน์เฉียบล้ำของ La Marzocco เพื่อที่จะดึง Floral (กลิ่น) และ Flavour (รสสัมผัส) ของกาแฟออกมาให้ดีที่สุดอีกด้วย และถ้าใครอยากจะปลีกวิเวกก็ยังมีดาดฟ้าชั้น 3 ซึ่งเหมาะกับการนั่งละเลียดขนมและเครื่องดื่มสุดโปรด พลางชมวิวของเมืองเก่าเป็นที่สุดคอนเซปต์ของเราก็คือสิ่งที่เราทำกันเองและดีที่สุดสำหรับเรา ไม่อย่างนั้นเราจะไม่ทำ เราคิดว่าลูกค้าก็เหมือนกับแขกที่มาเที่ยวที่บ้าน เราจึงอยากให้เขารู้สึกประทับใจและอยากกลับมาอีก ทุกอย่างมันมาจากความตั้งใจเต็มที่ ส่วนเรื่องสไตล์มันก็เป็นสไตล์ของ Oneday Wallflowers มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แค่เพิ่มเติมอะไรนิดหน่อย แล้วก็จะมีดีไซน์บางส่วนที่เราอยากทำ เช่น เอาไม้ไปเผา ใช้พร็อพเป็นแผ่นทองแดงจริงๆ คุณลักษณ์เล่าถึงไอเดียการออกแบบร้านแห่งนี้เมนูซิกเนเจอร์ Boisson de Kanda The Drinksคุณกานดา โทจำปา แชมป์บาริสตาอันดับ 3 จากเวทีการแข่งขัน World Es Yenn Championship คือผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบเมนูเครื่องดื่มทั้งหมดของทางร้าน ซึ่งมีหลากหลายเมนูให้เลือกสรร ตั้งแต่ประเภทเมล็ดกาแฟไปจนถึงวิธีชง เช่น Drip Aeropress Cold Brew ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพ เริ่มจากเมนูกาแฟดำ (Black) เช่น Espresso (100 บาท) โดย House Blend ของทางร้านจะใช้เมล็ดกาแฟมากถึง 5 แหล่งคือ บราซิล โคลัมเบีย กัวเตมาลา เคนยา และเอธิโอเปีย เพื่อให้ได้รสชาติที่บาลานซ์ ดื่มง่าย ไม่ติดขม และทิ้งความหวานในตอนท้าย (เราสามารถเลือกเป็นเมล็ด Single Origin ก็ได้) สำหรับคอกาแฟที่มองหาความซับซ้อนหน่อย แนะนำให้ลองสั่งกาแฟฟิลเตอร์ (Filter) เพราะที่นี่จะเลือกใช้เมล็ดจาก Ninety Plus ที่แชมป์แต่ละประเทศได้ทำ process เอง โดยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในแต่ละเดือน เช่น Juliette (300 บาท) กาแฟดำสายพันธุ์เกอิชา ปานามา ที่ใช้ Natural Processed ส่งกลิ่นหอมของดอกไม้อวลในปากตั้งแต่แรกจิบ นอกจากนี้เรายังได้ข่าวมาว่าเดือนนี้ทางร้านยังเอากาแฟระดับตำนาน Jamaica Blue Mountain มาให้ลองกันอีกด้วยนะ DirtyNitro Cold Brewสำหรับคนที่อยากลองประสบการณ์ใหม่ๆ หรือมองหาสตอรีที่น่าสนใจ ทางร้านมีเมนูซิกเนเจอร์ Boisson de Kanda (250 บาท) กาแฟดำที่มีส่วนผสมของเอสเพรสโซช็อต ลิ้นจี่ และเพิ่มความเปรี้ยวซ่าด้วย Rose Lemonade พร้อมโรยกลีบกุหลาบสีสวยและใบมินต์เป็นอันจบ เมนูนี้คุณกุ้งตั้งใจสร้างสรรค์กาแฟที่คล้ายกับไวน์ แต่ไม่มีแอลกอฮอล์ เน้นความสดชื่น ดื่มง่าย รุ่มรวยทั้งรสและกลิ่น จนได้รับรางวัล Signature Drink Award 2016 มาแล้ว นอกจากนี้ยังมี Dirty (150 บาท) กาแฟนมสูตรพิเศษที่เพิ่มความมันเข้มข้นด้านล่างด้วย Half Cream เข้าคู่กันดีกับรสออกแนวถั่วและช็อกโกแลตของกาแฟสัญชาติบราซิล เมนูนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยดื่มกาแฟบ่อยๆ อีกด้วยนะ แต่ที่เซอร์ไพรส์เราเป็นพิเศษคือ Nitro Cold Brew (250 บาท) ซึ่งทางร้านจะดริปกาแฟแทนการสกัดเย็น แล้วอัดก๊าซไนโตรเจนจนได้กาแฟพร้อมโฟมเนียนนุ่มด้านบน ทำให้ยังคงคาแรกเตอร์ของกาแฟเอธิโอเปียที่ออกเปรี้ยวแบบฟรุ้ตตี้ได้เด่นชัด และไม่ขมเข้มเกินจนไร้มิติเห็นเมนูละลานตาขนาดนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจ ใครกลัวสั่งไม่ถูกก็สามารถขอคำแนะนำจากบาริสตาและพนักงานได้ที่เคาน์เตอร์เลย สำหรับคนที่ไม่ถนัดกาแฟแต่ใจรักคาเฟ่ก็ยังมีอีกหลายเครื่องดื่มที่น่าลอง เช่น Curiosity Cola (150 บาท) และ Thai Tea – Level Up (150 บาท)ราคามันอาจจะสูงกว่าคาเฟ่ปกติ แต่สินค้าทุกอย่างเกรดดี เราเทียบแค่ราคาอย่างเดียวไม่ได้ เลยอยากให้ชิมกาแฟของเราก่อน เพราะเมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์ แต่ละสถานที่ แต่ละคนคั่วนั้นมีกระบวนการที่แตกต่างกันมากและมีราคาสูงมากด้วย ซึ่งก็เหมือนกับงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่หาซื้อในท้องตลาดไม่ได้ บางล็อตต้องรอเป็นปีๆ กว่าจะได้มา คุณลักษณ์กล่าวเราตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 100 ไปจนถึง 750 บาท ซึ่งเป็น Maker Series หรือกาแฟของแชมป์แต่ละประเทศ เพราะกรีนบีนมันแพง ประมาณ 5000 เหรียญต่อกิโลกรัม ยังไม่ได้คั่วนะ แต่มันหาไม่ได้ง่ายๆ ราคาสูงก็จริง แต่คนก็ยอมรับกันมาก เพราะเขาไม่เคยกินแบบนี้มาก่อน คุณกุ้งเสริมDark Beer CakeThe Dishesทางร้านยังมีเบเกอรีทำเองสดใหม่พร้อมเสิร์ฟทุกวัน แถมยังไม่ทิ้งคอนเซปต์การตกแต่งด้วยดอกไม้ เช่น Brownie (75 บาท) และ Dark Beer Cake (150 บาท) คุณลักษณ์ยังแอบบอกกับเราว่าพวกเขาวางแผนจะเปิดโซนร้านอาหารราวๆ เดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์ที่มาเติมเต็มให้โปรเจกต์ The Ground of Wallflowers แห่งนี้สมบูรณ์โปรเจกต์นี้เราใช้ชื่อว่า The Ground of Wallflowers หมายถึงอาณาจักรของร้านดอกไม้ ก็จะมีร้านอาหารที่ใช้คอนเซปต์เดียวกัน เราจะเลือกเฉพาะวัตถุดิบดีๆ คนปรุงมีความตั้งใจทำให้เหมือนกัน มันก็เหมือนกับที่เราหาดอกไม้หน้าตาประหลาด คุณภาพดีๆ มาจัดให้กับลูกค้าOneday Wallflowers x Nana Coffee RoastersOpen: วันจันทร์-อาทิตย์ (ปิดเฉพาะวันพุธ) เวลา 11.00-19.00 น.Address: เลขที่ 31-33 ซอยนานา ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ Contact: 08 9775 0006Budget: เริ่มต้นที่ 100 บาทPage: www.facebook.com/nanacoffeeroastersMap:

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

กรุงเทพโพลล์ เผย คน 63.4% หนุนใช้ม.44 ให้อำนาจกรมบังคับคดี ยึดทรัพย์คดีจำนำข้าว พร้อมเสนอเพิ่มโทษอื่นนอกเหนือยึดทรัพย์ ชี้เป็นคดีทำให้นักการเมืองตระหนักถึงความสุจริตในหน้าที่

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน อายุ 18 ปี ขึ้นไป จำนวน 1,150 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เรื่อง ประชาชนคิดเห็นอย่างไรต่อการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าว โดยความเห็นต่อการใช้ มาตรา 44 ให้อำนาจกับกรมบังคับคดีในการตรวจสอบคดีโครงการรับจำนำข้าว พบว่า ประชาชน ร้อยละ 63.4 เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า จะทำให้ความจริงปรากฏเร็วขึ้น (ร้อยละ 32.9) และทำให้การดำเนินคดีมีความคืบหน้าเร็วขึ้น (ร้อยละ 30.5) ขณะที่ร้อยละ 36.6 ไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า ควรให้ศาลยุติธรรมดำเนินคดีไปตามกระบวนการมากกว่า (ร้อยละ 25.4) และเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง (ร้อยละ 11.2),สำหรับความเห็นต่อการออกคำสั่งให้มีการยึดทรัพย์กว่า 2 หมื่นล้าน จากผู้กระทำผิดโครงการรับจำนำข้าวในส่วนการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ประชาชนร้อยละ 44.2 ระบุว่า ควรเพิ่มบทลงโทษอย่างอื่น นอกเหนือจากการยึดทรัพย์ รองลงมา ร้อยละ 27.7 ระบุว่า เป็นการเรียกร้องค่าเสียหายที่คุ้มค่าแล้ว และร้อยละ 14.8 ระบุว่าเป็นการเรียกร้องค่าเสียหายที่น้อยไป,เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าผลจากการดำเนินคดีว่าจะมีการสร้างความปั่นป่วนหรือการปลุกระดมจากกลุ่มผู้ที่ไม่พอใจคำสั่งทางการปกครอง ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.6 ระบุว่าไม่กังวล ขณะที่ร้อยละ 41.4 ระบุว่ากังวล,ด้านความเห็นต่อการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวว่าส่งผลต่อนักการเมืองและข้าราชการให้หยุดพฤติกรรมการทุจริตคอร์รัปชันมากน้อยเพียงใด ประชาชนร้อยละ 37.4 เห็นว่าส่งผลค่อนข้างมาก รองลงมาร้อยละ 23.5 เห็นว่าส่งผลมาก และร้อยละ 21.6 เห็นว่าส่งผลค่อนข้างน้อย,ส่วนความเห็นต่อการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวว่าส่งผลอย่างไรกับสังคมไทยนั้น ประชาชน ร้อยละ 35.3 ระบุว่า ทำให้นักการเมืองตระหนักถึงความสุจริตในหน้าที่ รองลงมาร้อยละ 30.6 ระบุว่าทำให้ประชาชนคิดว่ากฎหมายสามารถเอาผิดนักการเมืองได้จริง และร้อยละ 21.9 ระบุว่าจะได้เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับการเมืองไทย,สุดท้ายเมื่อถามความพึงพอใจต่อภาพรวมความคืบหน้าในการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าว พบว่า ประชาชน ร้อยละ 33.1 พึงพอใจค่อนข้างมาก รองลงมาร้อยละ 29.2 พึงพอใจมาก และ ร้อยละ 27.1 พึงพอใจค่อนข้างน้อย.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

อาลัยพ่อ!! ชาว จ.กาญจนบุรี 2 แสนคน ต่อแถวรอถวายดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ณ เมรุมาศจำลอง เกาะสมเด็จพระญาณสังวร ต.ปากแพรก อ.เมือง โดยมี รองผวจ.กาญจนบุรี เป็นประธานในพิธี
 


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 ต.ค.60 นายณรงค์ รักร้อย รองผวจ.กาญจนบุรี นายบวรศักดิ์ วานิช รองผวจ.กาญจนบุรี เป็นประธานพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่พระเมรุมาศจำลอง (ช่วงแรก) ณ เกาะสมเด็จพระญาณสังวร ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมีประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีกว่า 50,000 คน เข้าร่วม ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก โดยประชาชนต้องต่อแถวยาวเกือบ 2 กิโลเมตร เพื่อรอการเข้าจุดคัดกรองเพื่อเข้าสถานที่รัฐพิธี,

,ขณะเดียวกันถนนสายหลักและสายรองเกือบทุกสาย เช่น ถนนแสงชูโต และถนนอู่ทอง ปริมาณรถที่วิ่งผ่านไปมานั้นมีจำนวนน้อยมาก ส่วนอาคารห้างร้านต่างๆ ได้ปิดทำการ ทำให้บรรยากาศภายในตัวเมืองเป็นไปอย่างเงียบสงบ เนื่องจากทุกคนต่างมุ่งหน้าไปที่พระเมรุมาศจำลอง เพื่อร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่พระเมรุมาศจำลอง

,มีรายงานข่าวว่า มีพสกนิกรชาวกาญจนบุรี ได้ไปร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตามจุดถวายดอกไม้จันทน์ตามอำเภอต่างๆ 12 แห่ง แต่ละที่มีประชาชนจำนวนหลายหมื่นคนเข้าแถวรอการถวายดอกไม้จันทน์ ประเมินเบื้องต้นทั้ง จังหวัดกาญจนบุรีน่าจะมีประชาชนร่วมพิธี ไม่ต่ำกว่า 200,000 คน.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

บรรยากาศการฉลองและเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น วันที่ 2 ยังคงคึกคัก คาดว่านักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 300000 คน และมีเงินสะพัดมากกว่า100ล้านบาท

บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ ถ.ข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น วันที่ 2 ยังมีความคึกคัก ตั้งแต่ช่วงบ่าย หลังมีการปิดถนนข้าวเหนียว ท่ามกลางบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์แบบประหยัด ภายใต้ชื่องานซิดแทนสาด ช่วยชาติประหยัดพลังงาน และคาดว่าในช่วงเย็นจะมีประชาชนทยอยมาเล่นน้ำมากขึ้นส่วนสภาพถนนข้าวเหนียวในปีนี้ ไม่มีน้ำขัง จากการเล่นสาดน้ำ เหมือนในปี2555 ซึ่งสาเหตุมาจากการรงรงค์ประหยัดน้ำ แต่ยังมีความสนุกสนานเหมือนเดิม ส่วนบริเวณรอบนอกถ.ข้าวเหนียว การประปาส่วนภูมิภาค จ.ขอนแก่น นำน้ำประปามาขายให้ประชาชนในราคาถูก แม้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่อให้ประชาชนได้เล่นน้ำที่สะอาด พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเล่นน้ำอย่างประหยัด ด้านนายสุรพันธ์ จันทร์โชโต หัวหน้างานลูกค้าสัมพันธ์ การประปาส่วนภูมิภาค เขต 6 กล่าวว่า ถ้าเกิดไม่ให้บริการน้ำประปาประชาชน จะทำให้ประชาชนเล่นน้ำคลองและน้ำบึ้ง ซึ่งเป็นน้ำที่ไม่สะอาด และอาจเกิดอันตรายได้ ขณะเดียวกัน วันนี้เป็นวันครอบครัว ทำให้บรรยากาศตามวัดต่างๆ จ.ขอนแก่น มีประชาชนพาครอบครัวไปร่วมทำบุญ โดยเฉพาะที่วัดหนองแวง (พระอารามหลวง) มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ และโดยร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ ทั้งนี้นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นคาดการณ์ว่าเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 300000 คน และมีเงินสะพัดประมาณ 500-600 ล้านบาท

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ศูนย์เฝ้าระวังเชิงองค์ความรู้สถานการณ์ภาคใต้ ฉบับที่ 1 ปีที่ 2 เดือน กุมภาพันธ์ 2550 ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี รายงานผลการวิเคราะห์

ศูนย์เฝ้าระวังเชิงองค์ความรู้สถานการณ์ภาคใต้ฉบับที่ 1 ปีที่ 2 เดือน กุมภาพันธ์ 2550ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี รายงานผลการวิเคราะห์ ผลความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จากข้อมูลในฐานข้อมูลของศูนย์เฝ้าระวังฯ นับตั้งแต่ 1 มกราคม 2547 ถึง 31 มกราคม 2550 รวมเวลา 37 เดือน หรือ ในรอบ 3 ปีกับอีก 1 เดือนของความรุนแรงในพื้นที่มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 2034 รายและบาดเจ็บ ประมาณ 3101 ราย มีเหตุการณ์ความรุนแรงที่ประกอบไปด้วยการยิงสังหาร การวางระเบิด วางเพลิงและการก่อกวนด้วยวิธีต่างๆรวม 6094 ครั้งเป็นที่น่าสังเกตว่านับตั้งแต่ปลายปี 2549 หลังจากการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณในวันที่ 19 กันยายน ระดับความเหตุการณ์ลดลงเล็กน้อยในเดือนกันยายนและตุลาคม แต่หลังจากนั้นความถี่ของเหตุการณ์ความไม่สงบก็ไต่ระดับสูงขึ้นอีกโดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม อาจจะกล่าวได้ว่าตลอดทั้งปี 2549 ถ้าไม่นับเดือนสิงหาคมอันเป็นช่วงเดือนสุดท้ายของรัฐบาลทักษิณซึ่งสถิติความรุนแรงสูงสุดถึง 286 ครั้ง เหตุการณ์ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมเกิดขึ้น 208 และ 193 ครั้งซึ่งนับว่าสูงกว่าระดับความรุนแรงโดยเฉลี่ยของทุกเดือนในปี 2549 เดือนมกราคมของปี 2550 มีเหตุการณ์เกิดขึ้นรวม 132 ครั้ง ซึ่งสูงมากสำหรับเหตุการณ์ในช่วงต้นปี ก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2547-2549 ข่วงต้นปีเหตุการณ์จะไม่สูงมากเท่านี้ แสดงให้เห็นความรุนแรงที่น่าจะมีระดับสูงขึ้น จำนวนผู้ตายและบาดเจ็บก็อาจจะมีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย ทำให้ต้องคำนึงถึงนโยบายและวิธีการในการแก้ปัญหาที่จะต้องแก้ให้ทันทั้งทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธี แม้ว่ารัฐจะพยายามแก้หลายอย่างแต่ก็จะต้องเร่งเครื่องให้มากกว่านี้ให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเร็วมากในพื้นที่โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเกิดเหตุการณ์ในขณะนี้ป่วนช่วงตรุษจีน : สัญญาณอันตรายเมื่อพิจารณาถึงท่าทีของรัฐบาลต่อปรากฏการณ์ดังกล่าว ผ่านโฆษกกองทัพบกที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลายแขนง มีท่าทีและน้ำเสียงเชื่อในสมมติฐานที่ว่า เป็นฝีมือของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินมากขึ้น รวมถึงยอมรับความสามารถอันมีอยู่จำกัดด้านการข่าวของทางการว่าสามารถทำได้เพียงรู้ล่วงหน้าว่าจะมีเหตุ แต่ไม่สามารถกำหนดรายละเอียดของปฏิบัติการทั้งหมดได้จากหลักฐานในระดับปฐมภูมิเชื่อว่า การใช้สารตั้งต้นและการประกอบวัตถุระเบิด มีความใกล้ เคียงกับเหตุการณ์ระเบิดกรุง 8 จุดในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปี 2550 ซึ่งอาจนำไปสู่สมมติฐานว่าทั้งสองเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงระหว่างกันจากการพิจารณาเหตุที่เพิ่งเกิดขึ้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 (วันตรุษจีน) กับเหตุเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2549 (วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่) ที่ผ่านมามีความคล้ายคลึงกันประการหนึ่งก็คือ เป็นการก่อวินาศกรรมในช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองที่มีความที่มีภาวะความระมัดระวังในชีวิตและทรัพย์สินต่ำ ซึ่งหากพิจารณาตีความในเชิงสัญลักษณ์ จะพบคู่ความต่างของความขัดแย้ง (Binary Opposition) ทางชาติพันธุ์ กล่าวคือ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2549 เป็นวันเฉลิมฉลองของกลุ่มชาวไทยพุทธ ที่สามารถอ้างอิงไปถึงประเพณีการขึ้นปีใหม่แบบสากล โดยมีคู่ความขัดแย้งระหว่าง กลุ่มชาวไทยพุทธกับกลุ่มมลายูมุสลิม ที่ถ่ายโยงให้เห็นความพยายามในการต่อต้านรัฐไทยขณะเหตุที่เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 (วันตรุษจีน) เป็นการกระทำที่สะท้อนให้เห็นถึงภาวะความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาวไทยเชื้อสายจีนกับกลุ่มมลายูมุสลิม ที่ถ่ายโยงให้เห็นการตอบโต้และไม่พึงพอใจต่อกลุ่มชาวไทยเชื้อสายจีนที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจในพื้นที่และสามารถผสมกลม กลืน จนมีสถานะทางสังคมเป็นที่ยอมรับกันในสังคมทั่วไป ขณะที่กลุ่มมลายูมุสลิมถูกผลักดันให้อยู่ชายขอบและไม่สามารถผสมกลมกลืนอัตลักษณ์ของตนเข้ากับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้ดังนั้นในวันสำคัญอย่างอื่นๆ โดยเฉพาะวันตรุษ - สารท ที่มีการรื่นเริง เฉลิมฉลองของประชาชน เช่น วันสงกรานต์ (13 เมษายน ของทุกปี) รัฐจึงต้องให้การดูแลพิทักษ์ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่บริสุทธิ์เป็นพิเศษ เนื่องจากในเชิงสัญลักษณ์วันดังกล่าวเป็นคู่ขัดแย้งระหว่างชาวไทยพุทธกับกลุ่มมลายูมุสลิม จึงเป็นความขัดแย้งที่ขยายมาสู่ระดับแนวนอนที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนด้วยกัน (Horizontal Relation) จากเดิมที่เป็นแต่เพียงระดับแนวดิ่ง (Vertical Relation) คือรัฐกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเท่านั้นนอกจากนี้ยังพบว่า เหตุการณ์ก่อวินาศกรรมในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 จุดเกิดเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลักๆ คือ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส อ.เมือง จ.ยะลาและ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งนอกจากเป็นเขตชุมชนที่กลุ่มคนไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นแล้ว ยังเป็นพื้นที่ๆ มีสถานบันเทิงประเภท สวนอาหาร คาราโอเกะและสถานบริการต่างๆ ที่ขัดต่อหลักการทางศาสนาอิสลามอีกด้วยท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว อยู่ในภาวะของกระแสข่าว การดำเนินการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งมีการประเมินกันว่า ภายหลังจากการเยือนประเทศอย่างเป็นทางการ ของ นายอุลดุลลาห์ อาหมัดบาดาวี นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่าทีการตอบรับของรัฐบาลมาเลเซียในการเป็นกลางในการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมีความเป็นไปได้สูงแหล่งข่าวระดับสูงสายความมั่นคง ตั้งข้อสังเกตว่ายิ่งแนวโน้มการดำเนินการเจรจาของผู้ก่อความไม่สงบมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเท่าใด การก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ประการหนึ่งเนื่องมาจากกลุ่มคนหนุ่มซึ่งเป็นฝ่ายปฏิบัติการในพื้นที่ เป็นหน่วยงานระดับเซลล์ที่มีความอิสระ จนระดับแกนนำที่วางยุทธศาสตร์ ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ เป็นการแสดงออกอย่างกลายๆ ของคนหนุ่มที่ปฏิบัติการก่อความไม่สงบว่าไม่ใยดีต่อแนวทางสันติภาพและสมานฉันท์แต่อย่างใด

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ชาวพุทธเดียนเบียนฟู เมืองแห่งประวัติศาสตร์เวียดนาม ตื่นเต้นดีใจ ต้อนรับ คณะธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ร่วมสวดมนต์ ตักบาตรกับคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ 5 ประเทศ แน่นขนัดวัดหลิ่นกวาง

วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าโครงการธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง ไทย เมียนมา สปป.ลาว เวียดนาม กัมพูชา ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง มูลนิธิวีระภุชงค์ สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ชมรมโพธิคยา ผู้นำคณะสงฆ์ ผู้นำระดับประเทศ และผู้นำท้องถิ่นของทั้ง 5 ประเทศ,หลังจาก นายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ได้นำคณะธรรมยาตราเดินทางเข้าสู่ จ.เดียนเบียนฟู ของประเทศเวียดนาม ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวเวียดนาม ที่นำโดย พระทิก ทัง กวี รองหัวหน้าคณะกรรมการพุทธสมาคมจังหวัดเดียนเบียนฟู และกรรมการพุทธสมาคมประเทศเวียดนาม พระทิก บิ๋ว ชิ้ง กรรมการพุทธสมาคมประเทศเวียดนาม และรองหัวหน้าแผนกต่างประเทศของพุทธสมาคมประเทศเวียดนาม นายซิง เลขาธิการพุทธสมาคมจังหวัดเดียนเบียนฟู ตั้งแต่เขตชายแดน สปป.ลาว-เวียดนาม ก่อนนำคณะธรรมยาตราเดินทางไปเข้าร่วมพิธีปิดงานวัฒนธรรมชนเผ่าไทย จ.เดียนเบียนฟู,ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 ต.ค. คณะได้ธรรมยาตราไปยังพระอุโบสถของวัดหลิ่นกวาง ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา พร้อมการแนะนำพระผู้ใหญ่และแขกผู้ใหญ่ของเวียดนามและคณะธรรมยาตรา ต่อด้วยพิธีมอบเสาธรรมจักร สวดมนต์ พิธีปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์จากประเทศอินเดีย เพื่อเป็นที่ระลึกไว้ภายในวัด,จากนั้นพระทิ เทียน ตั้ม รองประธานสงฆ์ของประเทศเวียดนาม ได้นำพระสงฆ์ในคณะธรรมยาตราจาก 5 ประเทศ ร่วมกับพระสงฆ์ใน จ.เดียนเบียนฟู ออกบิณฑบาตภายในวัด ท่ามกลางชาวเดียนเบียนฟูแต่งกายในชุดประจำชาติ มาปักหลักใส่บาตรคณะสงฆ์ด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบ มีความสุขกับการได้ร่วมตักบาตรครั้งสำคัญครั้งนี้ และยังถือเป็นครั้งแรกที่ได้ตักบาตรกับคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่จากทั้ง 5 ประเทศ,ภายหลังการตักบาตร คณะเดินทางเข้าเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของเมืองเดียนเบียนฟู อาทิ วัด Linh Son - HAM DE CASTRIES  พิพิธภัณฑ์เดียนเบียนฟู พร้อมกับสักการะอนุสรณ์สถานวีรชนเดียนเบียนฟูด้วย,นายสุภชัย วีระภุงค์ กล่าวว่า การได้รับอนุมัติจากเวียดนาม ให้คณะธรรมยาตรา ได้เข้ามาปฏิบัติภารกิจตามวิถีพุทธ ที่เดียนเบียนฟู เมืองแห่งประวัติศาสตร์ของชาวเวียดนามครั้งนี้ เป็นภาพที่ต้องบันทึกไว้ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ เพราะไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก ทั้งหมดนี้เกิดจากความจริงใจที่ไม่มีนัยแอบแฝงของธรรมยาตรา ที่เข้ามาเพื่อนำเอาวิถีพุทธมาเป็นตัวเชื่อมให้เกิดความสามัคคีระหว่างประชาชนของทั้ง 5 ประเทศ ดังนั้น เราจึงได้เห็นภาพผู้นำคณะสงฆ์ ผู้นำท้องถิ่น และชาวเวียดนาม ออกมาให้การต้อนรับและร่วมปฏิบัติธรรมกันอย่างล้นหลาม,สำหรับ คณะธรรมยาตรา จะออกเดินทางจากเดียนเบียนฟู วันที่ 22 ต.ค.ธรรมยาตรามุ่งหน้าต่อไปที่ สปป.ลาว จนถึงวันที่ 27 ต.ค. จึงธรรมยาตราเข้าสู่ประเทศไทยที่ ป่าคำชะโนด จ.อุดรธานี ไปยัง วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จ.สกลนคร วัดมหาธาตุ วัดพระธาตุพนมวรวิหาร และอนุสาวรีย์พญาศรีสัตตนาคราช จ.นครพนม แล้วจึงธรรมยาตราเข้าสู่กัมพูชาที่ จ.เสียมราฐ

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

คนดราม่าหนัก เมื่อ กุญแจซอล โพสต์ภาพขอบคุณผู้มีพระคุณ แต่ไม่เอ่ยถึงชื่อคนสำคัญในชีวิต

หลังจากที่นักแสดงสาว กุญแจซอล ป่านทอทอง ได้เข้าพิธีซ้อมรับพระราชทานปริญญาบัตร จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ไร้เงาของครอบครัว มีเพียงสามี ณัฏฐ์ นาวาอากาศโท ฌณัฏฐ์ เลิศพัฒนาไท มาดูแลอย่างใกล้ชิด,แต่ในขณะที่ด้านน้องสาวของกุญแจซอล น้องเรดาห์ ก็เรียนจบปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน มีคุณพ่อหนึ่ง นึกคิด คุณแม่มุก มุกดา มาร่วมแสดงความยินดีกับลูกสาว อีกทั้งมุมที่กุญแจซอลและเรดาห์ถ่ายรูปนั้น เป็นมุมเดียวกัน แต่ไร้เงารูปคู่ของทั้งสองคน ,ล่าสุดหลังจากที่สาวกุญแจซอลได้ลงภาพตนเองในวันซ้อมรับปริญญา ซึ่งก็มีกลุ่มแฟนคลับคนสนิท รวมไปถึงสามี และครอบครัวของสามีมาร่วมแสดงความยินดี สาวกุญแจซอลก็ได้โพสต์รูปและเขียนข้อความว่า ขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความยินดีนะคะ ขอบพระคุณผู้มีพระคุณทุกท่านที่ทำให้หนูมีวันนี้คะ,แต่ก็ไม่พ้นดราม่าอีกแล้ว เมื่อมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ตอบกลับในทำนองที่ว่า ทำไมกุญแจซอลถึงไม่นึกถึงพ่อแม่ผู้มีพระคุณของเธอเลย ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะพ่อกับแม่ ซึ่งสาวกุญแจซอลก็ไม่ได้ตอบโต้ข้อความเหล่านั้นแต่อย่างใด ,แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัวและคนในครอบครัวของเธอหรอกว่า ที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น อะไรที่ทำให้เธอตัดสินใจทำสิ่งนี้ หากมีโอกาส เชื่อว่า สาวกุญแจซอลจะออกมาชี้แจงด้วยตัวเองแน่นอน

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดตรัง ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง หลังราคายางพาราตกต่ำ หันไปปลูกผักไร้ดินหารายได้เสริมช่วงที่ยางผลัดใบ วอนรัฐเร่งจ่ายโครงการสร้างความเข้มแข็งฯ ไร่ละ 1,500 บาท

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ม.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศชาวสวนยางพาราในพื้นที่ จ.ตรัง ช่วงราคายางตกต่ำถึงขีดสุด ส่งผลกระทบวงกว้างในหลายๆ ด้านโดยที่จุดรับซื้อน้ำยางสด โกขาว ม.11 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง วันนี้เปิดรับซื้อน้ำยางสดในกิโลกรัมละ 35 บาท ส่วนจุดรับยางบางแห่งรับซื้อกิโลกรัมละ 34 บาท,นางเรวดี เจือกโว้น อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.9 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง กล่าวว่า อยากให้ราคาน้ำยางอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท ขอพออยู่ได้ วันนี้ตนเองตื่นมากรีดยาง ตั้งแต่ตี 3 ในเนื้อที่ 8 ไร่ ขายน้ำยางสดได้ 400 บาทต่อวัน จากเมื่อก่อนที่เคยได้ถึง 1,200 บาทต่อวัน ซึ่งไม่พอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน รวมถึงหลานอีก 2 คน ที่ต้องเลี้ยงดู ให้เงินไปโรงเรียนคนละ 50 บาท จึงอยากวอนให้รัฐบาลจ่ายเงินในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรไร่ละ 1,500 บาท,นางเรวดี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนเองไม่ทราบว่าจะได้เงินเมื่อไร เพราะช่วงนี้ยางกำลังผลัดใบ หรือเข้าสู่ฤดูการปิดกรีด และกำลังจะหยุดกรีด ส่งผลให้ไม่มีรายได้เข้ามาในครอบครัว จึงได้รวมกลุ่มกับเพื่อนบ้าน กว่า 10 คน โดยให้ อาจารย์ จากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน มาสอนวิธีการปลูกพืชไฮโดรโพนิกส์ เพื่อเป็นการหารายได้เสริมช่วงที่ยางผลัดใบ ขณะเดียวกันบางคนที่ไม่มีรายได้เสริมก็ยังคงกรีดยางต่อไปในฤดูปิดกรีด เนื่องจากไม่มีรายได้ทางอื่นที่จะพอเลี้ยงครอบครัวได้ แม้การกรีดหน้าแล้ง จะทำให้มีผลกระทบกับหน้ายางนึ่งก็ตาม โดยส่งผลกระทบทั้งในเรื่องของน้ำยางที่ลดลง และหน้ายางเสื่อมโทรมก็จำต้องกรีดต่อไป เพื่อนำรายได้จากตรงนี้มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และครอบครัวประทังชีวิตกันไปก่อน.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

สื่อชื่อดังออกมาคาดการณ์ผู้เล่น 11 ตัวจริงและระบบการเล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเปิดบ้านรับมือ เอฟเวอร์ตัน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 26 ต.ค. ว่า ความเคลื่อนไหวของ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีคิวเปิดโรงละครแห่งความฝันต้อนรับการมาเยือนของ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ในวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคมนี้ เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย,เป็นที่เข้าใจกันว่า เจ้าถิ่น ออกสตาร์ตในฤดูกาลนี้ได้อย่างน่าผิดหวัง เมื่อรั้งอยู่เพียงแค่อันดับที่ 10 ของตารางด้วยการมี 14 คะแนนจากการลงสนาม 9 นัด แทบบอกลาโอกาสลุ้นแชมป์ไปตั้งแต่นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ ขณะที่ทีมเยือนรั้งอยู่ที่ 8 มี 15 คะแนน ซึ่ง 3 นัดหลังสุดของพวกเขานั้นปรากฏว่าคว้าชัยชนะได้อย่างเรียบวุธ,ล่าสุด oldtraffordfaithful เว็บไซต์ชื่อดังออกมาคาดการณ์ผู้เล่นและระบบการเล่นของลูกทีม โชเซ มูรินโญ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสไว้ดังนี้,(ระบบการเล่น 4-3-3),ดาบิด เด เคอา (GK) - แอชลีย์ ยัง, คริส สมอลลิง, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, ลุค ชอว์, เนมันยา มาติช, พอล ป็อกบา, ฆวน มาตา, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี มาร์เชียล, โรเมลู ลูกากู

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เลขาธิการ กปปส. เข้าใจ กอ.รส. สั่งปิดสื่อเพื่อระงับเหตุ-ตัดพวกยุยง พวกกูยังไม่ได้ดูเลยบลูสกาย มึงจะบ่นอะไรกันนักหนา พร้อมเชียร์คำสั่งห้ามนักวิชาการออกทีวีเพราะเป็นพวกเสื้อแดง ใช้วิชาการหลอกๆ

ต้มประชาชน - ก่อนเตือน กปปส. อย่าเพิ่งคิดว่าชนะ ยังต้องชุมนุมใหญ่ 23-26 พ.ค. ขอให้มากันมากๆ - มาน้อยไม่มีความหมาย21 พ.ค. 2557 - เมื่อเวลา 20.10 น. ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนิน สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นปราศัยบนเวที โดยก่อนจะเล่ารายละเอียดการไปหารือกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ตามของคำเชิญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผบ.ทบ. นั้น สุเทพได้กล่าวถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ที่เขียนบทความวิจารณ์กฎอัยการศึกและวิจารณ์การที่ ผบ.ทบ. เชิญฝ่ายต่างๆ มาประชุมโดยนายสุเทพได้อ่านบทความของนายจาตุรนต์ก่อน จากนั้นนายสุเทพกล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่จาตุรนต์เขียน อยากถามว่าในขณะที่มีวิกฤติการเมืองต่อเนื่องมา 7 เดือน นับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เรามวลมหาประชาชนพยายามจะเรียกร้องให้ผู้หลักผู้ใหญ่ ออกมาแก้ไข ไม่มีใครแสดงตัวอออกมาแก้ไข รับผิดชอบ เมื่อ ผบ.ทบ. กล้าแสดงตัวออกมาแบกรับภาระ แก้ไขปัญหาบ้านเมือง ผมต้องถามว่ามันผิดตรงไหนวะ ผบ.ทบ.ประกาศกฎอัยการศึก พยายามแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ผมชื่นชม ผมเห็นว่าเขาเสี่ยงและกล้าหาญมาก ที่เอาปัญหาทั้งหลายมาแบกไว้ ในขณะที่คนฝ่ายอื่นกลุ่มอื่นไม่ยอมแบกรับปัญหานี้ เพราะฉะนั้นที่ไปกล่าวหาว่า ผบ.ทบ. สับสน ไม่เข้าใจฐานะตัวเอง ผมว่าคนสับสนคือจาตุรนต์ และคนใน ครม. นี้ ต้ั้งแต่เกิดปัญหามาเกินครึ่งปีแล้ว ไม่เคยเห็นจาตุรนต์แสดงความรับผิดชอบอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวผมไปนั่งในที่ประชุม ไม่เห็นว่า ผบ.ทบ.แกกำลังสับสนหรือเข้าใจฐานะตัวเองผิด ผมเห็นว่าเขาเข้าใจฐานะตัวเอง ในฐานะที่เป็นคนไทย เป็นเจ้าของประเทศ เป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ ท่านบอกชัดวันนี้ว่าที่ต้องทำเพราะมันมีเหตุการณ์รุนแรง มันฆ่ากัน มันขนอาวุธจะมาทำสงครามกัน มันกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมือง แล้วถ้าท่านไม่ออกมา คนทั้งหลายจะตำหนิติเตียน จาตุรนต์ไม่รู้สึกนี่ ลองเขาเอาปืนมายิงบ้านพ่อมึงบ้างสิ จะได้รู้สึกรู้สาขึ้นมาบ้าง นั่งอยู่ใน ครม. มีสมุนบริวาร เอาปืน เอาอาวุธสงครามมาประทุษร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ บาดเจ็บ 700 ตาย 23 คน ไม่เห็นออกมาพูดสักแอะเดียวว่าต้องรับผิดชอบอย่างไร ไม่เคยเห็นคนใน ครม. นี้รับผิดชอบอะไรเลย วันนี้ออกมาทำเป็นอวดดี ผมคิดว่าอย่างนี้ต้องตำหนิว่าเป็นคนใช้ไม่ได้ที่จาตุรนต์ตำหนิ ผบ.ทบ. ว่ามีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ขาดความรู้ความเข้าใจในการแก้ปัญหาการเมือง ไม่ควรเป็นผู้แก้ปัญหา ผมขอถามว่าเรื่องการเมืองนี่จำกัดเฉพาะพวกมึงกับพวกกูหรือวะ ไม่ใช่โว้ย การเมืองเป็นเรื่องของคนไทยทุกคน ถ้าการเมืองดี คนทุกคนก็ได้ประโยชน์ ถ้าชั่วเหมือนที่พวกมึงทำอยู่ คนไทยเดือดร้อนทั้งประเทศ อย่ามาอวดรู้ว่าเก่งการเมืองพวกเดียว วันนี้คนไทยรู้เช่นเห็นชาติ เขาจึงไม่ไว้วางใจนักการเมืองยังไงละโว้ยอวดฉลาด อวดดี มึงนั่นแหละสับสน พวกหลงตัวเอง ผูกขาดว่าเรื่องการเมืองต้องเป็นนักการเมือง คนที่จะข้าใจการเมืองต้องนักการเมือง แล้วที่บ้านเมืองวิบัติเสียหาย ไม่ใช่เพราะนักการเมืองหรือไงวะ แล้วนักการเมืองที่ทำให้ประเทศวิบัติเสียหายคือคนในระบอบทักษิณ ซึ่งมีมึงด้วยนายสุเทพกล่าวว่า วันนี้เห็นกับตา ผบ.ทบ.พูดจาเรียบร้อย นอบน้อม อดทน แม้นักการเมืองจะตีโวหารท่านก็ทน ผมเห็นว่าเขานอบน้อมดี ผมยืนยันว่าเขามีสติและคุมสติได้ ว่าเขาเป็นแค่ผู้รับผิดชอบตามกฎอัยการศึก ไม่ใช่หัวหน้าคณะรัฐประหาร เพราะถ้าเขาเป็นหัวหน้ารัฐประหาร วันนี้เรียบร้อยหมดแล้ว ไม่ได้มาเห่าอยู่ต่อไปแล้วแล้วที่มาบอกว่า ผบ.ทบ. ประกาศกฎอัยการศึก เป็นการละเมิดเสรีภาพสื่อมวลชน และประชาชน ปิดสถานีโทรทัศน์ ผมบอกตรงๆ ไม่เห็นด้วยกับการปิดสถานีบลูสกาย แต่ผมเข้าใจว่าเขาต้องปิดทุกสถานี เพราะว่าสถานีของมันปลุกระดมให้คนเกลียดกัน ลุกขึ้นฆ่ากัน มันปลุกระดมทุกวัน ทั้งวิทยุ ทั้งทีวี ทุกสถานี เมื่อเขาต้องการระงับเหตุ ไม่ให้เหตุร้ายมันรุนแรงบานปลายไป เขาต้องตัดตัวยุตัวยงทั้งหลายเสียก่อน พวกกูยังไม่ได้ดูเลยบลูสกาย มึงจะบ่นอะไรกันนักหนาแล้วที่มาบอกว่าปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยกระบวนการประชาธิปไตย ถามหน่อยเถอะวะกระบวนการประชาธิปไตยของมึงคือโกงเลือกตั้ง ซื้อเสียง แล้วกลับมาครองอำนาจ ปล้นแผ่นดิน นั่นคือประชาธิปไตยของพวกมึงหรือไง ประชาธิปไตยที่มีนายทุนเป็นเจ้าชีวิต นายทุนเป็นเจ้าของพรรครวมทั้งตัวมึงเป็นขี้ข้ารับใช้เขากูบอกเลยนั่นไม่ใช่ประชาธิปไตย เราประชาชนจึงได้บอกไงครับว่าต้องปฏิรูปประเทศไทยเสียก่อน จัดการพรรคการเมือง ทุนสามานย์เสียก่อน ไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก เพราะมันเป็นเผด็จการตั้งแต่ในพรรคของมันแล้ว ตอนที่อยู่ในพรรค ทักษิณสั่งอะไรกูไม่เห็นใครขัดเลยสักครั้งเดียว ทักษิณทำปู้ยี้ปู้ยำอะไร พวกนักการเมืองไม่เคยต่อต้านเลย แต่ข่มเหงน้ำใจประชาชนจนเกิดการต่อต้านในวันนี้ไงเล่า ประชาธิปไตยเฉพาะเปลือก จอมปลอม บอกเลยพวกเราประชาชนไม่เอาละโว้ย เข็ดละโว้ย ถ้าประชาธิปไตยมันจะร่อยหรอไป ประชาชนอย่างเราสาธุ เพราะไม่ต้องการประชาธิปไตยอุบาทว์ของพวกเอ็งแล้วสุเทพกล่าวด้วยว่า จำเป็นต้องพูดประเด็นเหล่านี้ เพราะเป็นตัวอย่างของการบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิง เพราะมีนักการเมืองอวดดี บอกว่าเรื่องการเมืองต้องเป็นเรื่องของไม่กี่คน ไม่กี่พรรค บ้านเมืองถึงวุ่นวาย ยับเยิน อย่างที่เราต้องออกมาร่วมกันต่อสู้ส่วนการห้ามแสดงความเห็นทางวิชาการนั้น สุเทพกล่าวว่า และต้องยอมรับความจริงพี่น้องครับ ที่อ้างว่าให้ความเห็นทางวิชาการน่ะ มันเป็นนักวิชาการแดงแต่ใส่เสื้อสีอื่น แล้วโผล่หน้าสลอนทางทีวี เป็นขี้ข้ารับใช้ทักษิณ เอาวิชาการหลอกๆ มาต้มประชาชน นี่ก็ยังออกอยู่ ไปแหลนอยู่ตามหน้าสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ผมอยากฝากบอกท่าน ผบ.ทบ. ไหนๆ ปิดสถานีไปแล้ว ก็ขอให้สั่งไปตามสถานีต่างๆ ว่าพวกนักวิชาการส้นตีนอย่างนี้อย่าให้ออกทีวีอีก ไม่มีประโยชน์ เพราะมันยิ่งพูดยิ่งทำให้ประชาชนสับสน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด แล้วมันเอาเปรียบพวกเรามวลมหาประชาชน เพราะสถานีเหล่านั้นมันไม่เชิญนักวิชาการเราไปออกเลย เชิญแต่นักวิชาการขี้ข้าหางแดงทั้งนั้นไปออกสุเทพกล่าวด้วยว่าวันนี้ไปประชุมโดยไม่ได้รับหนังสือเชิญ เพราะท่านประกาศในฐานะ ผอ.กอ.รส. เราได้ยินเราก็ได้ไป เพราะถือว่าใครก็ตามอาสามาเป็นเจ้าภาพแก้ไขปัญหาชาติ บ้านเมือง สมควรที่เราจะให้ความร่วมมือทั้งสิ้น และผมเห็นว่าเขาไม่ได้แสดงอำนาจ บาตรใหญ่อะไร และฟังทุกคน ทุกคณะ และเขาจดไว้ด้วย เขาไม่ได้ตัดสินว่าใครพูดผิดพูดถูก แต่การประชุมยังไม่ยุติ เขานัดประชุมต่อพรุ่งนี้บ่ายสองโมง ท่านขอร้องว่าประชุมแล้ววันนี้ใครพูดอย่างไรในที่ประชุม ขออย่าได้เอาไปให้สัมภาษณ์ อย่าเอาเผยแพร่ ขอให้เก็บไว้เฉพาะในที่ประชุม เพราะการประชุมยังไม่ยุติ ต้องประชุมพรุ่งนี้อีกวันหนึ่ง ผมเลยไม่พูดวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอคนอื่น แต่ผมมีหน้าที่รายงานพี่น้องมวลมหาประชาชน ว่าวันนี้ผมและคณะได้ไปเสนออะไรในที่ประชุมแห่งนั้น ผมต้องรายงาน เป็นสิทธิของผม เป็นร่างทรงต้องมาบอกเจ้าของร่างเลขาธิการ กปปส. กล่าวว่า ในการประชุมไม่ได้กล่าวเสียดสีใคร แต่ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า มวลมหาประชาชนเห็นว่า ประเทศไทยวันนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรี ไม่มีรัฐบาลที่จะมารับผิดชอบการบริหารประเทศ การไม่มีนายกรัฐมนตรี ไม่มีรัฐบาลที่จะมีอำนาจบริหารประเทศนี้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ใหญ่หลวงต่อประเทศไทย เพราะฉะนั้นข้อเสนอของผมข้อแรกคือ ต้องมีนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจเต็มมาแก้ไขปัญหาของประชาชน เช่น ปัญหาของชาวนา เป็นต้น และจะต้องแก้ไขปัญหาอื่นของประเทศ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่จะรุนแรงขึ้น จำเป็นต้องมีรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็ม 100%ข้อสอง ผมเสนอว่าเมื่อได้นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ต้องตั้งคณะรัฐมนตรีที่ไม่มีฝ่ายการเมือง ไม่มีนักการเมืองอยู่เลยแม้แต่คนเดียวข้อสาม นายกรัฐมนตรี และ ครม. ต้องรีบปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ของประชาชน ผมเรียนต่อที่ประชุมว่า อย่าเอาข้อกฎหมายมาโต้เถียงกับผม อย่าเอารัฐธรรมนูญมาตรานั้นมาโต้เถียงกับผม ผมพูดในภาพรวม ว่าถ้าทุกคนเห็นด้วยก็มาช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรถึงจะได้นายกรัฐมนตรี ได้คณะรัฐมนตรีที่ไม่เป็นนักการเมืองแล้วรีบปฏิรูปประเทศไทยสุเทพกล่าวต่อไปว่า ข้อสี่วันนี้ ผมได้เชิญฝ่าย นปช. และมวลชนคนเสื้อแดงกลางที่ประชุม ผมได้กราบเรียนว่าเราประชาชนด้วยกันทั้งนั้นทุกฝ่าย โปรดมาร่วมมือกัน วันนี้ทหารกับข้าราชการเขาร่วมมือกันแล้ว ถ้าประชาชน ฝ่าย นปช. เสื้อแดงและประชาชนฝ่ายเราเข้าไปร่วมมือกับทหารและข้าราชการ เราจะแก้ปัญหาของประเทศได้ เอาฝ่ายการเมืองออกไปก่อน ผมพูดกลางที่ประชุมอย่างนี้ ผมบอกฝ่ายการเมืองถอยไปก่อน วันนี้ให้เป็นเรื่องประชาชน ทหาร ข้าราชการ จับมือกันแก้ปัญหาชาติ บ้านเมือง ผมคิดว่าสิ่งที่ผมเสนอไปนี้คงตรงกับหัวใจของพี่น้องประชาชนที่เข้าทรงผมอยู่ใช่ไหมครับ พี่น้องครับสุเทพกล่าวด้วยว่า ผมยืนยันเรื่องนี้ ไม่โต้เถียงกับใครเลย แม้จะคันปากยุบยิบ คันจนถึงข้างล่างแล้ว แต่ว่ายืนยัน ทนเอาเท่านั้น พรุ่งนี้ (23 พ.ค.) ไปประชุมต่อบ่ายสองโมง ผมขออนุญาตยืนยันตามข้อเสนอนี้ ถ้ามีอะไรใหม่กว่านั้นมาบอกผมได้ก่อนบ่ายสองโมงพี่น้องทั้งหลาย เราต้องพร้อมเปิดใจกว้าง ยอมรับความพยายามแก้ไขปัญหาของข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร รู้สึกขอบคุณที่เขาแสดงตัวชัดเจน เราเรียกร้องตลอดถ้าทุกคนในบ้านเมืองออกมาช่วยกันทำหน้าที่ ด้วยสำนึกว่าเป็นคนไทย เป็นเจ้าของประเทศไทย เราจะหาทางออกให้ประเทศได้ จะแก้ไขปัญหาประเทศชาติ แต่ถ้าท่องกันอย่างเดียวว่าไปเลือกตั้งนั้น ประชาชนอย่างเราไม่เอาแล้ว นี่พูดกับเขาชัดขนาดนี้ ผมได้กราบเรียนพี่น้องว่าวันนี้ การรวมพลังของมวลมหาประชาชนมีความหมาย มีความสำคัญ อย่าไปคิดนะครับว่าชนะแล้ว ไม่ใช่ ผมได้กราบเรียนไปเมื่อคืนแล้ว มันไม่ง่ายครับ มันมีหนทางเดียว พี่น้องประชาชนคนไทย ถ้าเห็นด้วยกับแนวทางที่ผมเสนอไปนั้น ต้องออกมาร่วมการชุมนุมกันหลายๆ ล้านคน ไม่ออกมาก็จะถูกคนอื่น ฝ่ายอื่นบิดเบือน ว่าเป็นคนหยิบมือเดียวกลุ่มน้อย เรามันคนธรรมดาสามัญชนที่เขาเห็นว่ากระจอก ถ้าเราออกมาน้อย ไม่มีความหมาย ไม่มีความสำคัญพอที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ นี่คือข้อเท็จจริงที่เราต้องช่วยกันปฏิบัติให้ได้กราบเรียนกับพี่น้อง เราอึดอัดใจกับทุกคน พูดกับพี่น้องประชาชน คืนก่อนๆ โน้น คนได้ยินได้ฟังกันทั่วประเทศหลายล้านคน วันนี้ได้ยินได้ฟังเฉพาะคนที่อยู่เวทีที่ชุมนุม ถ.ราชดำเนิน ถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเท่านั้น ที่จะดูทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ค อย่างมากก็เป็นแสนๆ คน เราเสียเปรียบ เรามีแผนชุมนุมหลายๆ ล้าน ใช้เนื้อที่มาก แต่เมื่อกองอำนวยการรักษาความสงบ เขาบอกให้เราชุมนุมเฉพาะถนนราชดำเนิน นปช. ชุมนุมถนนอักษะ ผมก็เห็นว่าเราต้องเคารพเขา ร่วมมือกับเขา อย่างน้อยในช่วงที่เราเห็นว่าเขาพยายามที่จะแก้ไขปัญหาชาติ บ้านเมือง เราต้องยอมเสียสละในส่วนของเราบ้าง พี่น้องที่ไม่ได้ดูบลูสกาย ทนไม่ไหวต้องมาที่นี่ครับ และผมขอยืนยันว่าที่เรากำหนดเอาไว้ว่าจะชุมนุมใหญ่ วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ ตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงสามทุ่ม เรายังยืนยันจะจัดการชุมนุมอยู่ เพราะฉะนั้นใครเห็นด้วยต้องออกมา เพียงแต่ว่าผมขออนุญาตเปลี่ยนสถานที่เล็กน้อย ที่เคยประกาศว่าจะเชิญมาชุมนุมบนถนนราชดำเนิน และบนถนนสุขุมวิท เพื่อไม่ให้ต้องขัดใจกับ กอ.รส. ผมขอโทษพี่น้องชาวสุขุมวิท โปรดเสียสละออกมาชุมนุมบนถนนราชดำเนิน เอาให้ตลอดสายถึงสนามหลวงเลยแต่ถ้าออกมาเยอะๆ หลายๆ ล้าน มันจะล้นไปถึงสนามม้า ราชเวที ปทุมวัน นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ต้องยึดหลักว่าเราชุมนุมถนนราชดำเนิน จะได้ไม่ผิดใจกัน และจะได้เห็นว่าเราให้ความร่วมมือ เพราะเราอยากเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย แก้ปัญหาได้ เพราะฉะนั้นผมขอเรียนย้ำ ช่วยกรุณาบอกต่อกันไปว่าแม้จะมีกฎอัยการศึก เราก็มีนัดหมายกันทุกวัน วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ โปรดสละเวลามาชุมนุมกันบนถนนราชดำเนินจนถึงสนามหลวง ตั้งแต่ห้าโมงเย็น หกโมงเย็นร้องเพลงชาติ เป่านกหวีด แสดงพลังประชาชน เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง สามทุ่มคนที่อยากกลับบ้านเชิญกลับบ้าน คนที่นอนฝ้าก็นอนที่นี่ ทำอย่างนี้ติดต่อกันสามวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ส่วนวันจันทร์ที่ 26 เรายังนัดหมายกันเหมือนเดิม ตั้งเวที ที่ท้องสนามหลวง แล้วก็ประกาศอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย เวลา 1 ทุ่มตรงเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นขอใช้โอกาสนี้กราบเรียนพี่น้องได้ทราบ พรุ่งนี้ตอน 11 โมงเช้า ขอนัดหมาย ผู้แทนเครือข่ายทั้งหลาย กปปส. ทั้งหลาย ประชุมพร้อมกัน ที่เต๊นท์หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 11.00 น. นะครับ เพื่อจะได้กำหนด มอบหมายการปฏิบัติหน้าที่ในวันชุมนุมใหญ่ขออนุญาตให้พี่น้องทั้งหลาย ส่งข่าวสารถึงผู้แทนแกนนำทุกเครือข่ายที่ร่วมต่อสู้กันมา และบ่ายสองโมงวันพรุ่งนี้ผมจะนำคณะไปประชุมตามคำเชิญของ ผบ.ทบ. ได้ผลอย่างไร วันพรุ่งนี้ผมจะกลับมารายงานบนเวทีแห่งนี้ ในเวลาประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง ถ้ามาได้ทัน ถ้าช้าจะบอกว่าเขาประชุมกันนาน จากนั้นสุเทพปราศรัยเสร็จในเวลาประมาณ 21.15 น.อนึ่งก่อนหน้านี้ หลัง ผบ.ทบ.ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 20 พ.ค. ต่อมาในช่วงค่ำ สุเทพ ได้ปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า ถึงแม้จะมีการประกาศ กฏอัยการศึก พี่น้องอย่าสับสน ไม่ได้เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ประกาศกฏอัยการศึกแล้ว รัฐธรรมนูญยังอยู่มวลมหาประชาชน ยังมีสิทธิ์ และเสรีภาพตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่จะต่อสู้ ต่อสู้ชุมนุม ต่อต้านรัฐบาลทรราชทุกประการ แต่ขอให้พี่น้องอย่าเพิ่งพูดถึงชัยชนะ ถ้าพูดถึงชัยชนะ ต้องหมายถึง ชัยชนะของประเทศไทยของประชาชนทั้งประเทศโดยสุเทพกำหนดเป้าหมาย 4 ข้อได้แก่ หนึ่ง ระบอบทักษิณต้องหมดสิ้นจากแผ่นดินไทย สอง ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่มีอำนาจเต็ม 100% เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ สาม ตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีนักการเมือง เพื่อมาปฏิรูปประเทศไทย สี่ นายกรัฐมนตรี และ รัฐบาล ต้องเป็นของประชาชน ปฏิรูป เปลี่ยนแปลงประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของประชาชนก่อนหน้านี้ เอกณัฐ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. เปิดเผยถึงมติการหารือของแกนนำ กปปส.ว่า ในวันที่ 22 พ.ค. แกนนำ กปปส.จะนัดประชุมกับเครือข่ายตัวแทน กปปส.ทั่วประเทศใน เวลา 11.00 น. ที่ถนนราชดำเนินกลาง บริเวณเต๊นท์หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนที่จะส่งตัวแทนแกนนำ กปปส. เข้าร่วมประชุมกับ กอ.รส. เป็นครั้งที่ 2 เวลา 14.00 น. และขอเชิญชวนผู้ชุมนุมมาชุมนุม ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึง 21.00 น. ในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. เสาร์ที่ 24 พ.ค. และ อาทิตย์ที่ 25 พ.ค. ตามที่ได้กำหนดไว้ แต่เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขในประกาศ กอ.รส. จึงขอเปลี่ยนเป็นการนัดชุมนุมเฉพาะ ถ.ราชดำเนินเท่านั้น ยกเลิกการชุมนุมบน ถ.สุขุมวิทที่เคยนัดหมายไว้ และในวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. เวลา 19.00 น. จะนัดผู้ชุมนุมที่สนามหลวงตามเดิม

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

กลายเป็น เสือสิ้นลาย รับปีหมูทองทันที เมื่อนักแสดงหนุ่มลายสัก แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม วิวาห์ฟ้าแลบ กับแฟนสาวนอกวงการ เบลล์-อดิราภ์ เองตระกูล

ปัจจุบันทำงาน ตำแหน่ง Division head of client service บริษัท ทศภาค จำกัด และเป็นทายาทหัวแก้วหัวแหวนของ ป๋าแดง-พล.ต.ต.สมใจรัก เองตระกูล ซึ่งเจ้าสาวมีความเกี่ยวดองเป็นญาติผู้น้องของ เป๊ก-สัณชัย เองตระกูล นั่นเอง,ก่อนหน้านี้ แทค มักจะพูดถึงความรักทีเล่นทีจริง มีสาวคุย แต่ไม่เปิดตัวเป็นใครตามสไตล์หนุ่มติสต์ เพราะอยากคบสาวแบบเงียบๆ ไม่อยากให้ฝ่ายหญิงต้องลำบากใจหากต้องตกเป็นข่าวไปด้วย จึงทำให้การแต่งงานครั้งนี้ ของหนุ่มมาดเซอร์อย่าง แทค-ภรัณยู สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อพวงมาลัย จะยอมจำนนกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ได้ กลับปุ๊บปั๊บยอมสละโสดอย่างง่ายดาย และพร้อมที่จะสร้างครอบครัวเล็กๆ เพราะตลอดระยะเวลาที่คบหาดูใจฝ่ายหญิง เกือบ 3 ปี แทค นักแสดงหนุ่ม พิสูจน์ตัวเอง รักจริงหวังแต่ง กว่าจะฝ่าด่าน คุณพ่อและคุณแม่ ของแฟนสาวไม่ใช่เรื่องง่ายนัก,ยิ่งครั้งแรก แม่ของเบลล์ เจอหน้า แทค ที่เต็มไปด้วยลายสักจนเกิดอาการหวั่นๆ กับลุคแบดบอยถึงกับสะกิดถามลูกสาวด้วยความไม่แน่ใจว่า คบไปจะโดนฝ่ายชายซ้อมมั้ย? แทค พิสูจน์ตัวตนไม่ใช่เป็นบุคคลใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ขยันทำมาหากินพิสูจน์ว่าพร้อมที่จะดูแล เบลล์ ในอนาคตได้ จนได้ความไว้ใจจากพ่อแม่ของฝ่ายหญิง ไฟเขียว ให้คบหาดูใจกัน เมื่อความรักคืบหน้า ต่างฝ่ายต่างพาครอบครัวมาทำความรู้จักกัน ทั้งกินข้าวร่วมโต๊ะพาเที่ยวกันเสมอๆ หรือเวลาที่พ่อของแทคมากรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยมลูกชาย แต่ แทค ไม่ว่างติดถ่ายละครทาง เบลล์ อาสาดูแลครอบครัวของฝ่ายชายนั่นเอง,ส่วนกระแสเรื่องเจ้าสาวกำลังท้อง 5 เดือน ที่กำลังถกเถียงกันนั้น เมื่อสอบถาม แทค แอ่นอกรับแมนๆ ว่าเป็นเรื่องจริง อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ว่า ถ้ามีแฟน อายุ 35 ผมแต่งเลยและถ้าแต่งผมก็พร้อมมีลูกเลย ก็ทำให้ดูว่าผมทำจริงๆ ตามที่ผมเคยพูดไว้ครับ,นอกจากนี้ แทค ยังเป็นว่าที่คุณพ่อสายเห่อ มักจะเข้าไปคอมเมนต์ในอินสตาแกรมของพ่อแม่ลูกอ่อน รวมทั้งไอจีของ กระแต-ศุภักษร โดยเขียนข้อความว่า เดียวจะเอาพารันไปป่วนนะ ซึ่งน่าจะเป็นชื่อของลูกที่ยังอยู่ในท้องเมียรัก ที่ตั้งเอาไว้ล่วงหน้า---ทั้งนี้ แทค ภรัณยู จะเปิดใจถึงวิวาห์ฟ้าแลบครั้งนี้ ในวันที่ 11 ม.ค.62 ที่สตูดิโอแกรมมี่ เวลา 11 โมง.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

อุตตม ลั่นคลังเตรียมเสนอ ครม.เคาะแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจภายในเดือน ส.ค.นี้ ยันครอบคลุมคนทุกกลุ่ม ทั้งเกษตรกร ประชาชนฐานราก ประชาชนทั่วไป คนทำงาน สตาร์ตอัพ เอสเอ็มอี

หวังดันให้เศรษฐกิจไทยปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 3% ขณะที่ สนธิรัตน์ ลั่นทุกกระทรวงมีแผนดูแลประชาชนชัดเจนใน 3 เดือน,นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการนำผู้บริหารกระทรวงการคลัง และธนาคารเฉพาะกิจ เข้าพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะดำเนินการในเร็วๆนี้ ว่า กระทรวงอยู่ระหว่างหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ,โดยจะเสนอเป็นแพ็กเกจ ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง ธนาคารเฉพาะกิจ และกระทรวงอื่นๆ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจะนำมาหารือในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจก่อนจะเสนอให้ ครม.พิจารณาภายในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย,ปีนี้ไม่ให้ต่ำกว่า 3% จากไตรมาสแรกขยายตัวเพียง 2.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และไตรมาส 2 น่าจะขยายตัวไม่ดีนัก เนื่องจากภาวะโลก เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงปัญหาการเมืองภายในประเทศ,หากรัฐบาลไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้ มีโอกาสที่จะเห็นจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) ต่ำกว่า 3% ได้ แต่ถ้ามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการได้ผลดี จีดีพีไทยปีนี้จะโตมากกว่า 3% แน่นอน แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ เศรษฐกิจในระยะยาว ถือเป็นความท้าทายแท้จริงในอีก 3-5 ปีข้างหน้า,สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังศึกษาอยู่นี้ จะให้ความช่วยเหลือครอบคลุมคนทุกกลุ่ม ทั้งเกษตรกร ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ จะเป็นแกนหลัก ส่วนประชาชนในระดับฐานราก มี ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน เป็นแกนหลัก ขณะที่ประชาชนทั่วไป คนทำงาน และผู้ประกอบการใหม่ (สตาร์ตอัพ) ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) มีธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย เป็นแกนหลัก ส่วนมาตรการเพิ่มเติมช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้นมีแน่นอน แต่ต้องกำหนดมาตรการให้ชัดเจนก่อนว่าใครจะได้ประโยชน์ และต้องใช้งบประมาณเท่าไร,นายอุตตม กล่าวต่อถึงการปฏิรูปโครงสร้างภาษีว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำภายใน 3 เดือน โดยมอบให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับกรมจัดเก็บภาษี ได้แก่ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต ศึกษาแนวทางปรับปรุงและยกระดับระบบการจัดเก็บภาษี โดยยังสามารถรักษาวินัยการเงินการคลัง ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไทยไว้ได้ ระบบการจัดเก็บภาษี ต้องสร้างความเท่าเทียม ซึ่งไม่ใช่แค่จ่ายภาษีเท่ากันทั้งหมด แต่ต้องเท่าเทียมตามความเหมาะสมของรายได้ประชาชน ทั้งในภาคอุตสาหกรรมบริการ และภาคเอกชน,นอกจากนี้ ยังเตรียมเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซรูปแบบอื่นๆจากบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะจัดเก็บอย่างไรได้บ้าง ส่วนการขยายฐานการจัดเก็บภาษีรูปแบบใหม่ เช่น ภาษีด้านพลังงาน จะหารือกับรัฐมนตรีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งจะต้องเกิดความสมดุลและเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีมากที่สุด,ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ในอีก 3 เดือน ทุกกระทรวงจะมีนโยบายดูแลประชาชนที่ชัดเจน ขอให้ประชาชนอย่ากังวลใจ แม้รัฐบาลนี้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ ครม. โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจ ที่มีถึง 11 กระทรวง จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกัน ซึ่งในเร็วๆนี้จะมีการประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรก.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย นำช้างศึกลัดฟ้าสู่ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมวางคิวอุ่นเครื่อง 1 นัด ก่อนประเดิมลงเล่นในเอเชียนคัพ

วันที่ 29 ธ.ค. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ นำทัพ ช้างศึก ออกเดินทางไปยังกรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเตรียมทำศึกเอเชียนคัพ 2019 รอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 5 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์นี้,สำหรับการเดินทางครั้งนี้ ทีมชาติไทย จะเริ่มขึ้นเครื่องในเวลาประมาณ 02.00 น. ก่อนไปถึง กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลาประมาณ 05.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง,มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า ทีมชาติไทย กำลังเดินทางไปแข่งขันในทัวร์นาเม้นต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย เรารู้ดีว่ามีความท้าทายรออยู่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทุกคนมีกำลังใจ มีจุดมุ่งหมาย และจะทำเต็มที่เพื่อประเทศชาติ ทีมงานและนักเตะทุกคน จะขอทำเต็มที่เพื่อทำให้ทุกคนในเมืองไทยภูมิใจ,เราไม่ได้คาดหวังไว้ว่าจะต้องได้กี่คะแนน เพราะเป้าหมายของเราก็คือการเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัด เพื่อเข้ารอบให้ได้ สำหรับคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม คงหนีไม่พ้นเจ้าภาพอย่างยูเออี เพราะพวกเขาก็ได้เปรียบในหลายๆ เรื่อง,ทั้งนี้ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมอุ่นเครื่องแบบปิด ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าชม 1 นัด พบกับ ทีมชาติโอมาน ที่สนามอาบูดาบี คริกเก็ต สเตเดียม วันที่ 2 มกราคม 2562 ก่อนประเดิมพบกับ ทีมชาติอินเดีย ในเอเชียนคัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก วันที่ 6 มกราคม 2562 ณ สนาม อัล นาห์ยาน สเตเดียม เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย,โปรแกรมการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มทั้งหมด (เวลาประเทศไทย),วันที่ 6 มกราคม 2562 เวลา 20.30 น.,ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินเดีย,สนาม อัล นาห์ยาน สเตเดียม, กรุงอาบูดาบี,วันที่ 10 มกราคม 2562 เวลา 18.00 น.,ทีมชาติบาห์เรน พบ ทีมชาติไทย,สนาม อัล มัคตูม สเตเดียม, นครดูไบ,วันที่ 14 มกราคม 2562 เวลา 23.00 น.,ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบ ทีมชาติไทย,สนาม ฮัซซา บิน ซายิด สเตเดียม, อัล ไอน์

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ภาคเอกชนในจังหวัดระนองรวมตัวประท้วงขับไล่ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระนอง หลังถูกเรียกรับเงินในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้ประกอบการหลายราย เดือดร้อน

ภาคเอกชนในจังหวัดระนองทั้งหอการค้า สมาคมประมง และผู้ประกอบการส่งออกสินค้ากว่า 300 คน นำรถบรรทุกสิบล้อปิดทางเข้าออก หน้าสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระนอง เพื่อประท้วงขับไล่ นาวาตรีนิสสรณ์ เกตุวงษ์วิจารณ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระนอง หลังถูกเรียกรับเงิน ในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทางสำนักงานเจ้าท่าสาขาระนอง โดยขณะที่มีการรวมตัวประท้วงนั้นนาวาตรีนิสสรณ์ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเดินทางไปราชการที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งการประท้วงใช้เวลานานหลายชั่วโมง จนสำนักงานเจ้าท่าจากส่วนกลาง ได้ให้คำตอบว่าจะย้ายนาวาตรีนิสสรณ์ออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน ผู้ประท้วงทั้งหมดจึงแยกย้ายกันกลับด้าน นายสุรินทร์ โลสงค์ นายกสมาคมประมงระนอง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่นาวาตรีนิสสรณ์ มาปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดระนอง ได้มีการเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ โดยเฉพาะแพปลาหลายราย ขณะที่นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการที่ถูกเรียกรับเงินจากรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระนองทั้งนี้ นาวาตรีนิสสรณ์ เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้ประกอบกิจการประมง และแพปลาในพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเคยรวมตัวกันกดดันมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังถูกเรียกรับเงิน แต่สามารถเจรจายุติข้อขัดแย้งกันได้จากผู้ใหญ่ในจังหวัด

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ชาวบ้านช่วยเป็นหูเป็นตา ชี้เบาะแสตร.สภ.บ่อวิน ชลบุรี จนสามารถรวบโจรทำเนียนฉกเหรียญหลวงปู่ฮก ที่วัดพันเสด็จใน พร้อมกราบขอโทษเจ้าอาวาสวัดสารภาพบาป

จากกรณีที่กล้องวงจรปิดภายในกุฏิวัดพันเสด็จใน อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี จับภาพคนร้ายทำทีเข้ามาไหว้พระ แต่อาศัยช่วงจังหวะไม่มีพระอยู่ฉกพระเหรียญหลวงปู่ชื่อดังพร้อมเงินสดกว่า 5 พันบาท ก่อนยกมือไหว้แล้วหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (,โจรทำเนียนเข้าวัดไหว้พระ ฉกเหรียญหลวงปู่ฮก เงินสด 5 พัน หนีลอยนวล,),เมื่อวันที่ 16 ส.ค.59 ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ เหมือนพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี พร้อมชุดสืบสวนบ่อวิน ได้นำตัว นายสมพร โคคร อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น อาชีพหารับจ้างทั่วไป ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุขโมยเหรียญหลวงปู่ฮกและเงินจำนวนหนึ่ง ภายในวัดพันเสด็จใน โดยการเข้าจับกุมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านแจ้งว่า มีชายรูปร่างคล้ายคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุภายในวัด พักอยู่ห้องไม่มีเลขที่แถวหลังวัดเกิดเหตุเอง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบ ก็พบนายสมพร ลักษณะและรูปร่างตรงตามภาพที่กล้องทางวัดจับภาพไว้ได้ และที่ชาวบ้านแจ้งมาทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและเข้าควบคุมตัวก่อนนำมาสอบสวน,นายสมพร รับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาเพื่อจะไหว้พระภายในกุฏิเพื่อขอพร แต่พอเข้าไปไม่เห็นมีใครจึงเกิดกิเลสและได้ดูจนแน่ใจก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปหยิบเหรียญหลวงปู่ฮก รุ่นสมทบทุนตั้งวิทยาลัยสงฆ์ชลบุรี เป็นเหรียญเงิน 2 เหรียญ ราคาเหรียญละ 2,000 บาท และเหรียญเงินลงยา 2 เหรียญ ราคาเหรียญละ 1,800 บาท พร้อมกับเงินที่ประชาชนเข้ามาเช่าเหรียญไป ก่อนจะก้มลงยกมือไหว้แล้วรีบหนีออกมาทันที หลังจากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์นำเหรียญที่เอามาไปจำหน่ายเพียงเหรียญละ 300 บาท ส่วนเงินทั้งหมดที่ได้ก็ใช้จ่ายไปหมดแล้วก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงให้พาไปนำพระที่นายสมพรไปจำหน่ายไว้กลับคืนมาจนครบ,ทั้งนี้ หลังจากทางเจ้าหน้าที่นำตัวนายสมพรผู้ก่อเหตุมาทำแผนครบแล้ว ทางด้านนายสมพรได้มีการสำนึกผิดกับเหตุที่ตนเองก่อไป จึงได้ขอทางเจ้าหน้าที่เพื่อกราบขอขมาพระครูสถภัทร กับการกระทำครั้งนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมแล้วส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

มติเป็นเอกฉันท์ 78 เสียง ของกรรมการบริหาร และ สมาชิกพรรค อนาคตใหม่ โหวตให้ 4 ส.ส. พ้นสมาชิกพรรคทันที มีผลวันนี้ ก่อนจะแจ้งเจ้าตัวทราบอย่างเป็นทางการ ขณะที่ทั้ง 4 คน ต้องหาสังกัดใหม่ใน 30 วัน

วันนี้ (17 ธ.ค.2562) น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคที่เป็น ส.ส.ลงมติเป็นเอกฉันท์ด้วยเสียง 78 เสียง ให้ 4 ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรคพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยระบุว่า มติพรรคเป็นทางการแล้ว พร้อมยืนยันเป็นทางออกที่ดีขึ้นสำหรับพรรคน.ส.พรรณิการ์เปิดเผยว่า ขั้นตอนต่อจากนี้คือ แจ้งให้เจ้าตัวทราบ พร้อมแจ้ง กกต. รัฐสภา และภายใน 30 วันทั้ง 4 คนต้องหาพรรคสังกัดใหม่ หากไม่ได้จะพ้นสมาชิกภาพ ส.ส. คือ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เขต 8 จ.เชียงใหม่ นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.เขต 2 จันทบุรี พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.เขต 1 จันทบุรี และน.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.เขต 7 จ.ชลบุรีโฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวถึงกรณีที่มีผู้นำตุ๊กตามาวางไว้ที่หน้าห้องประชุมพรรคว่า ไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้เอามาวางไว้ ซึ่งก็แปลกใจเช่นกัน แต่อาจเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่สะท้อนว่ามีความไม่พอใจสูง และตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาที่มีการโหวตสวนเกิดความตึงเครียดในพรรค ที่ให้มีมาตรการจัดการที่พรรคได้ทำดีที่สุดแล้วที่จะตอบสังคม แต่ยืนยันว่า พรรคไม่ได้นำมาวางเพื่อขู่ ส.ส.น.ส.พรรณิการ์ระบุถึงกรณีที่รัฐบาลจะฟ้องกรณีบิดเบือนคำขวัญวันเด็กในทวิตเตอร์ว่า ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ แต่รู้สึกตลกดี เพราะเห็นว่าเป็นภาพตัดต่อ ใครเห็นก็รู้ ที่โลกทวิตเตอร์มีการล้อเล่นเยอะ แต่รัฐบาลกลับไปแจ้งข้อกล่าวหา ขอให้สำนักนายกรัฐมนตรีมีอารมณ์ขันบ้าง และเอาเวลาไปจัดการเฟคนิวส์ที่สร้างความขัดแย้งในบ้านเมืองดีกว่ามาจัดการการล้อเล่นทางการเมือง

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน จากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุม ทำให้ตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2562 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า  บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่,พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน โดยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน ควรอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้ง สำหรับเกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ,อนึ่ง คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพื้นที่เกิดพายุฤดูร้อนขึ้นได้ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่   ,พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้,ภาคเหนือ มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 17-25 องศาเซลเซียส ,อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-15 กม./ชม. ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา และบุรีรัมย์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.   ,ภาคกลาง  มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ,อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.   , ,ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ,อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ,ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร     ,ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ,อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ,ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร  ,กรุงเทพมหานคร มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ,ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.  

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

หนุ่มพัทลุงซิ่งกระบะพาครอบครัวกลับจากหาดใหญ่ จนถึงบริเวณสายเอเชียฝั่งขาขึ้นช่วงหน้าโรงพักป่าบอน ก็มีคนวิ่งข้ามถนนกระชันชิดทำให้เบรคไม่ทันชนอย่างจัง ก่อนที่จะมีรถบรรทุกพ่วงเหยียบซ้ำเสียชีวิต

คาที่,เมื่อเวลา 21.30 น วันที่ 13 ธ.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าบอน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่ขรี เข้าตรวจสอบบริเวณถนนสายเอเชียฝั่งขาขึ้นช่วงหน้าโรงพักป่าบอน ท้องที่ หมู่ 6 ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จังหวัดพัทลุง พบศพนายภณ พฤติพันธ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112หมู่ 10 ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น สภาพศพเละร่างกายฉีกออกจากกัน อวัยวะกระจัดกระจายบนท้องถนน ใกล้กันเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถกระบะ ฟอร์ด สีส้ม สีประตู หมายเลขทะเบียน ขม 4867 สงขลา จอดอยู่ในสภาพด้านรถเสียหาย ทราบชื่อคนขับคือนายปิยวัฒน์ เพ็ชรทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 หมู่ 7 ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง หลังเกิดเหตุได้เข้ามอบตัวกับ ร.ต.อ.สุนทร ยิ่งคง ร้อยเวร สภ.ป่าบอน,นายปิยวัฒน์ ให้การกับเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถกระบะพาครอบครัวมีภรรยาและลูกเดินทางกลับจากทำธุระในพื้นที่ อ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มุ่งหน้ากลับบ้านพักในพื้นที่ อ.ป่าบอน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ นายภณ ได้วิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถอย่างกระชั้นชิด บวกกับมองไม่เห็นเนื่องจากจุดดังกล่าวแสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้ตนเบรคไม่ทัน รถกระบะจึงพุ่งชนนายภณอย่างจัง จนกลิ้งไปบนถนน จังหวะนั้นได้มีรถบรรทุกพ่วงซึ่งขับตามหลังมาคาดว่าน่าจะ เหยียบร่างของนายภณซ้ำ จนทำให้ร่างเละฉีกขาดกระจัดกระจายบนถนน ,เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานายปิยวัฒน์ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมจะได้ตรวจกล้องวงจรปิดเพื่อหารถบรรทุกพ่วงมาสอบปากคำและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ครูสาว เล่าประสบการณ์ชีวิตคู่ หลังตัดสินใจยุติความรัก 8 ปี ขอดูแลลูกสาวด้วยตัวเอง เผยที่ผ่านมา เคยไว้ใจฝากชีวิตให้คนๆ หนึ่งด้วยความซื่อสัตย์ แต่สุดท้ายกลับเจ็บช้ำบ่อยครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของครูสาวรายหนึ่ง ได้โพสต์แบ่งปันประสบการณ์การใช้ชีวิตคู่สามีภรรยานาน 8 ปี มีลูกสาวที่น่ารักด้วยกัน 1 คน ก่อนที่จะตัดสินใจหย่าร้างกับสามี โดยเล่าว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้เดินตามหลังคนๆ หนึ่งด้วยความซื่อสัตย์อย่างไม่มีข้อแม้และไว้ใจ,แม้ว่าระหว่างทาง เขาจะโรยเศษแก้วทิ้งไว้บนพื้นจนทิ่มตำเท้า แต่ฉันก็เดินตามเขาไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าเสียดายเวลาที่อุตส่าห์เดินตามมาตั้งนาน จนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กคนหนึ่งเกิดขึ้นมา ฉันต้องอุ้มเด็กคนนี้เอาไว้เพื่อไม่ให้เด็กโดนเศษแก้ว,จนกระทั่ง 8 ปี ในที่สุดเราก็ถึงทางแยก มี 2 ทาง คือ ทางเดิมที่แม้จะมีเศษแก้วประปรายให้เห็น แต่ก็ยังคงมีแผ่นหลังที่คุ้นเคยกับรอยยิ้มจริงใจของเขาที่เหมือนคอยให้ความหวังว่าเขากำลังจะเลิกโรยเศษแก้วแล้ว หรือจะเลี้ยวออกไปอีกทาง ที่มันโคตรมืดและไม่รู้จะมีอะไรอยู่ข้างหน้า แต่ไม่ว่าจะเลือกทางใดก็จะไม่มีวันปล่อยเด็กคนนี้แน่นอน ,ที่ทางแยกฉันมองลงไปที่เท้าตัวเอง ตอนนี้มันดูไม่เหมือนเท้าอีกต่อไป มันเต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน มันเจ็บ มันชา แล้วกลับมาเจ็บอีก วนไปเรื่อยๆ,,วันนี้ ฉันตัดความเสียดาย 8 ปีที่ผ่านมาไว้ที่ตรงทางแยกนั้น แล้วเลือกเดินทางใหม่ ทางที่มันโคตรจะมืดและไม่รู้จะเจอกับอะไรอีก แต่อย่างน้อยที่สุดทางนี้ก็ไม่มีเศษแก้วอีกแล้ว แน่นอนว่า เมื่อไม่มีเศษแก้ว ฉันจึงกล้าที่จะวางเด็กลงกับพื้นแล้วจับมือกันเดินแทนการอุ้ม ,ฉันรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด จากที่เป็นแต่ผู้ตามที่ซื่อสัตย์ ฉันรู้ทันทีว่าตอนนี้ฉันต้องมาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแทนในวินาทีนี้เลย เพราะฉันกำลังจะมีเด็กคนนึงเดินตามแผ่นหลังของฉัน ตอนนี้ฉันยังเดินต่อไม่ค่อยไหวเลย จากนี้ฉันอาจจะนั่งลงใช้เวลาในการรักษาแผลที่เท้าไปสักพัก แต่ไม่นานหรอกฉันจะลุกขึ้นแล้วเดินต่อ เดินไปไอ้ทางที่มืดนี่แหละ ,นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ฉันยังอยู่ ฉันยังไม่ตาย ฉันจะไปต่อ ฉันจะไปได้โดยไม่ต้องเดินตามใครอีก และฉันไม่กลัวอะไรอีกแล้ว,.,อย่างไรก็ตาม ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจคุณแม่รายนี้จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ระบุว่า เป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวและขอให้คุณแม่และลูกสาวผ่านมันไปให้ได้ เป็นต้น.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

บทความใน Foreign Affair ของนักวิเคราะห์ตะวันออกกลางและที่ปรึกษาองค์กรซาหนัดเพื่อการสร้างสันติ (Sanad for Peacebuilding) เปิดเผยเรื่องเกี่ยวการความอื้อฉาวของเจ้าฟ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน

บทความใน Foreign Affair ของนักวิเคราะห์ตะวันออกกลางและที่ปรึกษาองค์กรซาหนัดเพื่อการสร้างสันติ (Sanad for Peacebuilding) เปิดเผยเรื่องเกี่ยวการความอื้อฉาวของเจ้าฟ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน ของซาอุดิอาระเบีย ส่งผลทำให้ชาวมุสลิมเริ่มปฏิเสธไม่อยากไปร่วมพิธีฮัจญ์ ซึ่งเป็นพิธีการสำคัญที่ชาวมุสลิมจะเดินทางแสวงบุญไปเข้าร่วมอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตที่ซาอุฯอาห์เหม็ด ทวาอิจ นักวิเคราะห์ตะวันออกกลางและที่ปรึกษาองค์กรซาหนัดเพื่อการสร้างสันติ (Sanad for Peacebuilding) ระบุว่าเจ้าฟ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิ ซัลมาน ต้องการทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศซาอุฯ ดูดี เหมือนจะมีเสรีแบบเปลือกนอก แล้วก็พยายามกลบเกลื่อนความโหดร้ายของนโยบายตัวเอง ทั้งนโยบายภายในประเทศและนโยบายการต่างประเทศ แต่การกลบเกลื่อนของเขาก็ไม่มากพอจะบดบังความสนใจจากผู้คนในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายใต้รัฐบาลซาอุฯ ได้การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กล่าวถึงนี้มีตั้งแต่การทิ้งระเบิดใส่พลเรือนในเยเมน การสังหารจามาล คาชอกกี อย่างโหดเหี้ยมในสถานทูตของตัวเอง และการใช้วิธีการแบบก้าวร้าวต่อวิกฤตอิหร่าน ทั้งหมดนี้ทำให้ชาวมุสลิมนิกายซุนนีด้วยกันเริ่มเบือนหน้านี้ซาอุฯ เช่นในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมามีผู้นำศาสนาชื่อดังของลิเบีย มุฟตีใหญ่ ซาดิก อัล การิอานี เรียกร้องให้ชาวมุสลิมทุกคนบอยคอตต์พิธีฮัจญ์ที่กรุงเมกกะ โดยถึงขั้นบอกว่าถ้าหากใครเดินทางไปเป็นครั้งที่สองจะกลายเป็น การทำผิดแทนที่จะเป็นการทำสิ่งที่ดี สาเหตุที่บอยคอตต์การไปยังซาอุฯ นี้เป็นเพราะไม่ต้องการให้การแสวงบุญกลายเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจซาอุฯ ทำให้ซาอุฯ สามารถนำเงินไปใช้ซื้ออาวุธ ก่อเหตุประหัดประหารในเยเมนและส่งผลต่อประเทศตะวันออกกลางอื่นๆ โดยอ้อม การิอานีถึงขั้นบอกว่าเงินเหล่านี้จะไป ช่วยให้ผู้นำซาอุฯ ก่อเหตุอาชญากรรมต่อเพื่อนชาวมุสลิมด้วยกันแต่การิอานีก็ไม่ใช่ครูสอนศาสนามุสลิมที่มีชื่อเสียงคนแรกที่ประกาศแบนพิธีฮัจญ์ที่ซาอุฯ ก่อนหน้านี้ ยูซุฟ อัล คาราดาวี ครูสอนศาสนาอิสลามนิกายซุนนีที่เป็นนักวิพากษ์วิจารณ์ซาอุฯ ตัวยงประกาศฟัตวาสั่งแบนการไปพิธีฮัจญ์ที่ซาอุฯ เมื่อเดือน ส.ค. 2561 เขาบอกว่าอยากให้ชาวมุสลิมนำเงินไปจุนเจือผู้หิวโหย รักษาคนป่วย และให้ที่พักพิงแก่คนไร้บ้าน เป็นสิ่งที่ดีกว่าในสายตาขององค์อัลเลาะห์ เมื่อเทียบกับการนำเงินไปให้กับพิธีฮัจญ์ที่ซาอุฯบทความของทวาอิจระบุว่าอิทธิพลของซาอุฯ ไม่ได้มาจากอำนาจทางการเมืองและประสิทธิภาพทางการทหารอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมาจากการที่มีประวัติศาสตร์ผูกโยงกับศาสนาอิสลามด้วย เพราะซาอุฯ มีทั้งเมืองเมกกะ และเมดินา ที่ทั้งคู่ถือเป็นแหล่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมุสลิม เนื่องจากเมกกะเป็นที่ตั้งของมัสยิดศูนย์กลาง กะฮ์บะฮ์ ส่วนเมดินาเป็นที่ฝังศพของนบีมูฮัมหมัด โดยที่มีชาวมุสลิมราว 2.3 ล้านคนจากทุกนิกายเดินทางไปเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ที่กรุงเมกกะซึ่งเป็นพิธีที่จัดขั้นทุกปี นั่นทำให้การเดินทางไปที่ซาอุฯ กลายเป็นแรงบันดาลใจของชาวมุสลิมจำนวนมากในที่ต่างๆ ของโลกทวาอิจระบุว่าอิทธิพลเช่นนี้เองที่ทำให้โลกอาหรับส่วนที่เป็นมุสลิมนิกายซุนนีใช้ซาอุฯ เป็นแนวทางในการดำเนินการเรื่องศาสนา ในช่วงที่มีการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ในปี 2522 ซึ่งเป็นนิกายชีอะฮ์ ซาอุฯ กลัวว่าอิทธิพลของของนิกายแบบอิหร่านจะแพร่กระจายออกไปสู่ภูมิภาคทำให้พวกเขาทุ่มเงินเป็นหลายล้านในการส่งออกอิสลามในแบบของตัวเอง มีการให้งบกับมัสยิดทั่วโลก และมีจำนวนมากที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงในตะวันตก ขณะที่ซาอุฯ ได้อ้างว่าตัวเองเป็นผู้นำแห่งโลกมุสลิมซาอุฯ พยายามสร้างอำนาจนำในตะวันออกกลางมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยมีคู่แข่งคืออิหร่านเท่านั้น การที่ซาอุฯ เป็นประเทศส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกและมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ทำให้ซาอุฯ ได้รับการสนับสนุนจากประเทศใกล้เคียงมาเป็นเวลาหลายสิบปี แม้แต่หลังจากกรณีการสังหารคาชอกกีที่มีหลักฐานว่าราชวงศ์ซาอุฯ มีส่วนพัวพันนั้น ท่าทีของสหรัฐฯ ในยุคสมัยโดนัลด์์ ทรัมป์ ก็ยังคงมีท่าทีปกป้องซาอุฯ ทว่าฝ่ายโลกมุสลิมดูจะไม่ยอมให้อภัยในเรื่องนี้กลุ่มประเทศมุสลิมเริ่มมีความกังวลมากขึ้นต่อกรณีการสังหารคาชอกกี และปฏิบัติการในสงครามเยเมนที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้คนเพิ่มมากขึ้นจากการทิ้งระเบิดแบบไม่เลือกเป้าหมายของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุฯ พวกเขาทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาล งานศพ รถโรงเรียนที่รับส่งเด็ก และงานแต่งงาน เจ้าหน้าที่สหประชาชาติบอกว่าเป็น วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดในยุคสมัยของพวกเขาที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ด้วยกัน การกระทำของซาอุฯ ก็ทำให้แม้แต่ประเทศแนวร่วมพันธมิตรอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็แสดงออกว่าไม่สบายใจต่อวิธีการแบบนี้ วิธีการของซาอุฯ ยังทำให้เกิดการประณามจากนานาชาติและเริ่มมีการคว่ำบาตรการค้าอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเยอรมนี อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ แม้กระทั่งสภาบนและสภาล่างของสหรัฐฯ ก็เพิ่งระงับแผนการค้าอาวุธระหว่างทรัมป์กับซาอุฯทั้งนี้ทวาอิจยังตั้งข้อสังเกตว่าการบอยคอตต์ซาอุฯ ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องความต่างของนิกายแบบในอดีต แต่ชาวมุสลิมทั้งนิกายชีอะอ์และซุนนีต่างก็ต่อต้านซาอุฯ ร่วมกัน เช่นในกรณีการลุกฮือในบาห์เรนเมื่อปี 2554 ที่นำโดยกลุ่มมุสลิมนิกายชีอะฮ์ ซาอุฯ ได้ให้ความช่วยเหลือรัฐบาลบาห์เรนในการปราบปรามการประท้วงนี้ ทำให้นักกิจกรรมในประเทศอิรักเรียกร้องให้บอยคอตต์ซาอุฯ และรัฐบาลอิรักที่เป็นนิกายซุนนีประณามความรุนแรงของซาอุฯ ในการประท้วงที่อิรักมีชาวนิกายชีอะฮ์เข้าร่วมด้วย ในอีกหลายๆ ประเทศที่นำโดยนิกายซุนนีก็เรียกร้องให้มีการต่อต้านซาอุฯ โดยมีการแสดงออกบอยคอตต์การเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ในซาอุฯ จากแฮชแท็ก #boycotthajjทวาอิจวิเคราะห์ว่าในฐานะที่พิธีฮัจญ์เป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญของศาสนาอิสลาม การบอยคอตต์การเข้าร่วมพิธีนี้จึงถือเป็นการแสดงออกอย่างจริงจังในเรื่องความกังวลต่อพฤติกรรมของซาอุฯ ถ้าหากยังมีการต่อต้านบอยคอตต์แบบนี้ต่อไปนอกจากจะส่งผลต่อเรื่องอิทธิพลซาอุฯ ในเชิงอำนาจนำทางศาสนาแล้ว ยังเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจไปด้วย เพราะการเดินทางแสวงบุญที่เมกกะสร้างรายได้ให้ซาอุฯ ราว 12000 ล้านดอลลาร์ต่อปี คิดเป็นร้อยละ 20 ของจีดีพีที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมันก่อนหน้านี้การเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ก็เคยเป็นเครื่องมือทางการเมืองของซาอุฯ มาก่อน โดยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาทางการซาอุฯ สั่งแบนไม่ให้ชาวกาตาร์และอิหร่านเข้าร่วมเนื่องจากความแตกต่างทางการเมือง แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลซาอุฯ เองก็อ้างใช้ความศักดิสิทธิ์ของเมกกะในการส่งเสริมอุดมการณ์การเมืองของตัวเอง เช่นมีการเปลี่ยนบทเทศนาในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาหันมาพูดโฆษณาเรื่อง การปฏิรูป ของซาอุฯ และแสดงการชื่นชมเจ้าฟ้าชายซัลมาน เหมือนบอกเป็นนัยๆ ว่าชาวมุสลิมไม่ควรโต้แย้งชนชั้นนำของซาอุฯอีกครั้งหนึ่งที่ซาอุฯ อ้างใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือคือการจัดประชุมเร่งด่วนที่กรุงเมกกะเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาโดยพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของนานาชาติจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการสังหารคาชอกกีและสงครามเยเมนมาสู่เป้าหมายการต่อต้านอิหร่านแทน ในการประชุมครั้งนั้นซาอุฯ ขอให้คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ร่วมมือกันต่อต้านอิหร่านแต่ก็ดูเหมือนว่าอำนาจนำในภูมิภาคของซาอุฯ เริ่มลดลงจากเสียงต่อต้านในที่ประชุมอย่างอิรักซึ่งขอให้ช่วยทำให้อิหร่านมีเสถียรภาพแทนที่จะต่อต้านอิหร่าน โดยที่ประธานาธิบดีของอิรักกล่าวในที่ประชุมว่าการช่วยเหลือออิหร่านซึ่งนับเป็น ประเทศอิสลามเพื่อนบ้าน จะส่งประโยชน์ต่อชาวมุสลิมและรัฐอาหรับเอง นอกจากอิรักแล้วกลุ่มองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ก็ไม่ยอมประณามและบีบให้อิหร่านโดดเดี่ยวตามที่ซาอุฯ ต้องการทวาอิจประเมินว่าซาอุฯ กำลังตกที่นั่งลำบากเพราะประเทศตะวันตกก็เริ่มตีตัวออกห่างและกลุ่มประเทศมุสลิมก็บอยคอตต์ เหลือเพียงแต่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถ้าหากว่าทรัมปไม่สามารถชนะการเลือกตั้งในสมัยที่ 2 ได้ ซาอุฯ ก็จะเหลือเพื่อนอยู่น้อยมากและอำนาจนำในโลกอาหรับและกลุ่มประเทศมุสลิมก็จะเสียหายอย่างหนักMohammed bin Salman Is Making Muslims Boycott Mecca Ahmed Twaij Foreign Policy 02-07-2019

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

2 คู่หูสายตรวจ 191 โชว์ตาเหยี่ยว จมูกมด หลังออกตรวจในพื้นที่ พบรถตู้ต้องสงสัยบนถนนพุทธมณฑลสาย 2 ส่งสัญญาณขอตรวจค้น รถตู้กลับเร่งเครื่องขับหนี ฝ่ายตำรวจต้องเปิดสัญญาณไซเรนไล่ล่า

ไม่ต่างกับภาพยนตร์แอ็กชัน สุดท้ายรถตู้ขับหนีเข้าซอยตัน เสียหลักหัวทิ่มตกคลอง ส่วนคนในรถ 2 คนว่ายน้ำหนีไปได้ ผู้การ 191 รุดตรวจสอบร่วมตรวจค้นรถตู้ต้องสงสัยถึงตะลึงพบยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด ซุกอยู่ในรถเร่งขยายผลหาที่มาที่ไป,2 ตำรวจ 191 ตาเหยี่ยวจมูกมดขับรถไล่บี้จับรถตู้ขนยาบ้าบิ๊กลอตครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 26 พ.ย. ขณะที่ ด.ต.บุญมา ชุบสัมฤทธิ์ และ ส.ต.ท.วสันต์ สุขนิล ผบ.หมู่ (สายตรวจ) กก.3 บก.สปพ. เข้าเวรรถวิทยุสายตรวจ อยู่บนถนนเพชรเกษมขาออก ช่วงฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. สังเกตเห็นรถตู้ต้องสงสัยติดผ้าม่านรอบคัน ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮว 564 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมาตีคู่ด้วยท่าทีมีพิรุธ โดยรถพยายามเบียดแซงรถของเจ้าหน้าที่เพื่อหลบหนีคล้ายมีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ในรถ,ด.ต.บุญมาทำหน้าที่พลขับตัดสินใจขับเข้าไปขนาบข้างทางด้านขวา พร้อมส่งสัญญาณไซเรนและแจ้งทางเครื่องขยายเสียงให้คนขับรถตู้จอดรถชิดข้างทางขอตรวจสอบตามยุทธวิธี แต่รถตู้คันดังกล่าว กลับยิ่งกระแทกคันเร่งขับหนีจากถนนเพชรเกษม เลี้ยวขวาเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 2 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดบุณยประดิษฐ์ ขณะที่รถตำรวจ 191 เปิดไซเรนเสียงดังสนั่นลั่นถนน ไล่ล่าจับกุมด้วยความระทึกเหมือนภาพยนตร์แอ็กชัน ท้ายที่สุดรถตู้ได้ขับหนีเข้าไปในซอยพุทธมณฑล สาย 2 ซอย 7 และเสียหลักพุ่งตกคลองในสภาพหัวรถตู้ทิ่มลงไป ก่อนคนร้าย 2 คน เป็นคนขับรถตู้และคนที่นั่งมาข้างๆ เปิดประตูรถกระโดดน้ำว่ายหนีหายไปในป่าหญ้าท่ามกลางความมืดได้อย่างหวุดหวิด รวมระยะทางไล่ล่ากันประมาณ 5 กิโลเมตร,ขณะเดียวกัน หลังรับรายงานเหตุ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ.191 สั่งการให้ พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และ พ.ต.ต. อัษฎาวุธ ขวัญเมือง สว.งานสายตรวจ 3 บก.สปพ. นำกำลังมาสนับสนุน ประสานสุนัขตำรวจเข้าช่วยไล่ล่าติดตามตัวคนร้ายทั้งคู่ แต่ไม่พบวี่แวว เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นป่าหญ้ารกชัฏ ประกอบกับมีทางเข้าออกทะลุเชื่อมโยงกันได้หลายทาง,อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภายในรถตู้พบว่า มีการดัดแปลงห้องโดยสารด้วยการถอดเบาะโดยสารซีกซ้ายออก ใช้เป็นที่วางกระสอบบรรจุยาบ้า 7 กระสอบ กับยาบ้ามัดใหญ่ที่ไม่ได้บรรจุอยู่ในกระสอบอีก 1 มัด รวมของกลางยาบ้าทั้งสิ้น 1,500,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 225,000,000 บาท แจ้งให้กองพิสูจน์หลักฐานเดินทางมาเก็บลายนิ้วมือแฝง นำของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาที่ บก.สปพ.เพื่อขยายผล จับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ประธาน สนช. ระบุ ยังไม่มีสัญญาณให้ทำประชามติ ชี้ถ้าจะทำเป็นหน้าที่ของ กมธ.ยกร่างฯ เสนอไปยัง คสช. 9 เม.ย. 2558 เว็บข่าวรัฐสภา รายงานว่า พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า

ประธาน สนช. ระบุ ยังไม่มีสัญญาณให้ทำประชามติ ชี้ถ้าจะทำเป็นหน้าที่ของ กมธ.ยกร่างฯ เสนอไปยัง คสช. 9 เม.ย. 2558 รายงานว่า พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า จากที่ได้ศึกษารายละเอียดร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกที่กรรมาธิการยกร่างรัฐ ธรรมนูญดำเนินการเสร็จแล้ว พบว่า จะต้องมีการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเป็นจำนวนมาก ซึ่งการที่ สนช. ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐ ธรรมนูญ ก็เพื่อดำเนินการศึกษาและออกกฎหมายลูกให้เสร็จ เพราะหากบางฉบับดำเนินการไม่เสร็จ ก็อาจกระทบต่อการเลือกตั้งได้อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีสัญญาณใดๆเกี่ยวกับข้อเสนอให้มีการทำประชามติ แต่ถ้าหากจะให้ทำประชามติ ก็จะเป็นหน้าที่ของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะเสนอไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 ก่อน เพื่อให้รองรับการทำประชามติได้

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

วิษณุ ไม่ฟันธงเลือกตั้งท้องถิ่นกลางปีนี้ แจงหาก ก.ม.ฉบับใดฉบับหนึ่งเสร็จ ให้จัดเลือกตั้งภายใน 45 วัน พร้อมเร่งคืนตำแหน่ง ขรก.ถูกเด้งเข้ากรุ หลังตรวจสอบไม่พบความผิด

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 61 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จ.จันทบุรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างแก้ไขกฎหมาย ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ ว่า กำหนดการเดิมที่คาดว่าจะมีการเสนอกฎหมายเหล่านี้ ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาทำการแก้ไข พร้อมกับร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ อาจเปลี่ยนแปลงได้อีก,ส่วนกรณีที่ นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระบุว่า อาจมีการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ภายในกลางปี 2561 ตนเห็นว่ากฎหมายที่จะเข้า สนช.มีหลายฉบับซึ่งออกมาไม่พร้อมกัน และเมื่อกฎหมายนั้นๆ ออกมาแล้ว สามารถจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ในบางระดับ แต่ไม่ใช่ทำพร้อมกันทุกระดับ อาทิ อาจจัดเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ก่อน แต่ไม่ใช่จัดการเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศพร้อมกัน เพราะผู้บริหารและสมาชิก อบจ.หลายแห่งมีวาระสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งไม่พร้อมกัน และ อบจ.บางแห่งมีขนาดพื้นที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะทำให้จำนวนสมาชิกเปลี่ยนแปลงด้วย ,ดังนั้นหากจะเลือกตั้ง อบจ.ภายในกลางปีนี้ ก็อาจเป็นเพียง อบจ.บางแห่งเท่านั้น  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะให้มีการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับใดบ้าง โดยการพิจารณากำหนดความพร้อมจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยและ กกต. ผมไม่ได้พูดว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นกลางปีนี้ แต่นั่นเป็นคำพูดของ นายพีระศักดิ์ ผมไม่กล้าไปพูดว่า สนช.จะพิจารณากฎหมายเสร็จเมื่อไหร่ ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีก 11 เดือน ยังมีเวลาเป็นไปได้ที่จะเกิดการเลือกตั้งท้องถิ่นขึ้นในปี 2561 และเมื่อกฎหมายฉบับใดออกมาแล้ว ก็สามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายใน 45 วัน นายวิษณุ กล่าว,เมื่อถามว่า กรณีของนักการเมืองท้องถิ่นที่ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช.ให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ และถูกตรวจสอบตามที่มีข้อกล่าวหา จะตรวจสอบทันต่อการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องทันแน่นอน ขณะนี้ได้เร่งตรวจสอบอยู่ เพราะหากล่าช้า คนเหล่านี้จะเสียสิทธิ ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ อย่างไรก็ตาม หากรายใดที่ตรวจสอบไม่ทัน ก็ถือว่ามีชนักติดหลัง,นายวิษณุ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคืนตำแหน่งให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้มาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ยังไม่ทราบว่าจะคืนตำแหน่งให้เมื่อใด แต่หากจะคืนตำแหน่งก็สามารถทำได้ทันที ในกรณีที่ให้มาช่วยราชการไม่ต้องเสนอเรื่องให้ขอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ โดยการคืนตำแหน่งนั้น ทางกระทรวงมหาดไทย หรือ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถพิจารณาเสนอให้กลับคืนตำแหน่งได้ หากถูกคำสั่งและขาดจากตำแหน่งเดิม จะต้องเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เพื่อนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนผู้ที่จะได้รับคืนตำแหน่งได้,ส่วนกรณีของ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ที่มีคำสั่งให้มาช่วยราชการ 3 เดือน และยังไม่มีการพิจารณาให้กลับคืนตำแหน่งนั้น เบื้องต้น ตรวจสอบแล้วยังไม่พบการกระทำผิด แต่หากตรวจสอบแล้วพบความผิด นายกฯ สามารถออกคำสั่งใหม่เพื่อดำเนินการต่อไปได้

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตำรวจเดนมาร์กจับชาย 2 คน ซึ่งพูดล้อเล่นกันว่าในกระเป๋าของพวกเขามีระเบิด ขณะอยู่ที่สนามบินในกรุงโคเปนเฮเกน แต่ผู้โดยสารคนอื่นได้ยินและไปแจ้งเจ้าหน้าที่ นำไปสู่การอพยพอาคารผู้โดยสาร และระงับการเดินรถไฟ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่อพยพผู้คนออกจากอาคารผู้โดยสารที่ 3 ของท่าอากาศยาน คาสทรุป ในกรุงโคเปนเฮเกน เมื่อวันพุธตั้งแต่เวลาประมาณ 12:30น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากผู้โดยสารจำนวนหนึ่งรายงานว่า ได้ยินผู้โดยสารคน 2 คนพูดคุยกันว่ามีระเบิดอยู่ในกระเป๋าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติในเวลา 14:00น. หลังพบว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง,ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ เอ็กซ์เพรสเซน ของสวีเดน รถบัสตำรวจ 2 คนพร้อมเจ้าหน้าที่สอบเสื้อเกราะกันกระสุน เดินทางมาถึงท่าอากาศยาน คาสทรุป หลังได้รับแจ้งว่าพบกระเป๋าต้องสงสัยว่ามีระเบิด โดยตำรวจเข้าไปในอาคารผู้โดยสารที่ 3 และสั่งให้ทุกคนออกจากอาคาร สร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้คน ขณะที่เดียวกัน ผู้โดยสารที่อยู่ในอาคารผู้โดยสารที่ 2 ถูกสั่งว่าห้ามออกจากตัวตึก,อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปประมาณ 90 นาที ตำรวจได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า พวกเขายกเลิกการเตือนภัยทั้งหมดที่สนามบิน คาสทรุป โดยมีผู้ได้ยินคนคุยกันว่ามีระเบิด ซึ่งตำรวจได้ตรวจค้นกระเป๋าต้องสงสัย แต่ไม่พบระเบิด ต่อมาพวกเขาได้จับกุมชายต้นเรื่องทั้ง 2 คนไปสอบปากคำ ซึ่งนาย สตีน แฮนเซน โฆษกตำรวจเดนมาร์ก เผยว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนแก้ตัวว่าพวกเขาคุยเล่นกันเองขำๆ เรื่องระเบิด,ทั้งนี้ โฆษกของท่าอากาศยาน คาสทรุป ยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้พวกเขาต้องเลื่อนหรือยกเลิกเที่ยวบินแต่อย่างใด แต่มีการระงับการเดินทางด้วยรถไฟระหว่างเดนมาร์กและภาคใต้ของสวีเดน ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบินแห่งนี้,อนึ่ง ความวุ่นวายล่าสุดนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากตำรวจเดนมาร์กเพิ่งประกาศ ยกระดับการเตรียมพร้อมด้านความมั่นคง ขึ้นสู่ระดับสูงสุดอันดับ 2 จาก 5 ระดับ เช่นเดียวกับประเทศสวีเดนที่ยกระดับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายขึ้นเป็นระดับ สูง โดยเป็นผลจากการก่อการร้ายในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 129 ราย

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ชนกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแล้วตกลงเหวบริเวณบ้านน้ำอ้อม ต.ยางสาว อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 53 คน

วันนี้ (7 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.58 น. เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารแบบไม่ประจำทางชนกับรถยนต์กระบะ บริเวณถนนสาย 225 เส้นสามแยกบึงบอระเพ็ด-ชัยภูมิ บ้านน้ำอ้อม ต.ยางสาว อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ทำให้รถทัวร์โดยสาร เสียหลักตกเหวลึกประมาณ 50 เมตร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 53 คน โดยเป็นผู้บาดเจ็บในรถทัวร์ 48 คน และผู้บาดเจ็บในรถยนต์กระบะ 5 คน หลังเกิดเหตุ อาสาสมัครกู้ภัยและเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างๆ ระดมรถพยาบาลเข้าช่วยลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลวิเชียรบุรี 14 คน โรงพยาบาลบึงสัมพันธ์ 13 คน โรงพยาบาลศรีเทพ 2 คน โรงพยาบาลหนองไผ่ 3 คน และโรงพยาบาลภักดีชุมพล 9 คน ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คนด้านนายสุทน พูนกลาง อายุ 41 ปี คนขับรถทัวร์คันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า นำผู้โดยสารมาจาก จ.สมุทรปราการ เพื่อไปทอดผ้าป่าที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ แต่ขณะเดินทางกลับมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งลงเขา พบว่าระบบเบรกรถเกิดปัญหา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถยนต์กระบะขับสวนขึ้นมา จึงชนเข้าอย่างจัง และเสียหลักตกลงไปในหุบเขา โดยพยายามประคองไม่ให้รถพลิกคว่ำได้สำเร็จ เป็นผลทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุนี้ขณะที่ตำรวจ กล่าวว่า จุดเกิดเหตุเป็นเนินเขาค่อนข้างชัน สภาพถนนเป็นทางโค้ง และค่อนข้างแคบ จึงมักจะมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่าเกิดจากระบบเบรกของรถบัสมีปัญหา แต่จะได้ทำการสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

สถานการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคกลางหลายจังหวัดน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ อ่างทองที่เจ้าหน้าที่เตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือปริมาณน้ำอีกระลอก

ชาวตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เร่งขนย้ายสุกรไปไว้ในปลอดภัย เนื่องจากประตูระบายน้ำยางมณีปล่อยน้ำทำให้ล้นข้ามถนนวัดสามประชุม ตำบลบางระกำ อำเภอโพธิ์ทอง เข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่ปริมาณน้ำเริ่มไหลบ่าขยายวงกว้างเข้าสู่ทุ่งโพธิ์ทอง และ ทุ่งลำท่าแดง แล้วส่วนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะอำเภอบางบาล ชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนอย่างหนักเนื่องจากน้ำท่วมมิดหลังคาบ้าน ทำให้ต้องอพยพไปอยู่บนถนน ขณะที่บางส่วนไม่สามารถออกมาจากบ้านได้เนื่องจากไม่มีเรือและอยู่ไกล ล่าสุดเขื่อนพระรามหก เตรียมระบายน้ำเพิ่มอีกเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวอำเภอท่าเรือและอำเภอนครหลวงที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสักเตรียมรับมือน้ำท่วมอีกระลอกขณะที่ชลประทานสิงห์บุรีเร่งถมหินยาวกว่า 40 เมตรขวางคลองเพื่อกู้ประตูระบายน้ำพระงาม อำเภอพรหมบุรี ที่ถูกกระแสน้ำพัดขาด โดยน้ำยังคงไหลท่วมบ้านและพื้นที่การเกษตรในอำเภอโพธิ์ทองและอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ส่วนที่จังหวัดนครนายก การระบายน้ำจากคลอง13 จังหวัดปทุมธานีลงสู่คลอง 14 อำเภอองครักษ์ ทำให้น้ำในจังหวัดนครนายกมีระดับน้ำสูง และเอ่อล้นเข้าท่วมตำบลศรีจุฬา และตำบลบางหอย อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก หลังถูกน้ำท่วมมากว่า 1 เดือน

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

นักบริหารหนุ่มรุ่นใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่ง ศรัณยู อรรถญาณสกุล ทายาทรุ่นที่ 2 ของอาณาจักรพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่ได้เข้ามาพิสูจน์ฝีมือการทำงานตั้งแต่เรียนจบ

ศรัณยู หรือคนในครอบครัวเรียกว่า เจ็ด เป็นลูกชายคนโตในจำนวน 2 คนพี่น้องของ กรรณิการ์–ชายนิด อรรถญาณสกุล ซีอีโอของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เกริ่นเริ่มต้นว่า ชื่อเล่นว่าเจ็ดเพราะเกิดวันที่ 7 เดือน 7 และมีน้องสาวอีกคนกำลังเรียนอยู่ ตนเริ่มชีวิตการทำงาน โดยทำธุรกิจที่บ้านทันทีตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ด้านบริหารธุรกิจที่ Royal Melbourne Institute of Technology ประเทศออสเตรเลีย เพราะคุณพ่ออยากให้มาทำงานเร็วๆ ซึ่งก็ได้มาเรียนรู้งานของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ตั้งแต่เริ่มต้น ใช้เวลาอยู่ 2-3 ปี จนเข้าใจภาพธุรกิจทั้งหมด ช่วงแรกๆ ก็ต้องตามคุณพ่อไปดูงานตามไซต์งาน เพื่อเรียนรู้การทำงานทั้งจากคุณพ่อและหัวหน้างาน ตอนนี้ทำงานมาเกือบจะครบ 9 ปีแล้ว โดยดูแลการพัฒนาโครงการธุรกิจและธุรกิจตัวใหม่ๆ ของบริษัท,ผู้บริหารคนเก่งยังเล่าต่อว่า ตนสนุกกับการทำงานที่ทำอยู่ เพราะได้พบปะคนเกือบทุกอาชีพ ทั้งนักบัญชี, นักกฎหมาย, นักออกแบบ, คนก่อสร้าง การทำงานต้องทำกันเป็นทีมเวิร์ก แต่ละโปรเจกต์มีความท้าทายต่างกัน ซึ่งตอนนี้ตนแทบจะไม่ได้ดูแลงานโครงการบ้านเดี่ยวเท่าไหร่ มาดูโครงการคอนโดมิเนียม และธุรกิจใหม่ของบริษัท การเป็นเจ้าของโรงแรม Kiroro Resort ที่เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่ทางบริษัทฯ ได้ซื้อมาจากบริษัทยามาฮ่าของญี่ปุ่น ที่เป็นสกีรีสอร์ต ที่สวยงามกลางหุบเขา ซึ่งการบริหารงานได้ให้มืออาชีพดูแล เราเพียงเข้าไปดูด้านนโยบายและการพัฒนาต่อยอดเท่านั้น,ทุกวันนี้ผมสนุกกับการทำงาน มีเพื่อนๆช่วยกันทำงานแบบทีมเวิร์ก ซึ่งผมว่าเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเราได้เห็นงานที่ทำออกมาเป็นรูปเป็นร่างจริง ทำให้เรามีความภูมิใจ ซึ่งหลักในการทำงานของผมคือ เราต้องเลือกนำสิ่งที่ดีที่สุด มาทำเป็นโปรเจกต์ และสิ่งสำคัญในการทำงาน คือ ความทุ่มเท งานที่ผมทำจะดูตั้งแต่เริ่มแรก ต้องทุ่มเทจนงานสำเร็จ ในส่วนอุปสรรคการทำงานมันมีอยู่ทุกวัน แต่เราต้องมีสติในการแก้ปัญหา ต้องเผื่อทางเลือกเอาไว้หลายทาง ซึ่งคุณพ่อจะบอกทุกคนในการทำงานว่าเราต้องมีแผน 1 แผน 2 สำรองเอาไว้เสมอ,แม้ชีวิตทุกวันนี้จะทุ่มเทให้กับงาน แต่ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงคนนี้ บอกว่า เป็นชีวิตที่ลงตัวแล้ว การพักผ่อนของตนเอง คือการได้ขับรถไปดูโครงการหรือเดินทางไปดูงานที่ต่างๆ สำหรับแผนงานในอนาคตก็อยากพัฒนาสิ่งที่ทำอยู่ให้มั่นคงแข็งแรง เพราะนิยามความสำเร็จในหน้าที่การงานของตนคือ การทำให้บริษัทมีความมั่นคง และมีศักยภาพในการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นผู้บริหารหนุ่มที่ครบเครื่องทั้งวิชั่นและความมุ่งมั่นจริงๆ.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ธนกร โฆษกพปชร. ป้อง อุตตม ไม่รู้ไม่เห็น ปมฝ่ายค้าน ขู่ ยื่นซักฟอก ปล่อยลูกพรรคเสียบบัตรแทนกัน แจง พรรคกำชับ ส.ส.ให้ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดมาตลอด ยัน ไม่ได้กังวล เชื่อเจ้าตัวไม่

ธนกร โฆษกพปชร. ป้อง อุตตม ไม่รู้ไม่เห็น ปมฝ่ายค้าน ขู่ ยื่นซักฟอก ปล่อยลูกพรรคเสียบบัตรแทนกัน แจง พรรคกำชับ ส.ส.ให้ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดมาตลอด ยัน ไม่ได้กังวล เชื่อเจ้าตัวไม่ได้ทำผิดอะไรวันที่ 26 ม.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะเพิ่ม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปด้วย ในประเด็น ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ซึ่งจะส่งผลให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 63 เกิดความล่าช้าว่า นายอุตตมไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ทั้งนี้ การยื่นบัตรให้คนอื่นเสียบแทนนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ แม้มีข้อจำกัดในเรื่องของเครื่องเสียบบัตรก็ตาม ส.ส.ต้องปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับของการประชุม พรรคก็ได้มีการกำชับให้ ส.ส.ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัดมาตลอด ซึ่งเท่าที่ตนทราบ ส.ส.คนดังกล่าวก็ไม่ได้มีเจตนา และเป็นเรื่องเฉพาะตัว คงไม่ทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ต้องเป็นโมฆะนายธนกร กล่าวอีกว่า การที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะนำมาเป็นประเด็นในการอภิปรายนายอุตตมนั้น ตนมองว่า ไม่ค่อยสมเหตุสมผล และไม่เป็นธรรม เพราะนายอุตตมไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำดังกล่าว ที่ผ่านมา นายอุตตมก็ได้กำชับ ส.ส.ให้ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมอย่างเคร่งครัด อีกทั้ง ส.ส.ก็ทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีเจตนาพิเศษอะไร อยากให้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เข้าใจ เพราะหากอภิปรายในประเด็นที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนแล้ว ประชาชนอาจเบื่อหน่าย อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายอะไร ตนมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถชี้แจงได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะนายอุตตมที่ทำงานด้วยความตั้งใจ ทุ่มเท เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตนเชื่อมั่นในตัวนายอุตตมว่า ท่านไม่ได้ทำผิดอะไร.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตรวจสอบสถานะ ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน ล่าสุดคลังเตรียมจ่ายเงินเยียวยา กลุ่มอาชีพตกหล่น เพิ่มเติม ส่วนผู้ได้รับสิทธิ์อดใจรอ เตรียมโอนเงิน 10000 บาท วันที่ 5 พ.ค.นี้

ภายหลัง รัฐบาลเปิดมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19(COVID-19) จะได้รับเงินสนับสนุนรายละ 5000 บาทต่อเดือน โดยต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.comเท่านั้น ซึ่งล่าสุดได้ปิดการลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ไปแล้ว แต่ยังเปิดเว็บให้ตรวจสอบสถานะ ยกเลิกการลงทะเบียน ยื่นทบทวนสิทธิ์ เปลี่ยนแปลงข้อมูลการรับเงิน และยื่นข้อมูลเพิ่มเติมได้นั้นวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือคณะกรรมการเยียวยาปลัด 10 กระทรวง มีมติเห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือเพิ่มเติมในกลุ่มคนที่ตกหล่น เช่น ลิเก ลำตัด ที่กระทรวงวัฒนธรรมจะไปรวบรวมมารวมถึงบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกีฬา เช่น นักกีฬา นักมวย ซึ่งใน 2 กลุ่มนี้อาจช่วยเหลือเท่ากับอาชีพอิสระเดือนละ 5000 บาท 3 เดือน แต่ต้องดูว่าได้รับการช่วยเหลือจากการลงทะเบียนหรือยัง ถ้ายังกระทรวงการคลังพร้อมจ่ายเพิ่มให้ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันแล้วกดยกเลิกการลงทะเบียนด้วยความเข้าใจผิดนั้น สามารถยื่นขอรับสิทธิ์คืนอีกครั้ง โดยกดเมนูยื่นทบทวนสิทธิ์บนหน้าเว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.com หากคุณสมบัติตรงกับที่ระบุ ก็สามารถรับเงินเยียวยา 5000 บาทอย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ผ่านการพิจารณาได้รับสิทธิ์ กระทรวงการคลังจะเร่ิมโอนเงินอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (5 พฤษภาคม 2563) เนื่องจากวันที่ 1-4 พฤษภาคม ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดเสาร์อาทิตย์โดยสามารถตรวจสอบสถานะการรับเงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกันได้ ดังนี้1. เช็กสถานะเราไม่ทิ้งกัน ได้ที่เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com2. กดที่คำว่า ตรวจสอบสถานะ หรือ (คลิกที่นี่)3. ระบบจะเข้าสู่หน้า ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน มาตรการเยียวยาฯ ให้กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนโดยข้อมูลที่ต้องใช้ในการตรวจสอบสถานะ มีดังนี้4. จากนั้นระบบจะแจ้งว่าขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในขั้นตอนใดสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถตรวจสอบสถานะได้ผลการเช็กสิทธิ์เราไม่ทิ้งกันแต่ละสถานะ มีความหมายดังต่อไปนี้1. อยู่ระหว่างการตรวจสอบหากเข้าตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน และได้รับข้อความว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ความหมายคือ อยู่ในกระบวนการคัดกรองคำแนะนำ : ควรเข้าตรวจสอบสถานะในระบบ แล้วรออย่างน้อย 2-5 วัน เพื่อเช็กการเปลี่ยงแปลง2. อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะการลงทะเบียนของท่านหากเข้าตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน และได้รับข้อความว่า อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะการลงทะเบียนของท่าน (ไม่สามารถยกเลิกการลงทะเบียนได้) ความหมายคือ ได้รับสิทธิ์ รอการโอนเงินคำแนะนำ : ควรตรวจสอบยอดเงินในบัญชี เนื่องจากบางรายยอดเงิน 5000 บาท จะเข้าก่อน แล้วจึงค่อยมี SMS ตามมาทีหลัง3. ไม่สามารถทำรายการต่อได้หากเข้าตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน และได้รับข้อความว่า ไม่สามารถทำรายการต่อได้ (ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง) ความหมายคือ คำแนะนำ : เช็กข้อมูล หรือรอ SMS ว่ามีการลงข้อมูลผิดหรือไม่.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

กอร.พระราชพิธีฯ เผยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ วันจริงตั้งจุดคัดกรองเพิ่ม 29 จุด ติดกล้องซีซีทีวีทั่วกรุงกว่า 5 หมื่นตัว - จอแอลอีดี ถ่ายทอดสด 62 แห่ง



เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 ต.ค.60 ที่ห้องสุรศักดิ์มนตรี กระทรวงกลาโหม กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธีฯ) ได้แถลงข่าวเรื่องการจัดซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพล.ต.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบช.น. นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานครและนายณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เข้าร่วมแถลง


,พล.ต.สันติพงษ์ กล่าวถึง การซ้อมริ้วขบวนในพระราชพิธีว่า กองทัพภาคที่ 1 ได้วางแผน 3 ขั้นตอน คือ 1. คัดเลือกคน โดยเลือกกำลังพลที่มีบุคลิกภาพที่ดี มีความสูงตั้งแต่ 160-165 เซนติเมตร เพื่อให้ภาพการเดินริ้วขบวนเป็นไปอย่างสวยงามสมพระเกียรติ 2. จัดอบรมกำลังพล ในเรื่องของการแต่งกาย และกำลังพลทุกคนจะได้รับเครื่องแต่งกายใหม่ พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง มาให้ความรู้ เพื่อให้เกิดความถูกต้องสวยงามและเป็นไปตามพระราชประเพณีทุกประการ 3. การซักซ้อมแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนคือ 1. การซักซ้อมแยกกัน จะมีข้าราชการ ราชนิกุล รวมจำนวน 7,000 คน จึงจัดชุดครูจากกองทัพภาคที่ 1 ไปฝึกให้กับที่ตั้งหน่วยนั้นๆ โดยขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามระบบเดียวกัน 2. การซักซ้อมแบบรวมกัน ได้กำหนดเอาไว้ 5 ครั้ง 

,พล.ต.สันติพงษ์ กล่าวถึงรายละเอียดของริ้วขบวนที่จะเข้าร่วมประกอบพิธีในวันที่ 26 ต.ค.ว่า ริ้วขบวนที่ 1 เวลา 08.00 น. จะเริ่มตั้งขบวนอัญเชิญพระบรมโกศโดยพระยานมาศสามลำคาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปยังพระมหาพิชัยราชรถ โดยเริ่มจากประตูเทวาภิรมย์ ไปตามถนนมหาราชจนถึงถนนท้ายวัง ริ้วขบวนที่ 2 เริ่มปฏิบัติ 09.09 น. เป็นการอัญเชิญพระบรมโกศโดยพระมหาพิชัยราชรถ ไปยังพระเมรุมาศ ณ ท้องสนามหลวงโดยเริ่มต้นจากหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนไปตามถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน และเข้าสู่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และริ้วขบวนที่ 3 ปฏิบัติในเวลา 11.10 น. เป็นการเวียนรอบพระเมรุมาศ จำนวน 3 รอบ

,พล.ต.สันติพงษ์ กล่าวว่า สำหรับในวันที่ 27 ต.ค. จะเป็นการปฏิบัติของริ้วขบวนที่ 4 เวลา 09.30 น. เป็นการอัญเชิญพระบรมอัฐิ เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง และในวันที่ 29 ต.ค. ริ้วขบวนที่ 5 เวลา 10.00 น. การอัญเชิญพระบรมโกศ และพระบรมอัฐิ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นไปประดิษฐานพระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ส่วนในวันที่ 29 ต.ค.จะเป็นการปฏิบัติของริ้วขบวนที่ 6 คือ ขบวนทหารม้าอิสริยยศ เวลา 17.00 น. เป็นการอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร จากวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังจุด ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร,

ด้านพล.ต.ต.มนตรี กล่าวถึง ในวันที่ 26 ต.ค. จะมีการเพิ่มจุดคัดกรองทั้งหมด 29 จุดเป็นพื้นที่ชั้นใน 9 จุดประกอบด้วย 1. แยกสะพานมอญ 2. ท่าช้าง 3. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 4. พระแม่ธรณีบีบมวยผม 5. ถนนกัลยาณไมตรี 6. แยกวัดเชตุพน 7. ท่าเตียน 8. ท่าพระจันทร์ 9. ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า สำหรับจุดคัดกรองอื่นที่เพิ่มเติมมา อาทิ ถนนเจ้าฟ้า ถนนพระอาทิตย์ ถนนกรุงเกษม และถนนดินสอ ฯ

,พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางมาถึงก่อนเวลาที่เจ้าหน้าที่จะเปิดให้เข้าภายในพื้นที่มณฑลท้องสนามหลวง จะต้องอยู่นอกจุดคัดกรอง จนกว่าจะถึงเช้า วันที่ 25 ต.ค. เวลา 05.00 น. จะเริ่มเปิดให้ประชาชนเดินทางเข้ามาภายใน,

ขณะที่นายเกรียงไกร กล่าวถึง การดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนมาร่วมพิธีว่า กทม.ได้จัดสถานที่ประกอบอาหารให้ประชาชนจำนวน 22 แห่ง พร้อมทำการแจกจ่ายบริเวณโดยรอบเต็นท์ที่พักคอย โดยกำหนดไว้ 119 จุด และตั้งจอแอลอีดี ขนาด 6×12 เมตร บริเวณพระเมรุมาศจำลอง 1 แห่ง และบริเวณซุ้มวางดอกไม้จันทน์ ขนาดใหญ่ 26 ซุ้ม ขนาด 4×6 เมตร รวมการติดตั้งจอแอลอีดีในบริเวณอื่นๆ ด้วยทั้งหมด 62 แห่ง,

นายเกรียงไกร กล่าวว่า นอกจากนี้ กทม.เตรียมรถสุขาไว้ทั้งหมด 70 คัน ห้องสุขาเคลื่อนที่ 150 ตู้ พร้อมทั้งประสานประชาชนบริเวณโดยรอบเพื่อให้เปิดห้องน้ำให้กับประชาชนได้เข้าใช้ พร้อมติดกล้องวงจรปิด เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย พื้นที่กรุงเทพฯ 53,114 ตัว ครอบคลุมทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ โดยรอบมณฑลพิธีท้องสนามหลวง จำนวน 1,147 ตัว,

ส่วนนายณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในพื้นที่รอบมณฑลพระราชพิธีท้องสนามหลวง มีการจัดหน่วยแพทย์ ทั้งหมด 21 จุด พร้อมหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน พร้อมที่จะส่งต่อได้ และมีทีมเดินเท้าดูแลประชาชนในพื้นที่ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เปิดเส้นทางฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังตั้งหน่วยแพทย์ 113 จุด บริเวณพระเมรุมาศจำลอง และซุ้มดอกไม้จันทน์ สำหรับประชาชนที่อยู่ห่างไกลหน่วย ติดต่อหมายเลข 1669 

,ขอให้ประชาชนเตรียมตัวมาอย่างดี พักผ่อนเพียงพอ ใส่รองเท้าที่ใส่สบายเนื่องจากต้องเดินในระยะไกล ดื่มน้ำเยอะๆ พร้อมเขียนที่อยู่ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ใส่กระเป๋าเด็กและคนชรา ป้องกันการพลัดหลง รวมถึงระบุโรคประจำตัว นายณรงค์ กล่าว.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านสูบ จ.เลย นำถุงน้ำยาล้างไต มาทำที่นอนลมให้ผู้ป่วยติดเตียง ป้องกันแผลกดทับ ราคาประหยัด คุณภาพดี จนชาวบ้านยอมรับ อบต.น้ำสวย มอบทุนให้ต่อยอดทันที

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.60 นายเกรียงศักดิ์ ลุนธิระวงค์ ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสูบ เปิดเผยว่า รพ.เมืองเลย ได้ไปศึกษาดูงานที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพ อ.เซกา จ.บึงกาฬ พบเห็นเจ้าหน้าที่นำถุงน้ำยาล้างไต มาทำที่นอนลมให้ผู้ป่วยติดเตียงป้องกันแผลกดทับได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงนำความรู้นี้มาถ่ายทอดต่อให้ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสูบ โดยได้รับการบริจาคถุงน้ำล้างไตจากผู้ป่วยในพื้นที่ก่อนมอบให้กับผู้ป่วยติดเตียง เพื่อป้องกันแผลกดทับ ปรากฏว่าช่วยได้เป็นอย่างดี จนเป็นที่พอใจของผู้ป่วยและญาติ ที่ไม่ต้องไปหาซื้อที่นอนไฟฟ้าซึ่งมีราคาประมาณครึ่งหมื่น ขณะที่ ที่นอนลมที่ทำมาจากถุงน้ำล้างไต ต้นทุนเพียง 320 บาทเท่านั้น โดยทาง รพ. มอบให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าผู้ป่วยเสียชีวิตลง ทางญาติจะนำไปทิ้ง หรือกลับมาคืนก็ได้ เพื่อให้ผู้ป่วยรายต่อไป,ทั้งนี้ ที่ รพ.ส่งเสริมตำบลบ้านสูบ เป็นแห่งแรกในจังหวัดเลย ที่ทำที่นอนลมจากถุงน้ำยาล้างไต ซึ่งตอนนี้ก็มีคนมาบริจาคให้ และมีผู้ที่ทราบข่าวติดต่อมาเพื่อขอรายละเอียดและสั่งซื้อก็มี กระทั่งนาย นายจรูญ พานิช นายก อบต.น้ำสวย ทราบเรื่อง ได้จัดงบประมาณส่วนหนึ่ง สนับสนุนไว้ต่อยอดสำหรับผู้ป่วยท่านที่จะทิ้งถุงน้ำล้างไต ขอให้บริจาคมาทาง รพ.ส่งเสริมตำบลบ้านสูบ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามมาได้ที่เบอร์ 08-9840-1116 นายเกรียงศักดิ์ ลุนธิระวงค์ ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านสูบ หรือเบอร์ 08-7858-9713 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านสูบ.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

So Spa คือสปาระดับ 5 ดาวที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์นวดที่ผสาน 2 ศาสตร์เข้าด้วยกัน คือศาสตร์วัฒนธรรมตะวันตกด้านผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และศาสตร์การนวดผ่อนคลายตะวันออกพาไปชมโซ โคคูน (So Cocoon) สถานที่ที่ดีไซน์ให้เปรียบเสมือนรังดักแด้ สำหรับมานั่งจิบชาผ่อนคลายหลังนวดหรือทรีตเมนต์เสร็จ บรรยากาศสวยเหมือนมีดวงดาวล้อมรอบ

ยุคนี้ใครๆ ก็ Work Hard Play Harder กันทั้งนั้น ตารางชีวิตแต่ละวันจึงยุ่งเหยิงไปด้วยคำว่า ประชุม ฟิตเนส ช้อปปิ้ง แฮงเอาต์ ปาร์ตี้ ฯลฯ พอได้หยุดยาวทั้งที ลิสต์สถานที่พักผ่อนยอดฮิตจึงหนีไม่พ้นจังหวัดที่มี ทะเล โดยเฉพาะ หัวหิน เป็นถิ่นมีหอย ที่ไม่เพียงจะเด่นเรื่องพิกัดของอาหารการกิน มีทะเล สายลม และแสงแดดแล้ว ยังมีสุดยอดสปาที่เราเลิฟมากแห่งหนึ่ง อยากแนะนำให้ทุกคนได้ไปสัมผัสประสบการณ์สุดฟินที่นี่สักครั้ง นั่นคือ โซ สปา (So Spa) ที่ โซ โซฟิเทลหัวหิน (So Sofitel Hua Hin)Whats Special โซ สปา เป็นแบรนด์สปาในเครือโรงแรมโซฟิเทล โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสปาที่โดดเด่นในการนำวัฒนธรรมและศาสตร์การนวดผ่อนคลายจากตะวันออกผสานกับความเชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากตะวันตก ทำให้ที่นี่เป็นอีกสถานที่ที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่มองหาความพิเศษ ทั้งรูปแบบการนวด บรรยากาศอันดีงาม และการบริการแบบมืออาชีพ มีการดีไซน์แพ็กเกจไว้ครบครัน ทั้งแบบ Starter ผ่อนคลายเบาๆ จากการแช่น้ำสไตล์ญี่ปุ่น Main นวดหน้าและนวดตัวหลากหลายแบบ Worlds Best การนวดรีแล็กซ์ที่เน้นบำรุงและกระชับผิวไปในตัว และแบบฮิตสุดอย่าง Our Local Favorites เช่น บริการนวดไทยและนวดน้ำมันแบบต่างๆ และยังมีแบบ Express ที่ใช้เวลาสั้นๆ แต่ได้รับความผ่อนคลายที่เหนือระดับเช่นเดียวกันReasons To Love So Spa และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เรารักโซ สปา 1. เพียงครั้งแรกที่ก้าวผ่านประตูเข้าไปในโซ สปา ระดับ 5 ดาว เราได้พบกับ โซโคคูน (So Cocoon) โดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางพื้นที่ขนาดใหญ่ ภายในพื้นที่นี้ คือส่วนที่ถูกเนรมิตให้เป็นเหมือนรังดักแด้ที่ปกป้องคุ้มครอง ให้เรารู้สึกเหมือนได้ซ่อนตัวจากความวุ่นวายของโลกภายนอก เมื่อลูกค้าแต่ละคนนวดเสร็จ จะได้มานั่งๆ นอนๆ จิบชาแบบสุดฟินตรงนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามกลางดวงดาวมากมาย ทั้งสบายและได้ฟิลลิ่งสุดผ่อนคลายที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีโคคูนขนาดเล็กสำหรับนวดเท้า ทำเล็บมือและเล็บเท้าด้วย 2. โซ สปา ช่วยกำจัดความอ่อนล้าซึ่งเป็นผลจากการกรำงานหนัก หรือเที่ยวเพลินไปหน่อย ทำให้พลังงานด้านลบต่างๆ เช่น ความเหน็ดเหนื่อยของร่างกายและจิตใจ ถูกผ่อนคลายผ่านการชำระล้างเท้าด้วยน้ำที่ถูกแช่อยู่ในหินชนิดหนึ่งที่มีพลังในการดึงพลังงานด้านลบจากร่างกายของคนเราออกไป และได้รับพลังงานด้านบวกกลับมา ซึ่งหมายถึงอารมณ์ที่ได้รับการผ่อนคลายสบายใจ 3. มาที่นี่แล้วประทับใจกับกลิ่นหอมสุดพิเศษของน้ำมันนวด มีกลิ่นซิกเนเจอร์ ให้เราเลือกได้ 3 กลิ่นได้แก่ Deep Calm Oil Inner Reset Oil และ Fit Body Oil ส่วนกลิ่นที่เราเลือกเพื่อใช้กับ Thai Express Massage คือกลิ่น Deep Calm Oil เป็นกลิ่นหอมลาเวนเดอร์สุดผ่อนคลาย 4. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสปา คัดสรรแบรนด์คุณภาพอย่าง ฟีโทแมร์ (Phytomer) ส่งตรงจากฝรั่งเศส ผลิตภัณฑ์ทุกตัวผ่านการวิจัยกว่า 40 ปี อุดมด้วยสารสกัดจากสาหร่ายทะเลน้ำลึก ใช้เทคโนโลยีชีวภาพจากทะเล ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรียกว่าผิวสวยแบบไม่เบียดเบียนโลก และยังมีแบรนด์ไทยอย่างแบรนด์ อิสระ (Issara) ซึ่งดังในเรื่องสกินแคร์จากธรรมชาติ แนวกลิ่นก็เป็นไทยสไตล์ที่ไม่เพียงเป็นที่ชื่นชอบของชาวไทย แม้แต่ชาวต่างชาติก็ปลื้มแบรนด์นี้กันมาก 5. พนักงานทุกคนมีจิตใจที่รักในงานบริการแบบที่เราสัมผัสได้ แอบรู้มาว่า พนักงานนวดซิกเนเจอร์ที่นี่ฮอตมากในหมู่ดารา เซเลบริตี้เมืองไทย ต้องจองคิวกันล่วงหน้าถึงจะได้สัมผัสกับประสบการณ์นวดจากฝ่ามือนวดผ่อนคลายสุดเทพ ที่การันตีได้ว่าสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มาใช้บริการแน่นอน ไม่เว้นแม้แต่บรรณาธิการไลฟ์สไตล์ของ THE STANDARDที่คอมเฟิร์มอีกเสียงว่า นวดดีมาก

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ พระราชทานสิ่งของสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ติดถ้ำหลวง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ก.ค. 61 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานสิ่งของสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย,โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ท.ชิดชัย กาญจนโภคิน เป็นผู้แทนพระองค์มอบชุดดำน้ำ 30 ชุด ถุงดำ 2 กระสอบ ถุงซิปล็อก 2 กระสอบ กาต้มน้ำ 2 ตัว ปลั๊กไฟ 1 กล่อง เทปกาว 1 กล่อง และผ้าห่มให้ความอบอุ่น 1 โหล ยังความปลื้มปีติแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ญาติพี่น้องของผู้ประสบเหตุอย่างล้นพ้น,และเมื่อเวลา 11.30 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงพระราชทานเงินจำนวน 500,000 บาท ให้แก่ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อนำไปจัดซื้ออาหาร ยา และสิ่งของจำเป็นต่างๆ ในการปฏิบัติการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดย นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนรับเงินพระราชทาน หน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ณ บริเวณโถง ชั้น 1 ศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ หลักสี่,ทั้งนี้ พระองค์ทรงรับสั่ง ขอให้ทุกคนปลอดภัย และประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือเด็ก 13 ชีวิต ที่ติดถ้ำ ทั้งเจ้าหน้าที่และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ขอให้พระคุ้มครองทั้งคนช่วยและคนถูกช่วย,ภาพ : กอ.ร่วมถ้ำหลวง,เกาะติดภารกิจช่วย 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง,พร้อมช่วย 13 ชีวิต รพ.เชียงรายฯ ห้ามสื่อถ่ายภาพ ผู้ป่วยอยู่ที่มืดนาน,ใกล้เจอเข้าไปทุกที เกาะติดภารกิจค้นหา ทีมหมูป่า ติดถ้ำหลวง,วันนี้ต้องเจอ หลายหน่วยงาน เร่งภารกิจค้นหา 13 ชีวิต ติดถ้ำหลวง,เชฟปัดรู้จัก ครูบาบุญชุ่ม ยันไม่ได้เกาะกระแสดัง เชื่อกรรมใครกรรมมัน (คลิป),พร้อมช่วย 13 ชีวิต รพ.เชียงรายฯ ห้ามสื่อถ่ายภาพ ผู้ป่วยอยู่ที่มืดนาน

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ที่พระบรมมหาราชวัง ตลอดทั้งวันที่ 11 ก.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมารอเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน นายเจิง เฟยเหยียน อดีตรองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐ ประชาชนจีน และรองประธานการประชุมเอเชียโป๋อ๋าว และคณะ ได้มาลงนามแสดงความเสียใจในสมุดหลวง ณ ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรม มหาราชวัง รวมทั้งนายจิน ลี่ฉวิน ประธานบริหารธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (เอไอไอบี) และคณะ เดินทางมาวางพวงมาลาถวาย บังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และลงนามแสดงความอาลัย ณ ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง,ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 29,062 คน รวม 250 วัน มี 8,294,896 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 5,579,569.25 บาท รวม 250 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 640,362,399.51 บาท,สำหรับความคืบหน้าการจัดทำเครื่องสังเค็ด ที่ระลึกพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายอัครพล คล่องบัญชี จิตรกรชำนาญการ กลุ่มจิตรกรรม สำนักช่างสิบหมู่ ผู้ออกแบบธรรมาสน์สวด ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องสังเค็ด ว่า แนวคิดในการออกแบบธรรมาสน์สวดอ้างอิงจากธรรมาสน์สวดโบราณในงานพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 โดยได้เห็นต้นแบบของจริงที่วัดเบญจมบพิตรฯ และวัด ระฆังโฆสิตารามฯ และได้วัดขนาดจากของจริงแล้วนำมาประมวลใหม่ โดยความกว้าง ความยาวและความสูงเมื่อบวกกันแล้วจะได้ผลลัพธ์เท่ากัน คือ เลข 9 เช่น 18 27 36 45 81 90 108 ถือเป็นการออกแบบที่ซ่อนความหมายเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งยังคำนึงถึงความงามและประโยชน์ใช้สอยของเครื่องสังเค็ดด้วย,นายอัครพลกล่าวว่า สำหรับธรรมาสน์ในงานพระเมรุมาศครั้งนี้เป็นทรงเตี้ย กะทัดรัด ซึ่งหาชมได้ยาก ใช้ไม้สักเป็นวัสดุหลัก โดยช่างจะแกะสลักลวดลายพนักด้านนอกและด้านในเป็นลายเหลี่ยมเพชร ด้านข้างเป็นลายกระจกหกกลีบดุน เช่นเดียวกับพนักอิงสำหรับพระสวดด้านหลังเป็นลายหกกลีบดุนและสลักชื่องานออกพระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อแกะลายเสร็จแล้วจะนำไปดำเนินการปิดทองประดับกระจก อย่างไร ก็ตาม สีที่ใช้เป็นสีขาวและสีทองเป็นหลัก ซึ่งเป็นสีใกล้เคียงกับวันพระราชสมภพและเข้ากับสีขององค์พระเมรุมาศ,เครื่องสังเค็ดในอดีตจะจัดทำอย่างยิ่งใหญ่ มีเรือนยอดดุจปราสาท เป็นงานศิลปกรรมสำหรับงานออกพระเมรุมาศ แม้ภายหลังจะมีขนาดย่อมลงมา แต่ความหมายและวัตถุประสงค์ในการทำงานยังเหมือนเดิมโดยจะสร้างให้วิจิตรงดงาม มีรายละเอียดทางงานสถาปัตยกรรมครบถ้วน มีชุดหน้า กระดานบัวหงาย ท้องไม้ ฐานสิงห์ พนักอิงด้านหน้าประดับเพชร 89 เม็ด เพื่อให้สอดรับกับพัดรองที่ออกแบบประดับเพชร 89 เม็ดเช่นกัน ขณะนี้ได้ส่งแบบให้กลุ่มงานแกะไม้ สำนักช่างสิบหมู่จัดสร้างจริงตามจำนวนแล้ว และจะดูแลการจัดสร้างให้เป็นไปตามแบบหรืออาจจะปรับตามหน้างานเพื่อให้ธรรมาสน์สวดออกมาสมบูรณ์ที่สุดนายอัครพลกล่าว,วันเดียวกันที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่ง ชาติ พระนคร นางวิจิตร์ ไชยวิชิต หัวหน้ากลุ่มประณีตศิลป์ และนักวิชาการช่างศิลป์เชี่ยวชาญ สำนักช่างสิบหมู่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สำนักช่างสิบหมู่ได้นำล้อส่วนประกอบราชรถปืนใหญ่ จำนวน 4 ล้อ มาเทียบประกอบ พร้อมใส่สลักยึดองค์ราชรถ โดยแต่ละซี่ล้อประดับลายกระจัง ส่วนองค์ราชรถอยู่ระหว่างการเตรียมพื้นผิว เพื่อลงรักปิดทอง ก่อนประดับกระจก ให้มีความสง่างาม ซึ่งคาดว่าจะทำแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ประเทศไทยส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์กลับสู่ประเทศญี่ปุ่นตามผลของอนุสัญญาบาเซลที่เคยให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีสมาชิก หลังจากเมื่อ 2 ปีก่อน มีตู้คอนเนอร์จากญี่ปุ่นสำแดงเท็จเข้ามา เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ถึง 7 ตู้

วันนี้ (28 ก.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้วจำนวนมาก กำลังถูกลำเลียงลงเรือกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากตรวจพบว่าเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล และเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ขณะเดียวกัน ยังมีความผิดฐานสำแดงชนิดสินค้าเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงเร่งส่งของเสียอันตรายดังกล่าว กลับไปยังประเทศต้นทาง คาดว่าจะถึงในวันที่ 7 สิงหาคม 2559อนุสัญญาบาเซล เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของเสียอันตรายและการกำจัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายระหว่างประเทศ และให้มีการบริหารจัดการของเสียอันตราย ซึ่งรวมถึงการกำจัดและดำเนินการเพื่อหมุนเวียน โดยไม่กระทบสุขอนามัยประชาชนและสิ่งเเวดล้อม ปัจจุบัน อนุสัญญาบาเซลมีภาคี 183 ประเทศ โดยไทยได้ให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีสมาชิกนายศักดา พันธ์กล้า รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557 เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เข้าตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 8 ตู้ มีต้นทางจากประเทศญี่ปุ่น โดยสินค้าสำแดงเป็นเศษโลหะ เศษทองแดง และเศษอลูมิเนียม แต่มีสินค้าเพียง 1 ตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกต้องตรงตามสำแดง ส่วน 7 ตู้ที่เหลือตรวจพบเป็นซากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้ว ปริมาณรวม 196.11 ตัน ซึ่งจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้นำเข้า หลังประเทศญี่ปุ่นยินยอมให้ส่งของเสียทั้งหมดกลับคืนต้นทางทั้งนี้ การค้าขยะอิเล็กทรอนิกส์พัฒนาขึ้นมาในช่วงทศวรรษ 1990 รัฐบาลของประเทศในสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และบางรัฐในสหรัฐฯ จัดตั้งระบบ รีไซเคิล ขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่หลายประเทศไม่มีศักยภาพมากพอที่จะจัดการกับปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ จึงเริ่มส่งออกไปยังประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งมีต้นทุนถูกกว่า

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตำรวจเตรียมฝากขัง สาวขโมยเงินบริจาควัด ให้ลูกสาวดูต้นทาง ก่อนกระโดดถีบ-ตบหน้าพระจนกระเด็น พบเสพยาอย่างหนัก ประวัติลักขโมยโชกโชน

วันที่ 2 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพหญิงคนหนึ่งได้เข้าไปขโมยเงินบริจาคภายในวัดแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ก่อนก่อเหตุทำร้ายร่างกายพระลูกวัดจนได้รับบาดเจ็บนั้น,จากการสอบถาม พระกิตติศักดิ์ กิตติ์ธนาสิทธิกูล พระลูกวัดกลางบางแก้ว ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ผู้เสียหายได้ชี้ให้ดูบาดแผลที่ใบหน้าและลำคอ พร้อมกับเล่าว่า เมื่อบ่ายวันที่ 31 ก.ค.61 คนงานได้มาแจ้งว่ามีคนมาขโมยเงินในอุโบสถ จึงรีบเดินไปดูก็พบเด็กผู้หญิงอายุ 3-4 ขวบตะโกนบอกคนข้างในว่าพระมาๆ อาตมาเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเดิมที่เคยมาก่อเหตุลักขโมยที่วัดหลายครั้ง และเคยไปตกลงความกันที่ สภ.นครชัยศรี จึงได้ว่ากล่าวไป แต่อีกฝ่ายกลับต่อว่าอาตมาด้วยคำหยาบคายและเข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยกระโดดถีบและตบหน้าหลายครั้ง จนอาตมาต้องผลักเขาให้ล้มและพยายามเรียกคนมาช่วย จนเขาอุ้มลูกหลบหนีไป อาตมาจึงปรึกษาเจ้าอาวาสและไวยาวัจกรเข้าแจ้งความ พร้อมนำคลิปจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ,ด้าน พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งความจึงสั่งชุดสืบสวนไปควบคุมตัว น.ส.อรวรรณ ปานเจริญ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายร่างกายพระสงฆ์ พระลูกวัดกลางบางแก้ว และคดีลักทรัพย์ มาสอบสวนที่ สภ.นครชัยศรี โดยจับกุมได้ที่บ้านพักและนำมาตรวจปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าเสพยาเสพติดมา และสารภาพว่ามีลูก 4 คน ไม่มีงานทำ มีสามีที่ทำงานคนเดียว,จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุงัดเงินในโลงศพรับบริจาคที่วิหารหลวงปู่บุญ วันที่ 10 ก.ค.61 ได้เงินสดไปประมาณ 1,000 บาท และวันที่ 17 ก.ค.61 พยายามก่อเหตุที่เดิมแต่ไม่สำเร็จ และวันที่ 31 ก.ค.61 มาก่อเหตุที่อุโบสถ จนพระพระกิตติศักดิ์ มาพบเข้าและจะตักเตือนก็ถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย,นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.อรวรรณ ติดยาเสพติดอย่างหนัก และตระเวนไปก่อเหตุลักทรัพย์ตามวัดหลายเแห่ง โดยจะให้ลูกสาวคนเล็กตามไปด้วยทุกครั้งเพื่อตบตาและให้ดูต้นทาง เบื้องต้นได้นำตัว น.ส.อรวรรณ ส่งพนักงานสอบสวน โดยแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา คือ ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ลักทรัพย์ และพยายามลักทรัพย์ ก่อนสรุปสำนวนและนำตัวไปฝากขังต่อศาลในช่วงบ่ายวันนี้.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

สลด! ด.ช.วัย14 ปี จะรีบไปดูแลแม่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลบ้านบึง จ.ชลบุรี แทนพ่อ เคราะห์ร้าย ขี่จยย.ชนท้ายรถไม่ทราบชนิด เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาลเพียงแค่ ไม่ถึง 5 กิโลเมตร คู่กรณีเผ่นหนีหาย

เมื่อเวลา 17.00 น. ร.ต.อ.วันชัย แสงอ่วม รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบ้านบึง รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคม บ้านบึง ว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ บนถนนสาย 344 บ้านบึง-แกลง หลักกิโลเมตรที่ 19 ฝั่งเข้าอำเภอบ้านบึง หมู่ที่ 2 หนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้งจึงรีบรุดมาตรวจสอบ,ในที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย ตรวจสอบทราบชื่อ คือ เด็กชาย ธนากร ลี้ปราศภัย อายุ 14 ปี 178/1 หมู่ 4 ตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี สวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขาสั้นสีดำ นอนคว่ำจมกองเลือดอยู่บริเวณเลนซ้าย สภาพศีรษะช่วงหน้าผากแตก ซี่โครงหัก คาอยู่กับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1 กศ 9799 ชลบุรี สภาพรถบริเวณหน้ารถมีรอยชนอย่างแรงจนพังยับเยิน และยังพบหมวกกันน็อกสีเขียวที่ผู้ตายสวมใส่มาตกอยู่ในสภาพแตก แต่ในที่เกิดเหตุไม่พบรถคู่กรณี,เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดผู้ตายน่าจะขับขี่รถมาเร็ว จนทำให้รถพุ่งชนท้ายรถบรรทุกแล้วรถบรรทุกหลบหนีไป ทำให้ผู้ขับขี่เสียชีวิตคาที่ จากการสอบถามพ่อของนายธนากร ผู้ตาย ทางโทรศัพท์ ทราบว่า นายธนากร กำลังจะไปโรงพยาบาลบ้านบึง เพื่อที่จะไปเปลี่ยนกับตนเอง เพื่อเฝ้าแม่ที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านบึง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ไบโอไทยตั้งข้อสังเกตมอนซานโต้พยายามผลักดันให้รัฐบาลยอมรับจีเอ็มโอ อ้างจะให้ไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ ทำให้มีการปรับรมว.เกษตรฯเพื่อรองรับ

วันนี้ (30 ส.ค.2558) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ รายงานว่า มูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย ตั้งข้อสังเกตการผลักดันจีเอ็มโอในช่วงรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า1.มอนซานโต้และสภาธุรกิจสหรัฐฯเพิ่งเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยมอนซานโต้เสนอให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์ของภูมิภาค และ นายกรัฐมนตรียินดีให้การสนับสนุน และย้ำว่าต้องเป็น เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่แพง มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี2.พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งรมว.เกษตรและสหกรณ์ แทนนายปิติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ฉัตรชัย ดำรงตำแหน่ง ประธานคณะอนุกรรมการร่วมจัดทำยุทธศาสตร์เกษตรเป็นรายพืชเศรษฐกิจ 4 สินค้า คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และอ้อย ซึ่งเป็นคณะกรรมการชุดแรกในสมัยรัฐบาลทหารที่เสนอให้มีการปลูกพืชจีเอ็มโอในประเทศไทยก่อนหน้านี้ มอนซานโต้และกลุ่มสนับสนุนจีเอ็มโอได้ผลักดันให้มีการปลูกพืชจีเอ็มโอในประเทศไทย ผ่าน 3 ช่องทางคือ1.ผ่าน ประธานคณะอนุกรรมการร่วมจัดทำยุทธศาสตร์เกษตรเป็นรายพืชเศรษฐกิจฯ แต่มีเสียงคัดค้านจากประชาชน จนต้องจัดตั้ง คณะทำงานศึกษาแนวทางการนำสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมและผลิตภัณฑ์มาใช้ในประเทศไทย เพื่อหาข้อยุติ และต่อมาคณะทำงานมีความเห็นอย่างเป็นเอกฉันท์ให้กลับไปใช้มติครม.เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2550 ซึ่งมีการควบคุมการทดลองจีเอ็มโออย่างเข้มงวด2.ประธาน ISAAA (International Service for the Acquisition of Agri-Biotech Application) ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่่อนไหวที่สนับสนุนโดยบรรษัทข้ามชาติเข้าพบ เพื่อโน้มน้าวให้นายปิติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา เห็นชอบกับการปลูกพืชจีเอ็มโอเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 แต่นายปิติพงษ์พ้นตำแหน่งไปเสียก่อน3.มอนซานโต้และสมาคมเทคโนโลยีชีวภาพสัมพันธ์ (ซึ่งสนับสนุนให้ก่อตั้งขึ้นโดย ISAAA และ CropLife) ผลักดันให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)เห็นชอบ พ.ร.บ.ความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งมีเนื้อหาเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อมอนซานโต้ แต่สภาปฏิรูปแห่งชาติได้ถอนวาระการพิจารณาเรื่องดังกล่าวออกไปเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 เนื่องจากเห็นว่าเป็นการลักไก่เสนอวาระอย่างรีบเร่ง และมีเนื้อหาที่เปิดช่องให้บริษัทจีเอ็มโอไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีที่เกิดผลกระทบแนวทางการผลักดันเพื่อให้มีการทดลองและปลูกพืชจีเอ็มโอเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยที่เป็นไปได้มากที่สุดและต้องจับตามมองมากที่สุดคือ รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำร่างพ.ร.บ.ที่ถูกสปช.ตีตก นำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เพื่อให้ความเห็นชอบออกเป็นกฎหมายจับตาว่าใครจะเป็นผู้เสนอร่างพ.ร.บ.จีเอ็มโอต่อสภาฯ เพื่อเปิดทางสะดวกให้มอนซานโต้ กลุ่มทุนสหรัฐ และยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ผู้เสียหายถูกหลอกให้โฆษณาสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เข้าร้องเรียนดีเอสไอ หลังถูกว่าจ้างแล้วไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้

วันนี้ (6 มิ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายกว่า10 คน ที่ถูกหลอกให้โพสต์สินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ นำหลักฐานเข้าร้องเรียน กรมสอบสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำดื่มและยาสีฟันยี่ห้อหนึ่ง หลังถูกหลอกให้โพสต์สินค้าแล้วไม่ได้รับค่าตอบแทนจำนวนหลายหมื่นบาท ผู้เสียหายคนหนึ่งเปิดเผยว่า ได้รับการชักชวนจากคนรู้จักให้เข้าร่วมทำงาน โดยต้องเข้าอบรมและเสียค่าประกันก่อน 10000-20000 บาท จากนั้นต้องนำสินค้าที่ส่งไปให้ลงสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองวันละ 2 ครั้ง โดยได้ค่าตอบแทนเดือนละ 10000-20000 บาท แต่เมื่อเริ่มทำไปได้ 1 เดือน และได้ค่าตอบแทน 10000 บาท ก็ถูกเลิกสัญญาและไม่ได้เงินค่าประกันคืน จากนั้นบริษัทดังกล่าวก็จะเปลี่ยนไปทำลักษณะนี้กับสินค้าชนิดอื่น ทำให้มีผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อ เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 60 คนขณะที่ดีเอสไอจะนำเรื่องร้องเรียนไปตรวจสอบ ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ หรือ เป็นการฉ้อโกงประชาชน ก่อนพิจารณาว่าคดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอหรือไม่

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ซีพีเอ็นตั้งโต๊ะแถลงยืนยัน เซ็นทรัล วิลเลจ เปิดบริการ 31 ส.ค.นี้แน่นอน ยืนยันขออนุญาตก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องคุยกับ ทอท. ขณะที่ ทอท.โต้ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร

วันนี้ (28 ส.ค.2562) นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยืนยันว่าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ได้รับอนุญาตและก่อสร้างถูกต้องถามกฎหมายทุกขั้นตอน พร้อมชี้แจงใน 3 ประเด็นหลักประเด็นแรกคือ พื้นที่โครงการที่ถูกระบุว่ามีการรุกล้ำพื้นที่นั้น ยืนยันว่าพื้นที่โครงการอยู่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 มีการเชื่อมทางเข้า-ออกอย่างถูกต้อง ไม่มีการรุกล้ำที่ดินของรัฐ หรือที่ราชพัสดุและลำรางสาธารณะ และไม่ได้เป็นที่ดินตาบอดก่อนหน้านี้ที่ดังกล่าวเคยเป็นที่ราชพัสดุ แต่ได้มอบให้กับกรมทางหลวงสร้างและเป็นผู้ดูแล เพื่อสร้างกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ซึ่งเป็นพื้นที่คนละส่วนกับพื้นที่ดินเวนคืนของสนามบินสุวรรณภูมิที่ ทอท.ดูแล และถนนหมายเลข 370 ถือเป็นทางหลวงสาธารณะ ไม่ใช่ขององค์กรเอกชนใดที่จะมากล่าวอ้างเป็นเจ้าของได้ซึ่ง ทอท.ก็มีการขออนุญาตจากกรมทางหลวงเพื่อใช้ประโยชน์เช่นเดียวกัน และที่ผ่านมาไม่เคยมีเอกชนที่จะใช้ประโยชน์รายใดยื่นขออนุญาตเชื่อมทางจากทาง ทอท. ล่าสุดวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจากกรมทางหลวงอนุญาตให้ ทอท.เดินท่อร้อยสายไฟใต้ดินและบ่อพักประเด็นที่ 2 กรณีการก่อสร้างโครงการในพื้นที่สีเขียว ยืนยันว่าปฎิบัติตามกฎหมายผังเมืองอย่างเคร่งครัด ซึ่งได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการก่อสร้างตามกฎหมายผังเมืองในพื้นที่สีเขียว ไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินพื้นที่สีเขียวบริเวณดังกล่าว และไม่เคยมีการขอปรับผังเมืองแต่อย่างใดประเด็นที่ 3 ที่โครงการอาจรบกวนการบิน ชี้แจงว่า บริษัทฯได้ขออนุญาตก่อสร้างในบริเวณพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อย่างถูกต้อง ไม่ได้ละเมิดกฏใดๆ ทั้งด้านความสูงและไม่มีกิจกรรมใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานสนามบิน เป็นไปตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และไม่เกี่ยวกับการติดธงแดงสำหรับประเด็นการกลั่นแกล้งทางธุรกิจ นายปรีชา ระบุว่า ไม่อยากคาดเดาในประเด็นนี้ เพราะไม่ได้มองว่าจะต้องมีการแข่งขันกับใคร โดยยังยืนยันว่า เซ็นทรัล วิลเลจ จะเปิดให้บริการในวันที่ 31 ส.ค.นี้ พร้อมหวังว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งคุ้มครอง และให้ ทอท.รื้อย้ายสิ่งของปิดทางเข้า-ออก ก็จะสามารถเปิดบริการได้ทันแต่หากศาลมีคำสั่งไม่คุ้มครอง ก็มีแผน 2 รองรับไว้แล้ว แต่ขอไม่เปิดเผยต่อสื่อมวลชน พร้อมยอมรับว่าข้อพิพาทที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการในโครงการและพนักงานที่ทำงานอยู่ ซึ่งหากข้อพิพาทที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อธุรกิจมาก ก็จะพิจารณาเดินหน้าฟ้องร้องทางคดีส่วนกรณีที่นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า อาจหาแนวทางในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทนั้น นายปรีชา ระบุว่า ยินดีเสมอในการเจรจา แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กระบวนการของกฎหมาย ไม่ใช่เป็นการตีความฝ่ายเดียว เพราะถือว่าเป็นการริดรอนสิทธิ์ทอท.โต้ไม่ได้ได้กลั่นแกล้งด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ยืนยันว่า กรณีที่ ทอท.จำเป็นจะต้องออกมาเคลื่อนไหวเป็นการดำเนินการตามกฎหมายที่ ทอท.ในฐานะโอเปอเรเตอร์ ผู้บริหารจัดการสนามบิน ซึ่งครอบคลุมเรื่องความปลอดภัย ต้องทำเรื่องดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายและความถูกต้อง และคนที่ตั้งคำถามระบุว่า ทอท.ปกป้องผลประโยชน์ของใคร ก็ขอให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งทางธุรกิจ โดยฝากคนที่ตั้งคำถามนี้ควรหาทางออกตามข้อกฎหมายให้ ทอท.ด้วยทั้งนี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ระบุว่า ที่ผ่านมาปัญหาการเข้าก่อสร้างโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ เกิดปัญหาขึ้นในอดีต เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่ราชพัสดุและต่อมากรมทางหลวงได้ขอใช้ประโยชน์ เพื่อตัดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 หลังจากนั้นก็มีเอกชนมาขอเชื่อมต่อทางเข้า-ออก ซึ่งกรมทางหลวงอนุมัติให้ดำเนินการได้ ทั้งที่ข้อกฎหมายเมื่อมีการตัดทางแล้วเสร็จ ควรดำเนินการส่งพื้นที่คืนกรมธนารักษ์และให้เอกชนที่จะเข้าใช้พื้นที่กรมธนารักษ์ ขอพื้นที่เข้า-ออกโดยตรงจากธนารักษ์ ไม่ใช่เชื่อมต่อเองนอกจากนี้ประเด็นเรื่อง ทอท.สอบถามไปยัง กพท.เรื่องแบบแปลนการก่อสร้างโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ทอท.มีข้อสงสัยหลาประเด็น แต่ กพท.ได้ตอบเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยความสูงอาคารมาเท่านั้น โดย กพท.ยังไม่ได้ให้รายละเอียด ซึ่ง ทอท.จะขอส่งหนังสือให้ กพท.ให้รายละเอียดอีกครั้ง รวมถึงประเด็นเรื่องการบุกรุกลำน้ำสาธารณะในพื้นที่ก่อสร้างขณะที่บริเวณด้านหน้าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ทอท.ได้ติดป้ายข้อความขนาดใหญ่หน้าทางเข้า-ออก จุดที่เคยใช้เป็นทางผ่านส่งอุปกรณ์ก่อสร้างและสิ่งของร้านค้าที่กำลังจะเปิดให้บริการ โดยระบุข้อความว่า พื้นที่ในความครอบครองของ ทอท.ห้ามผู้ใดบุกรุก มิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาด และอีกป้ายที่ไม่ห่างกันของ ซีพีเอ็น ก็ขึ้นข้อความว่า โครงการนี้ตั้งอยู่ติดทางหลวงแผ่นดิน มิได้รุกล้ำพื้นที่ผู้ใดขณะที่การจราจรเลนคู่ขนานบางนาตราด-สุวรรณภูมิ หน้าโครงการเซ็นทรัล วิเลจ เคลื่อนตัวช้าและติดสะสมเป็นระยะ เพราะมีรถหลายคันจอดบริเวณไหล่ทาง เพื่อขนอุปกรณ์เข้าไปตกแต่งภายใน ขณะที่ร้านค้าต่างๆ พนักงานต้องจอดรถริมทางเพื่อเข็นอุปกรณ์และขนสินค้าเข้าไปเช่นกัน เนื่องจากไม่สามารถนำรถไปจอดบริเวณที่จอดรถได้

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 6 ธ.ค.62 ปิดที่ 1,558.99 จุด ลดลง 6.46 จุด มี มูลค่าการซื้อขาย 41,141.76 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,614.51 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 147 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, AOT ปิด 75.25 บาท บวก 0.50 บาท, CPALL ปิด 75 บาท ลบ 0.25 บาท, PTT ปิด 42 บาท ลบ 0.25 บาท และ ADVANC ปิด 212 บาท ลบ 2 บาท,ตลอดสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นไทยร่วงหนักกว่า 30 จุด หลังสถานการณ์สงครามการค้ามีความไม่แน่นอนสูงกดดัน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิกว่า 6,739.97 ล้านบาท ตามด้วยพอร์ตโบรกเกอร์ ขายสุทธิ 2,370.45 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 5,752.27 ล้านบาท และสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 3,358.14 ล้านบาท,บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองแนวโน้มสัปดาห์หน้า sideway down สงครามการค้ายังเป็นประเด็นหลักที่กดดันการลงทุน แต่ยังมีลุ้นแรงซื้อจาก LTF และการทำ Window Dressing ช่วยประคองดัชนี หากดัชนีลงมาทดสอบแนวรับที่ 1,550 จุด,แนะกลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรเพียง 30% ของพอร์ตสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ส่วนการซื้อเพื่อลงทุน มองแนวรับที่ 1,550 จุด เป็นจุดที่เข้าซื้อได้ ขณะที่ให้แนวต้านไว้ที่ 1,595 จุด,ขณะที่ บล.เอเซียพลัส ได้คัดหุ้นที่นักลงทุนสถาบันฯนิยมซื้อสะสมในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ที่คาดว่าจะมีแรงซื้อจากกองทุน LTF เข้ามา โดยเริ่มค้นหุ้นที่กองทุน LTF นิยมลงทุนมากที่สุด ในกองทุน LTF ทั้งหมด 93 กองทุน มีมูลค่าของทรัพย์สินสุทธิรวมกันกว่า 3.87 แสนล้านบาท,ได้ชื่อหุ้น 20 ตัว ที่กองทุนนิยมถือมากที่สุด นำโดย PTT 8.5%, CPALL 7.7%, AOT 4.9%, BBL 4.0%, ADVANC 3.6%, KBANK, PTTEP, BDMS, SCB, SCC, MINT, EGCO, BJC, INTUCH, CPN, BTS, LH, KTB, IVL, TU,ปิดท้ายมีข่าว TMB จะซื้อหุ้นส่วนที่เหลือของ TBANK จากผู้ถือหุ้นรายย่อย จำนวน 2.42 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 0.04% ของหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 27.55 บาท/หุ้น กำหนดระยะเวลารับซื้อ 9 ธ.ค.–13 ธ.ค.นี้.,อินเด็กซ์ 51

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เผด็จการระยำ สืบอำนาจ อหังการทรราช สุดยิ่งใหญ่มิยอมให้ใครโงหัว ทั่วถิ่นไทย กติกาเขียนไว้ เอื้อให้ตัวมิต่างโจรปล้นอำนาจ ราษฎร ทุกองค์กร สยบยอม น้อมก้มหัวความยุติธรรมถูกนำมา รับใช้ตัว จัญไรชั่ว

เผด็จการระยำ สืบอำนาจ อหังการทรราช สุดยิ่งใหญ่มิยอมให้ใครโงหัว ทั่วถิ่นไทย กติกาเขียนไว้ เอื้อให้ตัวมิต่างโจรปล้นอำนาจ ราษฎร ทุกองค์กร สยบยอม น้อมก้มหัวความยุติธรรมถูกนำมา รับใช้ตัว จัญไรชั่ว ความหวาดกลัวทั่วถิ่นไทยได้กดขี่พวกอัปรีย์ ยิ่งเริงร่า เนิ่นนานวันเวลา ยิ่งไปใหญ่ความเดือดร้อนผลกระทบ ลามทั่วไทย ประชาชนเริ่มเคลื่อนไหว ไม่ขอทนทั้งมวลชน นักศึกษา มาร่วมทัพ ยกระดับ การขับไล่สู่ถนนเพื่อต่อต้านเผด็จการ ให้วายชนม์ คนไม่ทน จุดเริ่มต้นของสงครามเป็นสงครามครั้งสุดท้าย ของแผ่นดิน เผด็จการต้องหมดสิ้น จากสยามเปิดศักราชอภิวัฒน์ ทั่วเขตคาม เพื่อก้าวข้าม หลุดพ้นเพื่อคนไทยเยาวชนปลดแอก ออกจากบ่า แอกชนชั้นศักดินา ที่กดไพร่แอกอำมาตย์กดอำนาจ ประชาธิปไตย ที่กัดกร่อนกินคนไทย อย่างยาวนานตื่นเถิดผองพี่น้องไทย ไปร่วมรบ ให้มันจบ ในรุ่นเรา เอาให้ผ่านประชาธิปไตย ต้องเบ่งบาน เผด็จการ จงพินาศทุกชาติไปเพื่ออำนาจอธิปไตย ของปวงชน การเปลี่ยนแปลงจะเกิดผล ต้องร่วมไล่สู้วันนี้มีโอกาส ประกาศชัย อนาคตของคนไทย อยู่ในมือ

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ไม่นานมานี้มีข่าวโด่งดังในโซเชียล กรณีหนุ่มโฟร์แมนไปนวดแผนไทยแล้วเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลายคนสงสัยว่าแค่ไปนวดแผนไทย ก็ทำให้ตายได้เหรอ? มาหาคำตอบกัน

จากกรณีหนุ่มโฟร์แมนคนหนึ่งไปนวดแผนไทย หลังจากที่บาดเจ็บจากการเตะฟุตบอลมาได้ไม่กี่วัน ปรากฏว่านวดไปได้ประมาณ 30 นาที ก็เกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจาก ลิ่มเลือดในหลอดเลือดอุดตันขั้วปอด ทำให้หายใจไม่ออก ,เหตุการณ์นี้ทำให้คนไทยหวาดผวาการนวดแผนไทยในปัจจุบันไม่น้อย กังวลว่าหากไปนวดแล้ว จะเสียชีวิตแบบนี้หรือเปล่า? แค่ไปนวดไทยทำไมอันตรายถึงขั้นเสียชีวต? ต้องเช็กร่างกายก่อนไปนวดแผนไทยหรือไม่?,ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ, ไปค้นหาคำตอบจนรู้มาว่า จริงๆ แล้วมีข้อควรระวังและข้อห้าม ก่อนจะไปนวดแผนไทยที่เราควรรู้และศึกษาไว้ ส่วนจะมีข้อห้ามเรื่องอะไรบ้าง มาดู,1. บาดเจ็บจากเล่นกีฬา,การบาดเจ็บทางร่างกายหลังจากการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกาย เช่น แผลฟกช้ำ มีลิ่มเลือด กล้ามเนื้ออักเสบ เอ็นอักเสบ ฯลฯ ไม่ควรไปนวดแผนไทย ควรเว้นระยะให้หายดีก่อนประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะหากเพิ่มบาดเจ็บมาใหม่ๆ ก็ทำให้ลิ่มเลือดนั้นไปอุดตันตามอวัยวะสำคัญ เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต,อย่างเช่นในเคสนี้ ไปเตะฟุตบอล เกิดอาการบาดเจ็บเข่าอักเสบ ฟกช้ำ มีลิ่มเลือด เมื่อไปนวดจึงทำให้ลิ่มเลือดจากจุดดังกล่าวไหลไปตามเส้นเลือด และไปอุดตันที่ขั้วปอด ส่งผลให้หายใจไม่ออกและเสียชีวิต,2. ผู้ป่วยกระดูกหัก,มีข้อมูลจากนายแพทย์วิทวัส ศิริประชัย เพจ Drama-addict ระบุว่า การนวดแผนไทยไม่ใช่ว่านวดได้ทุกคน มีข้อห้ามหลายข้อด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ หากเป็นผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุ แล้วมีประวัติกระดูกแตก หัก ปริ ร้าว ข้อเคลื่อน ฯลฯ ไม่ควรนวดแผนไทย ,ถ้ามีปัญหากระดูกหัก ร้าว ข้อเคลื่อน หรือมีการบาดเจ็บต่างๆ ร่างกายจะเกิดพวกลิ่มเลือดตามเส้นเลือดได้ ซึ่งการไปนวดแผนไทยในคนไข้ที่มีอาการเหล่านี้ จะทำให้ลิ่มเลือดหลุดออกมาในกระแสเลือด แล้วถ้าลิ่มเลือดไปอุดตันเส้นเลือดในสมองก็จะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ถ้าไปอุดตันเส้นเลือดในปอดก็จะเหนื่อย แน่นหน้าอก แล้วก็เสียชีวิต,3. ผู้ป่วยไข้สูง ป่วยติดเชื้อ,หากมีไข้เกิน 38.5 องศาเซลเซียส มีอาการจากโรคติดเชื้อเฉียบพลัน หรือโรคติดต่อระยะแพร่เชื้อ เช่น โรคเอดส์ โรคงูสวัด อีสุกอีใส วัณโรค เป็นต้น หากป่วยเป็นโรคเหล่านี้ไม่ควรไปนวดแผนไทย เพราะ ยิ่งจะทำให้อาการป่วยนั้น หนักขึ้นกว่าเดิม รักษาหายได้ช้าไปอีก,รวมถึงผู้ที่เพิ่งผ่าตัดมา แล้วแผลยังปิดไม่สนิท ก็ห้ามนวด เพราะการนวดอาจทำให้แผลปริแตก และอาจทำให้แผลมีอาการอักเสบมากกว่าเดิม,4. ผู้ป่วยโรคประจำตัวร้ายแรง,สำหรับใครที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดดำอักเสบ ผู้ป่วยโรคเหล่านี้ไม่สามารถไปนวดแผนไทยได้,เช่น ถ้าป่วยเป็นโรคความดัน บางคนไปนวดแล้วความดันพุ่งขึ้นสูงมาก จนเส้นเลือดในสมองแตกได้ดังนั้นการนวดแผนไทยตามมาตรฐาน จะต้องมีการซักประวัติ และสอบถามเรื่องโรคประจำตัวคนที่จะมานวดก่อนเสมอ,5. ผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกชนิด,สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ในระยะลุกลาม ห้ามนวดแผนไทย เพราะอาจจะเป็นกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งลุกลามได้รวดเร็ว รวมทั้งอาจมีการแพร่กระจายเข้าสู่เส้นเลือดและน้ำเหลือง อาจทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม,6. ผู้ป่วยกระดูกพรุน,สำหรับผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน กระดูกบาง มีสภาวะข้อต่อหลวม มีแนวโน้มว่ากระดูกเปราะง่าย หักง่าย ห้ามไปนวดแผนไทยเช่นกัน เคยเกิดกรณีศึกษามาแล้วว่า มีคนป่วยโรคกระดูกพรุนไปนวดแผนไทยแล้วทำให้ขาหักในขณะที่นวด ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยมากๆ ,7. สตรีมีครรภ์ สตรีมีประจำเดือน,มีข้อมูลว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ มักจะมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หลายคนอยากไปนวดให้หายเมื่อย แต่จริงๆ แล้ว คนท้องไม่ควรไปนวดแผนไทย โดยเฉพาะการนวดที่รุนแรงเกินไป หรือการนวดกดจุดสะท้อนในบริเวณต่างๆ ควรงดการนวดไทย เพราะอาจมีการกระทบกระเทือนต่อการตั้งครรภ์ได้ ถ้ารุนแรงมากก็อาจจะแท้งได้,ส่วนสตรีที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน ก็ไม่ควรไปนวดไทยเช่นกัน เพราะ อาจทำให้มีเลือดออกมาผิดปกติ เกิดความแปรปรวนเลือดลมภายใน หรืออาจทำให้เป็นโรคไข้ทับระดูได้,8. ผู้ป่วยที่มีปัญหาเลือดไม่แข็งตัว,ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด หรือ โรคฮีโมฟีเลีย ห้ามไปนวดแผนไทย เพราะการนวดจะเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต อาจทำให้มีอาการเลือดออกใต้ผิวหนัง รวมทั้งเกิดเลือดออกในอวัยวะต่างๆ และกล้ามเนื้อ ถ้าหากเลือดออกมาก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการช็อก และเสียชีวิตได้,9. ผู้ที่มีปัญหากระดูกสันหลัง,สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ไขสันหลัง หรือเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ไม่ควรไปนวดแผนไทย เพราะถ้านวดผิดจุดขึ้นมา อาจจะทำให้กระดูกสันหลังมีการเคลื่อนตัว หรือยุบตัวลงไป ทำให้เกิดความเจ็บปวดและอันตรายที่รุนแรงขึ้น หากต้องการนวด แนะนำให้ไปพบแพทย์แผนไทยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจริงๆ เท่านั้น,ที่มา : ,นพ.วิทวัส ศิริประชัย,, ,honestdocs,, info กรมแพทย์แผนไทย

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

สธ.นำรถตรวจโควิดเชิงรุกที่ในหลวงพระราชทาน ไปให้บริการชาวระยองใน 3 จุดหน้ารร.ดีวารีดีว่า ห้างเซ็นทรัล ห้างแพชชั่น เผยผลตรวจพนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดทหารอียิปต์ 31 นาย เบื้องต้น 5 คน ผลเป็นลบ

สธ.นำรถตรวจโควิดเชิงรุกที่ในหลวงพระราชทาน ไปให้บริการชาวระยองใน 3 จุดหน้ารร.ดีวารีดีว่า ห้างเซ็นทรัล ห้างแพชชั่น เผยผลตรวจพนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดทหารอียิปต์ 31 นาย เบื้องต้น 5 คน ผลเป็นลบจากกรณีมีรายงานทหารอียิปต์มาพักโรงแรมที่ จ.ระยอง ขณะปฏิบัติภารกิจ ช่วงวันที่ 8-11 ก.ค. ที่ผ่านมา ถูกตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 โดยมีการระบุว่า ขณะอยู่ที่ จ.ระยอง นอกจากโรงแรมที่ คณะทหารที่มาได้เดินทางไปในสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองระยองวันที่ 14 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ สสจ.ระยอง สำนักงานควบคุมโรคที่ 6 จ.ชลบุรี ที่ลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการเตรียมพร้อม โดยในวันนี้จะมีรถตรวจโควิดเชิงรุกพระราชทาน เดินทางมาให้บริการตรวจโควิด ตามจุดที่กำหนดไว้ 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ โรงแรมดีวารีดีว่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลระยอง และห้างแหลมทองระยอง ประชาชนสามารถเข้ารับบริการตรวจฟรีได้ตามจุดดังกล่าว โดยให้เตรียมบัตรประชาชนไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งไปถึงผู้ที่ไปเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองระยอง ในช่วงวันที่ 9-11 ก.ค. เพื่อความสบายใจ ขอให้มาตรวจกับเจ้าหน้าที่ที่มาให้บริการตรวจฟรีในวันนี้ทางด้านนพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ระยอง จากการเข้าพื้นที่โรงแรมดีวารีดีว่า ถนนสุขุมวิท ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ซึ่งได้ปิดชั้น 7 และ 8 ที่เป็นพักของทหารอียิปต์ทั้ง 31 นาย โดยวันแรกเข้าพักวันที่ 8 ก.ค.ช่วงค่ำ พอรุ่งเช้าวันที่ 9 ก.ค.เดินทางไปที่ประเทศจีน กลับมาวันที่ 11 ก.ค.ทราบว่ามีการออกไปข้างนอกกำลังสอบสวนไปที่ไหนและดูกล้องวงจรปิด แต่เขาก็ไม่ได้ไปจุดเสี่ยง สนามมวย สนามกีฬา เขามาทำภารกิจรวม 3 วันแต่ไม่ได้อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนพนักงานได้ถูกกักตัวไว้ 5 คนได้เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจ เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีผู้ที่มีผลบวกแต่อย่างใดขณะที่ นพ.ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผอ.รพ.ระยอง เผยว่า ทาง สสจ.เป็นหน่วยงานหลักในการเก็บเนื้อเยื่อจากผู้สัมผัสใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงส่งมาตรวจที่แล็บ รพ.ระยอง ผลในเบื้องต้นเป็นที่น่ายินดีว่า ยังไม่มีผลเป็นบวก.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

อุบัติเหตุกระบะประสานงากันเต็มๆ ชนสนั่นกลางถนนสายตาก-อุ้มผาง ในพื้นที่ อ.แม่สอด สภาพรถพังยับทั้งคู่ ตายคาซาก 1 สาหัสอีก 1

เมื่อเวลา 21.00 น วันที่ 2 ก.พ.62 ร.ต.อ.นที คำสุข รองสว.(สอบสวน) สภ.แม่สอด จ.ตาก รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนสายตาก-อุ้มผาง บริเวณหลัก กม. 8-9 ต.แม่กุ อ.แม่สอด จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยมูลนิธิตากร่วมใจสงเคราะห์ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ,ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีเทา หมายเลขทะเบียน บธ 2921 ตาก จอดอยู่กลางถนน ในสภาพรถพังยับเยิน เศษชิ้นส่วนกระเด็นกระจัดกระจายเต็มถนน ส่วนผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ทราบชื่อนายฐานันดร สมบัติภูธร อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบนำส่งโรงพยาบาลแม่สอดไปก่อนหน้านี้,ใกล้กันพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน บย 8987 กำแพงเพชร จอดอยู่ในสภาพหน้ารถพังยับเยินเช่นเดียวกัน ภายในเบาะที่นั่งคนขับพบร่างนายบัญชา เชิงการ อายุ 24 ปี ติดอยู่ในห้องโดยสาร กู้ภัยต้องต้องใช้เครื่องตัดถ่าง โดนใช้เวลากว่า 30 นาที จึงนำร่างออกมาได้ แต่อาการสาหัสเสียชีวิตในเวลาต่อมา,สอบสวนเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุนายฐานันดร ขับรถลงมาจากบ้านห้วยหมี ต.มหาวัน อ.แม่สอด เพื่อจะไปทำธุระที่ตลาดแม่สอด มาถึงที่เกิดเหตุได้ชนประสานงากับรถของนายบัญชา ที่ขับสวนทางมาอย่างแรง อย่างไม่ทราบสาเหตุ จนรถทั้งสองคันได้เสียหลักไปคนละทิศคนละทาง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ชาวบ้านยื่นหนังสือ สสจ.กาฬสินธุ์ สอบปัญหาการทุจริตการจัดซื้อยาของโรงพยาบาลกมลาไสย จี้ย้ายนายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ออกนอกพื้นที่ ปมเหตุไม่ซื้อยา ทำให้ รพ.ไม่สามารถสั่งยา ทำผู้ป่วยขาดยา

กรณีชาวบ้านใน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ลงชื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการย้าย นายแพทย์ประวิตร ศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ออกนอกพื้นที่ โดยชาวบ้านอ้างว่านายแพทย์สาธารณสุขไม่ให้สั่งซื้อยา จนทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถสั่งซื้อยาจากบริษัท เพื่อนำมาแจกจ่ายยาให้กับผู้ป่วยได้ครบ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดัน และโรคไต ต่อมาทาง รพ.รับว่าขาดยาและสั่งซื้อยาไม่ได้จริง เนื่องจากเป็นหนี้กับทางบริษัทหลายล้านบาท และเอกสารบิลสั่งซื้อยาถูกสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอายัดไปตรวจสอบนานแล้ว แต่ยังไม่เสร็จ ส่งผลให้ประชาชนต้องยืมยากันกิน กระทั่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขตสุขภาพที่ 7 ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาการขาดยา โดยได้เร่งดำเนินการจัดสรรยามาไว้ที่โรงพยาบาลกมลาไสย เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยได้ตามปกติแล้ว,ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 8 สิงหาคม 2562 ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นายประสิทธิ์ อาจบรรจง และนายคงเดช เฉิดสถิต สจ.เขตอำเภอกมลาไสย เป็นตัวแทนชาวบ้านและผู้ป่วยใน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ได้เข้ายื่นหนังสือกับ นพ.อุดม ภู่วโรดม สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 7 เพื่อให้ผ่านไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการตรวจสอบปัญหาทุจริต และความผิดปกติในการสั่งซื้อยาของโรงพยาบาลกมลาไสย จนเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาโรงพยาบาลจัดซื้อยาไม่ได้และจ่ายยาให้กับผู้ป่วยไม่ครบ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เร่งดำเนินการย้าย นพ.ประวิตรศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สสจ.กาฬสินธุ์ ออกนอกพื้นที่ เนื่องจากมีการปล่อยให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นและไม่ได้มีการแก้ไข รวมทั้งดำเนินการย้ายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวในโรงพยาบาลกมลาไสย ออกนอกพื้นที่ ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ เพื่อความสะดวกของคณะกรรมการตรวจสอบ,นายประสิทธิ์ อาจบรรจง สจ.เขตอำเภอกมลาไสย ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า หลังจากปัญหาการจ่ายยาไม่ครบทำให้ผู้ป่วย โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดัน ใน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ต้องขาดยาและต้องยืมยากันกินได้รับการแก้ไขแล้ว ซึ่งในวันนี้ในฐานะตัวแทนชาวบ้านจึงได้เข้ามายื่นหนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เร่งดำเนินการตรวจสอบปัญหาการทุจริตเงิน และตรวจสอบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาของโรงพยาบาลกมลไสย ที่เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาดังกล่าว โดยชาวบ้านต้องการให้ตรวจสอบระบบการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด และดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทุกคน รวมทั้งย้ายผู้ที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ไปก่อนระหว่างการตรวจสอบ เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานมีกำลังใจการในทำงาน และโรงพยาบาลได้ดำเนินงานบริการผู้ป่วยต่อไป,นอกจากนี้ ในฐานะตัวแทนชาวบ้านยังได้เรียกร้องให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เร่งดำเนินการย้าย นายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ ออกนอกพื้นที่ด้วย เนื่องจากปล่อยให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น และที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า จนนำไปสู่เรื่องการขาดยาของประชาชน,ด้าน นพ.อุดม กล่าวว่า สำหรับปัญหาเรื่องแรกของโรงพยาบาลกมลาไสย เรื่องการสั่งซื้อยาไม่ได้ และจ่ายยาได้จำนวนไม่ครบนั้น ขณะนี้ได้รับการแก้ไขปัญหาและโรงพยาบาลได้ดำเนินการจ่ายยาได้ตามปกติแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นการดำเนินการตรวจสอบสืบหาข้อเท็จจริงกรณีปัญหาการความผิดปกติในการสั่งซื้อยาของโรงพยาบาล ตามที่ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้เร่งดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้ เบื้องต้นได้มีการดำเนินการตรวจสอบไปพอสมควรแล้ว เพราะทางผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 นั้นไม่ได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ,สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 7 กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม เนื่องจากเอกสารนั้นมีจำนวนมาก โดยจะแยกเอกสารที่ถูกต้อง และเอกสารที่อาจจะมีปัญหาออกจากกัน เพื่อให้มีการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการสั่งซื้อยาจากทางบริษัทได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวมีความซับซ้อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพอสมควร แต่ทุกอย่างได้ดำเนินการตามกระบวนการแล้ว แต่ข้อมูลบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งขอให้เชื่อมั่นว่าทุกอย่างเป็นที่จับตามองอยู่ ดังนั้นจะต้องทำให้เกิดความกระจ่างและดำเนินการต่อไป.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

การถามหาจริยธรรมของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี จริยธรรมที่คอยกำกับพฤติกรรมของตน และประเด็นนี้ก็ท้าทายสำนึกทางการเมืองของประชาชนด้วย ในปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

การถามหาจริยธรรมของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี จริยธรรมที่คอยกำกับพฤติกรรมของตน และประเด็นนี้ก็ท้าทายสำนึกทางการเมืองของประชาชนด้วยในปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นักการเมืองรุ่นใหม่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองที่ถูกสังคมกำลังกังขา ถามหาถึงจริยธรรม (Ethics) มากที่สุด เพราะในห้วงหลายปีที่ผ่านมาใช้วาทศิลป์เป็นประโยชน์กับฝ่ายตนได้เป็นอย่างดี และเป็นอาวุธทิ่มแทงฝ่ายตรงข้ามได้อย่างโดดเด่นประกอบกับการมีสถานะเป็นนักเรียนอังกฤษหัวก้าวหน้า ทำให้นายอภิสิทธิ์ กลายเป็นนักการเมืองดาวรุ่ง และเป็นความหวังของสังคมตามมา การเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดเสมือนเป็นโรงเรียนการเมืองให้กับนักการเมืองมาหลายๆ รุ่น จึงมิใช่เรื่องยากเย็นมากนักสังคมมองกันว่านายอภิสิทธิ์ เป็นคนไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม มักจะใช้วาทศิลป์ตอบโต้กับปฏิปักษ์อย่างสม่ำเสมอหนักบ้างเบาบ้างตามจังหวะและเวลา บางครั้งถึงขนาดอบรมสั่งสอนนักการเมืองผู้อาวุโสกลางสภาก็ยังเคยทำมาแล้วโดยไม่เลือกหน้า จึงทำให้นายอภิสิทธิ์ มีศัตรูมากพอๆ กับมิตร นักการเมืองหลายคนอาจจะชื่นชอบและเป็นพวกเดียวกันได้ แต่บางคนบางฝ่ายไม่นิยมชมชอบ ชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ ถึงกระนั้นนายอภิสิทธิ์ก็โชคดี เมื่อพรรคพลังประชาชนที่ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้นถูกยุบด้วยคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ นักการเมืองที่เคยสังกัดพรรคพลังประชาชนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับนายอภิสิทธิ์ แปรพักตร์หันไปสนับสนุน ดวงชะตาพลิกผันจนได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกือบสามปี ท่ามกลางความคลางแคลงของการได้มาในตำแหน่งดังกล่าว เพราะมีการเกื้อหนุนจากบุคคลที่มองไม่เห็น(Invisible man) จนเรียกกันติดปากว่านายกเทพประทาน การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจึงเป็นที่มาของคดีความการสั่งฆ่าประชาชน 91 ศพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนมูลเหตุแห่งการตายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา นี่เป็นกรณีหนึ่งที่สังคมกำลังถามหาความรับผิดชอบและจริยธรรมจากนายอภิสิทธิ์การดำเนินบทบาทของนายอภิสิทธิ์ไม่ว่าเรื่องส่วนตัวหรือทางการเมือง เริ่มถูกสังคมเพ่งมองและตั้งคำถามในความถูกต้องชอบธรรมและความเหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อนายกมล บันไดเพชรได้ขุดคุ้ย พฤติกรรมส่วนตัวที่ไปผูกโยงกับสาธารณะและประโยชน์ของส่วนรวมมีประเด็นให้โจษขานถึงการใช้อำนาจอิทธิพลของชนชั้น เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการที่ชายไทยต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารตามกฎหมายกันทุกๆ คน แต่นายอภิสิทธิ์ ก็ได้รับอภิสิทธิ์ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว้าด้วยการเกณฑ์ทหารเช่นชายไทยคนอื่นๆ จึงมีทั้งคำถามและข้อครหาคละกันไปว่า นายอภิสิทธิ์ได้ใช้สถานะความเป็นชนชั้นสูงหลบหลีกและหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารในห้วงอดีตที่ผ่านมา นี่ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่สังคมกำลังถามหาความรับผิดชอบและจริยธรรมจากนายอภิสิทธิ์ เช่นกันพลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะออกมาแถลงข่าวยืนยันข้อเท็จจริงว่า อภิสิทธิ์ ไม่ได้เข้ารับเกณฑ์ทหารตามกฎหมายเยี่ยงชายไทยจริง และมีการใช้เอกสารไม่ถูกต้องในการสมัครเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อย โดยมีการสั่งลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องไปแล้วสอคล้องกับคำยืนยันของผู้บัญชาการทหารบก ที่บอกว่า เรื่องมันจบไปตั้งแต่ปี 2542 แล้ว แต่ที่จบนั้น ก็คือการลงโทษข้าราชการที่ได้กระทำความผิดในการปลอมแปลงเอกสารราชการ แต่ผู้ที่ใช้เอกสารราชการปลอมเราจะดำเนินการกันอย่างไรยังไม่มีคำตอบจากกระทรวงกลาโหม และกองทัพบก แม้ว่านายอภิสิทธิ์ และนักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ จะมีความเชี่ยวชาญและเจนจัดในแง่มุมกฎหมายจึงทำให้มองเห็นลู่ทางการต่อสู้คดีได้อย่างชัดเจน ดังเช่นหลายคดีที่ผ่านมามักจะเป็นคุณกับฝ่ายตนเสมอ อาจพลิกสถานการณ์จากความเสียเปรียบเป็นได้เปรียบโดยไม่ยากนัก แต่ในครั้งนี้สังคมเริ่มมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่า นายอภิสิทธิ์และคณะ อาจใช้อิทธิพลและสถานะความเป็นชนชั้นสูงเข้าไปแทรกแซงระบบการเมืองและกระบวนการยุติธรรมในสังคมไทย ทำให้เรื่องการใช้เอกสารราชการปลอมเงียบหายไปอีกครั้งหนึ่งจึงมีประเด็นคำถามของสังคมที่ว่า จำเป็นหรือไม่ที่นักการเมืองอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องคำนึงถึงจริยธรรมที่คอยกำกับพฤติกรรมของตน ประเด็นนี้นับว่าท้าทายสำนึกทางการเมืองของประชาชน และท้าทายสามัญสำนึกทางจริยธรรมของนายอภิสิทธิ์เอง อย่าลืมว่านายอภิสิทธิ์ เคยกล่าวหลายครั้งทำนองว่า ความรับผิดชอบทางจริยธรรมต้องอยู่เหนือความรับผิดชอบทางกฎหมาย นั่นหมายความว่าในความรับผิดชอบของนักการเมืองนั้น จะมีการกระทำผิดต่อกฎหมายหรือไม่ ไม่สำคัญหากมีการกระทำผิดจริยธรรมแล้วต้องมีสำนึกรับผิดชอบ ที่ผ่านมาเราจะพบเห็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีบางคนถูกจำคุก บางคนมีข้อกล่าวหาเจตนาฆ่า สมาชิวุฒิสภาบางคนล่วงละเมิดทางเพศ นักการเมืองบางคนถูกจำคุก บางคนทุจริต บางคนใช้อำนาจโดยมิชอบแทรกแซงระบบราชการ ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมา ล้วนทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามว่าสังคมควรจะจริงจังกับจริยธรรมในการควบคุมพฤติกรรมบุคคลเหล่านี้มากน้อยเพียงใด นิคโคโล แมคเคียวเวลลี ( Niccolo Machiavelli ) กล่าวไว้ในหนังสือ The Prince (เจ้าผู้ครองนคร) บางตอนว่า เพราะฉะนั้น เจ้าผู้ครองนครจึงไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติ เลอเลิศอย่างที่ข้าพเจ้าได้พรรณนาไว้ข้างต้น แต่เขาควรจะแสดงออกมาว่าเขามีคุณสมบัติเหล่านั้น ข้าพเจ้าอยากจะพูดให้ถึงขนาดว่า ถ้าเจ้าผู้ครองนครมีคุณสมบัติเหล้านี้และประพฤติดังกล่าวจริงๆ กลับจะนำตนไปสู่หายนะ แต่ถ้าหากเพียงแสดงว่าตนมีคุณสมบัติเหล่านี้จะกลับเป็นประโยชน์ต่อตน นั่นหมายความว่า Machiavelli ได้เสนอความเห็นว่าผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องมีจริยธรรม แต่ต้องแสดงว่าตนเป็นผู้มีจริยธรรมก็เพียงพอแล้ว เพราะประชาชนจะมองเห็นผู้ปกครองได้แต่ภายนอก มีคนจำนวนน้อยนิดเท่านั้นที่รู้พฤติกรรมว่าผู้ปกครองเป็นเช่นไร การประพฤติตนภายในกรอบจริยธรรมกลับเป็นผลร้ายมากกว่า Machiavelli ยังกล่าวอีกว่า ผู้ปกครองไม่ควรหลีกเลี่ยงจากการกระทำความดีหากเป็นไปได้ แต่เขาจะต้องรู้วิธีทำความชั่วร้ายหากจำเป็นเมื่อ การเมือง ได้รับมอบหมายจากประชาชน ให้มีอำนาจในกระบวนการกำหนดนโยบายสาธารณะ มีอำนาจสั่งการ (Authorities) ตามกฎหมายในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่กฎหมายเป็นเพียงเจตจำนงของรัฐาธิปัตย์ ซึ่งโดยตัวของมันเองมิอาจสร้างสันติสุขขึ้นมาได้ เพราะเมื่อใดที่ถูกบังคับใช้อย่างไม่เป็นธรรม ความเดือดร้อนทุกข์เข็ญย่อมเกิดขึ้น ดังที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ และที่สำคัญอำนาจรัฐมิได้อยู่เหนือข้อกำหนดในทางศีลธรรมหรือจริยธรรมใดๆทั้งสิ้น อำนาจตามกฎหมายเพียงอย่างเดียว จึงมิใช่เครื่องยืนยันว่าจะสร้างความอยู่เย็นเป็นสุขให้เกิดขึ้นกับประชาชน ตราบใดที่อำนาจรัฐอันชอบธรรม กับธรรมที่เป็นแหล่งที่มาแห่งอำนาจมิใช่สิ่งเดียวกัน ฉะนั้น นอกเหนือจากอำนาจตามกฎหมายแล้ว คนเหล่านี้จะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า จริยธรรม (Ethics) ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยแต่หากยึดถือแนวคิดของ Niccolo Machiavelli ในการปกครองแล้ว พอสรุปได้ว่า นักการเมืองทั้งหลาย โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตนภายในกรอบของจริยธรรมแต่ประการใด ทั้งยังสามารถทำอะไรหรือมีพฤติกรรมอย่างไรก็ได้ เพื่อความอยู่รอดของตนและพวกพ้อง เพียงแต่แสดงออกว่าเป็นผู้อยู่ในศีลในธรรมเท่านั้นก็เพียงพอแล้วเราจะยอมรับพฤตกรรมเช่นนี้กันหรือ เพราะมันเป็นการเมืองที่เน้นผลลัพธ์ โดยไม่คำนึงถึงมรรควิธีแต่ประการใด

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เม็ดสอดช่องคลอดจากสารสกัดสมุนไพรไทย โลชั่นทำความสะอาด และทิชชูเปียก ของ ภญ.เอมอร ชัยประทีป อาจารย์วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรีได้รับรางวัล Gold Prize

เรื่องราวที่น่ายินดีของนักวิจัยไทยนี้ถูกเปิดเผย เมื่อวันที่ 16 ก.พ. รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวว่า จากการที่ มทร.ธัญบุรีได้ส่งคณะอาจารย์ เป็นนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเข้าร่วมงานประชุมวิชาการในงาน Seoul International Invention Fair 2017 (SIIF 2017) ที่กรุงโซล สาธารณรัฐ เกาหลี มีนักวิจัยจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกส่งผลงานวิจัยเข้าร่วมแสดง ปรากฏว่าผลงานผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสตรีจากสารสกัดสมุนไพรไทย (Feminine hygiene products from Thai medicinal herb extracts) ประกอบด้วย และรางวัลพิเศษ Diploma จาก National University of Science and Technology MISIS ประเทศรัสเซีย เนื่องจากเป็นผลงานวิจัยที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่แพ้ยาและดื้อต่อยาแผนปัจจุบัน,อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยยังได้ส่งนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการประชุมวิชาการ INOVA-BUDI UZOR 2017 42nd International Invention Show ที่เมืองโอซีเยก ประเทศโครเอเชีย ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีวิชาการที่นักวิจัยจากทั่วโลกให้ความสำคัญเข้าร่วมแสดงผลงานการวิจัย โดยในงานนี้ ผศ.ดร.จิราภรณ์ อนันต์ชัยพัทธนา สาขาวิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ธัญบุรี สามารถคว้ารางวัลเหรียญทอง จากงานวิจัยหลอดพร้อมใช้งาน สำหรับปฏิกิริยาลูกโซ่มัลติโพลิเมอเรส ที่ใช้ในการตรวจสอบแบคทีเรียก่อโรคในอาหาร 3 สายพันธุ์ คือ Salmonella spp, Bacillus cereus และ Staphylococcus aureus ถือเป็นครั้งแรก ของโลก เพราะที่ผ่านมาสามารถตรวจหาแบคทีเรียก่อโรคได้เต็มที่ไม่เกิน 2 สายพันธุ์เท่านั้น ถือเป็นงานวิจัยที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการผลิตอาหารอย่างแท้จริง,ด้าน ภญ.เอมอร กล่าวว่า การติดเชื้อแคนดิดา ที่ช่องคลอด (Vulvovaginal candidiasis) ส่งผลเสียต่อสุขภาพสตรีทั่วโลก โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S.FDA) อนุมัติให้ใช้ยาเหน็บช่องคลอดโคลไตรมาโซลในการรักษาช่องคลอดติดเชื้อแคนดิดา แต่ปัจจุบันพบว่าการรักษาโรคติดเชื้อแคนดิดาในช่องคลอดด้วยยาแผนปัจจุบันมีอัตราการดื้อยาที่สูงขึ้น ที่สำคัญคือในตลาดออนไลน์เองมีผลิตภัณฑ์เม็ดสอดช่องคลอด และผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสำหรับสตรีจากสมุนไพรไทยโฆษณาและจำหน่ายอยู่ทั่วไป ส่วนใหญ่จะไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการแพ้ และติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น มีหลายการศึกษารายงานว่ากระเทียม (Garlic) และข่า (Galangal) มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อแคนดิดา ทั้งนี้สมุนไพรทั้งสองชนิดยังถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติในตำรับสมุนไพรที่มีข้อบ่งใช้ในการรักษามุตกิด ระดูขาว ดังนั้น ตนจึงได้จัดทำเป็นผลิตภัณฑ์จากสารสกัดกระเทียมและข่าเพื่อสุขอนามัยสำหรับสตรีในรูปแบบทิชชูเปียก โลชั่นทำความสะอาด และเม็ดสอดช่องคลอด โดยใช้กระบวนการตอกยาเม็ดแบบแกรนูลเปียก และเป็นไปตามมาตรฐานสากล จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อลดการนำเข้า

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตำรวจ 191 และ ตร.ท่องเที่ยว ร่วมกันจับแท็กซี่ทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง หลังขับออกมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ ตามโครงการ Youll never walk alone

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 23 ก.พ. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินต กานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายวิทูรย์ บริสุทธิ์ อายุ 42 ปี พนักงานขับรถรับจ้างสาธารณะ ในข้อหา ขับรถสาธารณะทอดทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณภายในซอย 20 มิถุนา แยก 5 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร,พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า จากโครงการ 191 Youll never walk alone สายตรวจ 191 ได้ออกตรวจท้องที่และช่วยเหลือบริการประชาชน และรัฐบาลมีนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติบังคับใช้กฎหมายกับรถแท็กซี่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงภาพลักษณ์การบริการหรืออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว โดยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ก.พ. 59 เจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินอยู่ริมถนนมอเตอร์เวย์สุวรรณภูมิฝั่งขาเข้า จึงได้ทำการตรวจสอบพบ Mr.GARON ESMERALDO REYES ชาวฟิลิปปินส์ อายุ 80 ปี เดินอยู่และแบกกระเป๋า จึงได้เข้าช่วยเหลือ และนำตัวส่งสถานทูตฟิลิปปินส์,ต่อมาได้สั่งการให้ กก.สายตรวจ 191 สืบสวนติดตามหาตัวผู้ขับขี่รถแท็กซี่ดังกล่าวจากกล้องวงจรปิด จนสามารถจับกุมตัวได้บริเวณภายใน ซ.20 มิถุนา แยก 5 จึงควบคุมตัวไปที่ สน.ประเวศ เพื่อแจ้งข้อหาและเปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท,นายวิทูรย์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังจอดรถเพื่อรอผู้โดยสารมาขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากนั้นได้มีชายชาวต่างชาติขึ้นรถมาและบอกสถานที่ที่จะไปไม่ชัดเจนจึงยกกระเป๋าเดินทางลงจากรถ แต่ชาวต่างชาติบอกกับตนว่า I know I show you ตนจึงตอบตกลง เมื่อขับรถออกมาจากสุวรรณภูมิสักพัก ชายชาวต่างชาติได้บอกกับตนว่า No Bangkok และบอกให้ตนจอดรถ ซึ่งตนไม่สามารถจอดรถเนื่องจากวิ่งอยู่ในทางมอเตอร์เวย์ ตนจึงขับต่อมาเรื่อยๆ จนถึงทางออก พบปั๊มแก๊สจึงได้จอดรถก่อนที่จะพยายามสื่อสารอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้เรื่อง ตนจึงตัดสินในขับรถออกมาทันทีโดยทิ้งชายชาวต่างชาติไว้ที่นั่น หลังเหตุการณ์ตนรู้สึกเสียใจและอยากให้เหตุการณ์ของตนเป็นตัวอย่างกับแท็กซี่คันอื่นๆ ว่าไม่ควรที่จะทิ้งผู้โดยสาร หากสื่อสารไม่เข้าใจให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เสือใต้ยิงแบบไม่ซ้ำหน้า บุกไปเอาชนะฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ แบบขาดลอยถึงถิ่น 4-0 ขยับแต้มไล่จี้จ่าฝูงเหลือเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น

 ,วันที่ 23 พ.ย.62 การแข่งขันศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี 2019-20 โดยคู่ที่น่าสนใจของคืนวันเสาร์ ฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ อันดับ 14 ของตาราง เปิดบ้านรับมือ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก ทีมอันดับ 3,เปิดครึ่งแรกไปได้แค่ 11 นาที เป็นฝั่งทีมเยือนที่ขึ้นนำก่อน 1-0 โยชัว คิมมิช ผ่านบอลให้ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ด ยิงตามน้ำเข้าไป,ถัดมาในนาที 24 เสือใต้หนีห่างเป็น 2-0 เมื่อผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นออกบอลไม่ดี แซร์จ กาบรี หักบอลเข้ากลางให้ โกร็องแตง โตลิสโซ วิ่งเข้ามาซัดตุงตาข่าย,นาที 34 บาเยิร์น มิวนิก ขยับสกอร์ออกไปเป็น 3-0 จากจังหวะชุลมุนหน้าประตู ก่อนที่ โธมัส มุลเลอร์ จะแตะบอลคืนหลังให้กับ แซร์จ นาบรี ยิงเจ้าไปง่าย ๆ และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้,ครึ่งหลังทีมเยือนทีมทำเกมได้เหนือกว่า และมาบวกเพิ่มเป็น 4-0 ในนาที 70 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี พาบอลขึ้นมาถึงเส้นหลัง ก่อนเปิดยัดเข้ากลางให้ คูตินโญ วิ่งเข้ามายิงจ่อ ๆ ระยะไม่กี่หลา,กระทั่งจบเกม บาเยิร์น มิวนิก บุกมาเอาชนะ ฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ ขาดลอย 4-0 เก็บเพิ่มเป็น 24 คะแนนจาก 12 นัด ขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูง ตามหลัง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค อยู่เพียงแต้มเดียวเท่านั้น.,ผลการแข่งขันในคู่อื่น,ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เสมอ ไพร์บวร์ก 1-1,ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต แพ้ โวล์ฟบวร์ก 0-2,แวร์เดอร์ เบรเมน แพ้ ชาลเก 1-2,ยูนิโอน เบอร์ลิน ชนะ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 2-0

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

งานก่อสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ภาพรวมขณะนี้คืบหน้ามากกว่าร้อยละ 70 และเร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้งานจัดสร้างพระโกศจันทน์ ประกอบลายฉลุบนโครงพระหีบแล้วเสร็จร้อยละ 80

พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ และสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ ณ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมาอีกครั้ง โดยนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานในส่วนต่างๆ ของการก่อสร้าง ดังนี้ 1. งานก่อสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ภาพรวมขณะนี้คืบหน้ามากกว่าร้อยละ 70 และเร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้ ประกอบด้วย พระเมรุมาศ คืบหน้าร้อยละ 65 งานขยายแบบองค์ประกอบสถาปัตยกรรมแล้วเสร็จ บุษบกประธาน บุษบกซ่าง และบุษบกหอเปลื้องรวม 9 องค์ ได้ติดตั้งองค์ประกอบส่วนเครื่องบนและกรุหลังคา รวมทั้งการพ่นสีทองทั้งหมดเกือบแล้วเสร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมสาบสีลวดลายผ้าทองย่นเพื่อนำมาตกแต่งประดับบนผนังพระเมรุมาศต่อไป พระที่นั่งทรงธรรม คืบหน้ารวมประมาณร้อยละ 85 ขณะนี้ยังคงเหลือการติดตั้งรวยระกาบนจั่วมุขประธาน ส่วนงานตกแต่งภายในได้ลงสีเดินกรอบทองแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการประดับลวดลายผ้าทองย่นบริเวณเสา คาน รวมทั้งทยอยติดตั้งดาวเพดาน และเริ่มงานตกแต่งภายในห้องประทับและห้องรับรองพระราชอาคันตุกะแล้ว ศาลาลูกขุน คืบหน้ารวมประมาณร้อยละ 80 โดยศาลาลูกขุน 1 และ 2 ทั้งหมดได้ติดตั้งองค์ประกอบสถาปัตยกรรมแล้วเสร็จ เริ่มงานติดตั้งลวดลายกรอบและดาวเพดาน ส่วนศาลาลูกขุนแบบที่ 3 ได้นำโครงสร้างเข้ามาประกอบติดตั้งภายในบริเวณที่ก่อสร้างแล้ว ทับเกษตร ทิม ขณะนี้ติดตั้งซุ้มคูหาทั้งหมดแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการก่อผนังและตกแต่งช่องลูกฟัก รวมทั้งเดินงานระบบสุขาภิบาลในส่วนห้องน้ำ งานภูมิสถาปัตยกรรม ส่วนนาข้าวจำลองและบ่อแก้มลิง ขณะนี้ได้เตรียมพื้นที่ปรับระดับและขุดบ่อไว้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งได้หล่อคันนารูปเลข 9 ไทย ซึ่งจะฉาบเป็นสีดินทอง สลับกับแปลงนาที่ทางกรมการข้าวจะเตรียมปลูกให้ออกรวงพร้อมกันในวันพระราชพิธี ส่วนพื้นลานในมณฑลพิธีได้ดำเนินการปรับพื้นที่ เทพื้น และปูบล็อกซีเมนต์ไปแล้วมากกว่าครึ่ง และได้เริ่มนำไม้ดัดเข้ามาลงปลูกตามจุดต่างๆ แล้ว พลับพลายกสนามหลวง ขึ้นโครงสร้างและปูพื้นทั้งหมดแล้วเสร็จ อยู่ในขั้นตอนกรุหลังคาปะรำและติดตั้งองค์ประกอบสถาปัตยกรรม พลับพลาหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท และพลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม อยู่ระหว่างการติดตั้งรวยระกา หน้าบัน กระจัง และองค์ประกอบสถาปัตยกรรม เกยลา ขณะนี้ผลิตและทดลองประกอบโครงสร้างที่โรงงานแล้วเสร็จร้อยละ 85 อยู่ระหว่างการประสานขอเข้าติดตั้งในพื้นที่บริเวณกำแพงแก้วหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท 2.งานศิลปกรรมประกอบพระเมรุมาศงานประติมากรรม ความคืบหน้าโดยรวมประมาณร้อยละ 70 โดยรายการที่ปั้นหล่อและเขียนสีแล้วเสร็จ ได้แก่ ประติมากรรมมหาเทพ พระพรหม พระนารายณ์ เทวดานั่งและยืน ครุฑ สัตว์ประจำทิศ ช้าง ม้า โค สิงห์ นาคราวบันได เทพนม และเทพชุมนุมรอบฐานพระเมรุมาศ งานจิตรกรรมฉากบังเพลิง และจิตรกรรมโครงการพระราชดำริ ฉากบังเพลิงอยู่ระหว่างลงสีรายละเอียด ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังโครงการพระราชดำริสำหรับติดตั้งบนพระที่นั่งทรงธรรม มีขนาดสูง 8 เมตร จำนวน 3 ผนัง ขณะนี้ช่างกำลังลงสีรายละเอียดแต่ละส่วน งานจัดสร้างโลหะฉลุลายกลีบบัว สำหรับติดตั้งบริเวณรั้วราชวัติ จัดทำโครงสร้างคืบหน้าร้อยละ 80 และฉลุโลหะลายกลีบบัว คืบหน้าร้อยละ 20 3.งานประณีตศิลป์ในงานพระราชพิธี ได้แก่ งานจัดสร้างพระโกศจันทน์ ประกอบลายฉลุบนโครงพระหีบแล้วเสร็จร้อยละ 80 ประกอบลวดลายฉลุบนพระโกศ คืบหน้าร้อยละ 40 งานจัดสร้างพระโกศพระบรมอัฐิ 4 แบบ จำนวนรวม 6 องค์ ขณะนี้ได้จัดทำหุ่นต้นแบบแล้วเสร็จทั้งหมด อยู่ระหว่างการขึ้นหุ่นเพื่อการบุดุนลวดลายและกลึงถ้ำศิลา งานออกแบบและจัดทำเครื่องสังเค็ด จัดทำแบบและขยายแบบทั้งหมดแล้วเสร็จสมบูรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขึ้นต้นแบบเพื่อสรุปรายละเอียดวัสดุและการตกแต่ง รวมทั้งได้ประสานกับสำนักพระราชวังเพื่อดำเนินการจัดสร้างต่อไป 4.งานบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ประกอบด้วย การบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและราชยาน พระมหาพิชัยราชรถ และพระที่นั่งราเชนทรยาน ได้รับการอนุรักษ์ ปิดทองประดับกระจกแล้วเสร็จประมาณร้อยละ 80 ส่วนราชรถน้อยได้จัดทำลวดลายแกะสลักขึ้นใหม่ อยู่ระหว่างปิดทองประดับกระจก คืบหน้าร้อยละ 70 การจัดสร้างราชรถปืนใหญ่ สำหรับอัญเชิญพระบรมศพเวียนอุตราวัฏ และ การจัดสร้างพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย สำหรับอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวงกลับสู่พระบรมมหาราชวังรอบพระเมรุมาศ ขณะนี้งานแกะสลักลวดลายและปิดทองประดับกระจกคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 70

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะกำนันผู้ใหญ่บ้านในเขต 7 ตำบล อ.กันทรลักษ์

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะกำนันผู้ใหญ่บ้านในเขต 7 ตำบล อ.กันทรลักษ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการยิงปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย ระหว่างวันที่ 4-16 กุมภาพันธ์ ร่วมประชุมสรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ถูกทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่และ จรวดบีเอ็ม 21 ถล่มบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้านเขา พระวิหารได้รับความเสียหายนายวีรยุทธกล่าวว่า การจัดเตรียมเอกสารสรุปความเสียหายทั้งหมดของชาวบ้านทุกคนได้เสร็จแล้ว จะยื่นเอกสารฟ้องศาลโลกเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมดผ่านทางนายอำเภอ กันทรลักษ์ เพื่อเสนอต่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้เสนอเรื่องฟ้องร้องผ่านไปยังกระทรวงการต่างประเทศและนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยดำเนินการฟ้องศาลโลกเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับชาว บ้านสำหรับการคำนวณจากจำนวนประชาชนในเขต 7 ตำบลที่ได้รับผลกระทบ ประมาณ 50000 คน คิดค่าเสียหายค่าขาดรายได้จากการทำกินวันละ 100 บาทต่อคน 30 วัน ค่าไร่นาเสียหายจำนวนประมาณ 600 ไร่ ไร่ละ 15000 บาท ค่าบ้านเรือนเสียหายไฟไหม้ทั้งหลัง จำนวน 7 หลัง หลังละ 1000000 บาท ค่าบ้านเรือนเสียหายบางส่วนหลังละ 300000 บาท และค่าชีวิตที่ชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย เป็นเงิน 1500000 บาท รวมเป็นเงินค่าเสียหายทั้งสิ้น 2239905000 บาท

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน รับเงิน 5 พัน ยังลงทะเบียนได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง อุตตม เผยยอดคนสนใจ 19.8 ล้านคน คาดอาจได้เห็น 20 ล้านคนแน่

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 63 ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการเปิดรับลงทะเบียนตามมาตรการเยียวยา 5000 บาท ที่เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มี.ค. 63 มีผู้มาลงทะเบียนแล้วรวม 19.8 ล้านราย (ข้อมูล ณ เวลา 14.00 น. ของวันที่ 30 มี.ค.) ซึ่งในภาพรวมหลังการปรับเพิ่มสมรรถนะของระบบแล้ว การลงทะเบียนดำเนินไปได้อย่างราบรื่นทั้งนี้ คนทำงานที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส Covid-19 โดยเฉพาะแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ถูกเลิกจ้าง โดนลดเวลาทำงานที่ส่งผลต่อรายได้ โดนลดเงินเดือน หรือสถานประกอบการถูกปิด มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา 5000 บาทโดยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ยังสามารถเข้ามาลงทะเบียนที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ยังไม่มีกำหนดปิดรับลงทะเบียน เพื่อให้มั่นใจว่าคนทำงานที่ได้รับความเดือดร้อนจะได้รับการเยียวยาอย่างทั่วถึงอย่างไรก็ดี การลงทะเบียนสำเร็จมิได้หมายความว่าจะได้รับเงินโดยอัตโนมัติ เนื่องจากผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา 5000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน จะต้องผ่านการตรวจสอบและคัดกรองตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดก่อนจึงจะได้รับสิทธิทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการจ่ายเงินเยียวยาถูกต้องและถึงมือผู้ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง โดยการประมวลผลจะใช้เวลาอย่างเร็วที่สุด 7 วันทำการ ในกรณีที่ข้อมูลครบถ้วนถูกต้อง แต่จากจำนวนผู้ให้ความสนใจลงทะเบียนมีมากกว่าที่คาดไว้มาก อาจทำให้การดำเนินการในขั้นตอนนี้ใช้เวลามากขึ้นแหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ลงทะเบียนรับเงิน 5 พันจะมีมากกว่า 20 ล้านคน เนื่องจากเว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.com ยังไม่ปิดให้ลงทะเบียน ซึ่งการตรวจสอบผู้มีสิทธิได้รับเงินนั้นจะมีอย่างเข้มข้น เพื่อให้เงิน 5 พันบาทถึงมือผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 อย่างแท้จริง

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซ้อนแผนรวบพนักงานจัดเก็บรายได้ อบต.แพรกหนามแดง เรียกรับผลประโยชน์ หลอกผู้ประกอบการช่วยลดภาษีโรงเรือนได้

นางศิริธร มณีกอบกุลวงค์ อายุ 48 ปี เจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนต่อ นายสุคนธ์ สุวรรณศักดิ์สิน นายอำเภออัมพวา พร้อมด้วย พ.ต.อรรพล ครุฑเวโช หัวหน้างานปราบปรามทุจริต 7 ฝ่ายปกครอง ทหาร มทบ.16 ตร.สภ.ยี่สาร หลังทนไม่ไหวกับพฤติกรรม ของ ส.ท.ณัฐพัชร์ เนิ้นแฝก อายุ 33 ปี ข้าราชการ ตำแหน่งเป็นเจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ ชำนาญงาน อบต.แพรกหนามแดง ซึ่งมีหน้าที่ประเมินภาษีโรงเรือน และที่ดิน แต่จะประเมินภาษีสูงกว่าความเป็นจริง,นางศิริธร เผยต่อว่า ตนประกอบกิจการรับซื้อของเก่า ปกติจะเสียภาษีปีละ 40,000 บาท โดยประเมินภาษีใหม่ เป็นปีละ 400,000 บาท แต่อ้างว่า สามารถช่วยเหลือให้จ่ายเพียง 130,000 บาท แต่ต้องมีค่าช่วยเหลือ 25,000 บาท ซึ่งผู้ประกอบการหลายคนตกเป็นเหยื่อ,จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุม โดยการถ่ายเอกสาร ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 25 ฉบับ แล้วลงบันทึกประจำไว้ไว้ พร้อมนัดหมายให้ ส.ท.ณัฐพัชร์ มารับเงินจำนวน 25,000 บาท ที่ร้านกาแฟ ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนพระราม 2 ขาเข้ากรุงเทพฯ ก่อนที่ ส.ท.ณัชพัชร์ จะขับรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ก ต 9658 ราชบุรี เข้ามา โดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว ,หลังจากที่ นางศิริธร หยิบเงินให้ ส.ท.ณัชพัชร์ และเดินออกมานอกร้าน ขณะจะเดินไปที่รถ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม,ตรวจค้นภายในรถ พบปืนยาวมีทะเบียน มีกระสุน ขนาด .22 หัวตะกั่ว จำนวน 14 นัดคาอยู่ในรังเพลิง, อาวุธมีดเดินป่า 2 เล่ม, มีดพกสนาม 1 เล่ม, วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวน ที่ว่าการอำเภออัมพวา,เบื้องต้น ส.ท.ณัชพัชร์ ให้การรับสารภาพด้วยใบหน้าเรียบเฉย เจ้าหน้าที่ จึงตั้งข้อกล่าวหา ใช้อำนาจในตำแหน่ง ที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ตามมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงาน ละเว้นปฏิบัติหน้ที่โดยมิชอบด้วยก็หมาย มาตรา 157 มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครอง พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต,ต่อมา นายคันฉัตร ตันเสถียร ผวจ.สมุทรงคราม ทราบเรื่อง จึงเดินทางมาดูตัว ส.ท.ณัชพัชร์ พร้อมสั่งดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และตั้งกรรมการสวบสวนในเรื่องนี้ ส่งตัวพร้อมของกลาง ให้เจ้าหน้าที่ สภ.ยี่สาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

หนุ่มคลั่ง ใช้มีดปลายแหลมกรีดอวัยยวะเพศตัวเอง เลือดสาดคาห้องเช่าที่ปราจีนฯ ร้องครวญครางเจ็บปวด กู้ภัยรุดช่วยโวยวายไม่ยอม อ้างมีพยาธิในจู๋ เพื่อนร่วมงานเผย ก่อนเกิดเหตุนั่งก๊งเหล้าด้วยกัน

ก่อนแยกตัวไปดื่มต่อในห้องคนเดียว จนท.บอกคนเจ็บลุกลี้ลุกลน พูดจาไม่รู้เรื่องเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 3 มิ.ย.63 หน่วยกู้ชีพมังกร รับแจ้งเหตุชายไทยใช้มีดตัดอวัยวะเพศตัวเองเกือบขาด เลือดไหลนอง ภายในบ้านเลขที่ 167 หมู่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีหลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่า ภายในห้องน้ำพบนายศราวุธ มณีภาค อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 488 หมู่ที่ 2 ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เป็นคนงานต่อเติมหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีมหาโพธิ นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ใช้มือกำอวัยวะเพศไว้ และมีเลือดไหลออกมาตลอดเวลาเจ้าหน้ากู้ภัยจึงเข้าทำการช่วยเหลือเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่คนเจ็บไม่ยอม บอกว่ามีหนอนกำลังออกมาจากอวัยวะเพศ เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่ง รพ.ศรีมหาโพธิ เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาโดย น.ส.สุภาวดี ศรีเมือง เจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล เล่าว่า คนเจ็บบอกว่ามีพยาธิในอวัยวะเพศ จึงใช้มีดกรีดออก โดยกรีดในอวัยวะเพศเข้าไปลึก และไม่ยอมให้ทำแผลเอาแต่โวยวาย บอกว่ามีพยาธิไม่ยอมออกมา จึงใช้มีดปอกผลไม้ปลายแหลมกรีดเข้าไปลึกพอสมควร โดยคนเจ็บมีอาการลุกลี้ลุกลน เหงื่อออกตัวเย็น พูดจาไม่รู้เรื่อง บอกแต่เพียงว่ามีพยาธิอยู่ในอวัยวะเพศตัวเองด้าน นายธวัชชัย พูนพันธุ์ อายุ 21 ปี เพื่อนร่วนงานคนเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเขาดื่มสุราและแยกตัวกลับไปดื่มที่ห้อง จากนั้นได้ยินเสียงร้องโวยวาย จึงเข้าไปดู ตอนนั้นนึกว่าเขาปาดนิ้ว พอเห็นมีเลือดออกที่อวัยวะเพศ ก็เรียกเพื่อนที่อยู่ห้องตรงข้ามาช่วยเหลือ

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เกิดเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างญาติลูกพี่ลูกน้องที่มีเรื่องหมางใจกันมาก่อน ฝ่ายหนึ่งได้รับโทรศัพท์ให้ไปช่วย เลยคว้ามีดดาบขี่จยย.ไปจอดหน้าบ้านของญาติที่เป็นคู่กรณี อีกฝ่ายเห็นวิ่งเข้ามาจะเอาเรื่อง ถูกฟันสวนเข้าที่คอหวิดขาด ตายอนาถ

วันที่ 9 มิ.ย. ร.ต.อ.ทรงพล ตันเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งจาก รพ.บ้านโป่ง มีผู้ถูกอาวุธมีดฟัน เหตุเกิดบริเวณบ้านหลังหนึ่งบนถนนแสงชูโต ต.บ้านโป่ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก. พ.ต.ท.สรายุทธ บุรีวชิระ รองผกก.สส. พ.ต.ท.สุภาชัย สูงทรัพย์ไพศาล สว.สส. ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี ไปตรวจสอบ,ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าประตูบ้านดังกล่าว พบเพียงกองเลือดที่พื้น ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทราบว่าชื่อ นายธนารัตน์ หอละเอียด อายุ 31 ปี สภาพถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่คอด้านซ้ายห้อยร่องแร่งเกือบขาด เสียชีวิต ต่อมา นายศุภศักดิ์ หอละเอียด อายุ 27 ปี มือมีดเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ พร้อมอาวุธมีดดาบปลายแหลมเปื้อนเลือดยาวประมาณ 70 ซม.,จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายศุภศักดิ์ มือมีด กับนายธนารัตน์ ผู้ตาย มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน โดยนายศุภศักดิ์ มีศักดิ์เป็นลูกผู้พี่ ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางดึกนายศุภศักดิ์ ได้รับโทรศัพท์จากญาติว่ากำลังทะเลาะอยู่กับผู้ตายและถูกทำร้ายร่างกาย จึงขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับอาวุธมีด เมื่อมาถึงจะเดินเข้าไปในบ้าน ผู้ตายได้วิ่งตรงออกมาหาจึงใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาฟันเข้าที่คอผู้ตายทันทีจนล้มฟุบลง ก่อนขี่รถหลบหนี และเข้ามามอบตัวในภายหลัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ทพ.13 สนธิกำลัง ตม.สระแก้ว สภ.คลองหาด จับกุมแรงงานกัมพูชา 320 คน ขณะเก็บลำไย พบข้ามเขตมาจากจันทบุรี โดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 ต.ค. 59 พ.อ.ชายธนัญชา วาจรัต ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 13 สืบทราบว่าจะมีแรงงานกัมพูชา หลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จึงประสาน พ.ต.อ.สมศักย์ บุญประเสริฐนนท์ ผกก.สภ.คลองหาด พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผกก.ตม.สระแก้ว ให้ทำการปราบปราม จากนั้นสั่งการให้ พ.ต.อดิศักดิ์ ดาวเลรัมย์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1303 พ.ต.ท.ฒศพล สมนึก รอง ผกก.ป.สภ.คลองหาด พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว นำกำลังสกัดจับบริเวณสวนลำไย ทางเข้าหมู่บ้านเขาดิน หมู่ที่ 8 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ได้ตัวแรงงานกัมพูชา 320 คน มีกระเป๋าสัมภารและรถกระบะมีคอก 16 คัน ผู้ต้องหาเป็นคนไทย 16 คน จึงนำมาตรวจสอบขยายผลที่ สภ.คลองหาด,นายสุรชัย แช่ลี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 5 ต.แม่สระใบ อ.แม่ฟ้า จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานล้งซิสโก้ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ซึ่งชาวสวนลำไยใน อ.คลองหาด อ.วังสมบูรณ์ และ อ.วังน้ำเย็น ติดปัญหาแรงงานชาวกัมพูชาที่นำมาจากบ้านแหลม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เข้ามาเก็บลำไยในเขต จ.สระแก้ว ไม่ได้ เนื่องจากเคลื่อนย้ายได้ในเฉพาะเขต อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว เพราะเป็นข้อตกลงกันระหว่างไทยและกัมพูชา จึงเกิดปัญหาอย่างมากกับชาวสวนลำไย จ.สระแก้ว เนื่องจากแรงงานชาวกัมพูชา ที่มีความสามารถในการเก็บผลผลิตลำไยส่งออกมีอยู่เพียงแห่งเดียวคือด่านบ้านแหลม อ.สอยดาว โดยเข้าเก็บผลผลิตที่สวนลำไยแห่งนี้หลายครั้งแต่ไม่เคยถูกจับ,ด้าน นายตันหยง กาบูล เจ้าของล้งซิสโก เผยว่า เคยพาแรงงานมาเก็บลำไยที่สวนนี้ แต่มาถูกจับในนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพราะทำสัญญามัดจำซื้อลำไยเป็นเงิน 400,000 บาท ในราคากิโลกรัมละ 37 บาท เมื่อมาเก็บครั้งที่ 3 เจ้าของสวนกลับบอกว่าขายลำไยให้ล้งอื่นแล้วในราคากิโลกรัมละ 47 บาท จึงถามเจ้าของสวนว่าทำได้อย่างไรเมื่อมีสัญญาอยู่ เจ้าของสวนบอกว่าอยากได้เงินให้ฟ้องเอา จนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมข้อหานำแรงงานข้ามเขตจาก จ.จันทบุรี เข้ามาใน จ.สระแก้ว โดยไม่ได้รับอนุญาต,ขณะที่ พ.ต.อ.สมศักย์ ระบุว่า ได้สั่งการให้ ร.ต.ท.สุขชัย วันหนองสา รอง สว.สส.สภ.คลองหาด สอบสวนบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะผลักดันกลับกัมพูชา สำหรับการนำกำลังเข้ากวาดล้างเพื่อจัดระเบียบแรงงานชาวกัมพูชา ที่ลักลอบเข้ามาตามแนวตะเข็บชายแดน มารับจ้างทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ตัดอ้อย ปลูกมัน ในพื้นที่อำเภอคลองหาด อ.วังสมบูรณ์ และ อ.วังน้ำเย็น หลังพบว่ามีแก๊งมิจฉาชีพแฝงเข้ามาโจรกรรมทรัพย์และรถจักรยานยนต์ จึงจำเป็นต้องกวาดล้างเพื่อจัดระเบียบแรงงาน ส่วนคนไทยที่ให้แรงงานกัมพูชา เข้ามาพักพิงจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ระดมตามล่าตัวฝรั่งร่างยักษ์คลี่ปมฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ หลังพบภาพวงจรปิดควงคู่กันหน้าสถานบันเทิงย่านสะพานควาย ก่อนหายตัวไป ไม่ได้พุ่งเป้าเป็นฆาตกร แต่จะเชิญมาสอบปากคำเพื่อสาวไปถึงตัวคนร้าย

ในที่สุดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญถูกคลี่ปมออกมาอีกเปลาะหลังทราบว่าเหยื่อฆาตกรรมรายนี้คือใคร ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ย.57 ที่ผ่านมา ชาวบ้านพบกระเป๋าเดินทางต้องสงสัยลอยอยู่กลางแม่น้ำแม่กลอง บริเวณหลังสหกรณ์การเกษตร หมู่ 2 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดยมีก้อนหินถ่วงไว้ ภายหลังการตรวจสอบปรากฏว่าในกระเป๋ากลายเป็นศพหญิงสาวใส่เสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าส้นสูง สภาพศพมีบาดแผลหลายแห่งถูกฆ่ายัดใส่กระเป๋า เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน แต่ยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน ทำให้การคลี่คลายเป็นไปด้วยความยากลำบาก,ต่อมาวันที่ 15 พ.ย. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีนี้พยายามออกประชาสัมพันธ์หาญาติของผู้ตายมาให้ปากคำ จนกระทั่งสามารถติดต่อญาติของผู้เสียชีวิตมาดูหลักฐาน ทำให้ทราบว่าเหยื่อฆาตกรรมโหดรายนี้น่าจะเป็น น.ส.ลักษมีหรือปุ๊ก มะโนชาติ อายุ 31 ปี ชาว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ โดยญาติยืนยัน น.ส.ลักษมีมาทำงานที่กรุงเทพฯหลายปีแล้ว,ขณะเดียวกัน มีการแชร์ภาพว่อนในอินเตอร์เน็ตของ น.ส.ลักษมีที่คาดว่าเป็นเหยื่อที่ถูกฆ่ายัดกระเป๋าควงฝรั่งอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง โดยฝรั่งมีรูปร่างสูงใหญ่ ศีรษะโล้น สวมเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขาสั้นลายพรางทหาร รองเท้าผ้าใบ สวมนาฬิกาข้อมือซ้ายเดินควงกอดกันพร้อมกับมีข้อความยืนยันว่าหญิงสาวที่ถูกฆ่านั้นคือ น.ส.ลักษมี และประกาศผู้ใดพบเห็นชายชาวต่างชาติลักษณะตามภาพให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือ พ.ต.ท.โยธี สว.กก.สส.1 ภาค 7 พร้อมเบอร์โทรศัพท์ 08-2141-7678,ขณะที่ พล.ต.ต.ประภากร ริ้วทอง ผบก.สส.ภาค 7 เปิดเผยว่า ข้อความดังกล่าวเป็นการโพสต์ในไลน์ของตำรวจชุดสืบสวนด้วยกันและขอความร่วมมือไปยังตำรวจต่างพื้นที่ หากพบฝรั่งตามที่ภาพปรากฏในไลน์ ขอให้แจ้งและควบคุมตัวเพื่อเชิญมาสอบปากคำแต่ยังไม่ยืนยันว่าฝรั่งคนดังกล่าวเป็นฆาตกร ส่วนภาพวงจรปิดที่พบเป็นบริเวณหน้าร้านสถานบริการแห่งหนึ่งที่สะพานควาย กทม. เมื่อคืนวันที่ 1 พ.ย.57 และผู้ตายได้หายไปตั้งแต่คืนนั้นไม่มีใครพบอีกเลย ขณะเดียวกัน ได้ติดต่อญาติของผู้เสียชีวิตเพื่อตรวจดีเอ็นเอยืนยันอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจอย่างเป็นทางการ,พล.ต.ต.ประภากร กล่าวว่า ชุดสืบสวนพยายามตามหาชายชาวต่างชาติที่ควงคู่กับผู้ตายแต่ยังไม่พบและไม่ทราบชื่อมีแต่ภาพจากวงจรปิดเท่านั้น ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน สำหรับชายชาวต่างชาตินั้น ไม่ยืนยันว่าเป็นคนร้าย อาจจะมีการเข้าใจผิด เพียงแต่ต้องการตัวมาสอบปากคำเท่านั้นเพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนหาคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดี ซึ่งเรื่องนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญที่ประชาชนให้ความสนใจ กระทั่ง ผบ.ตร.ได้ส่ง พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงมาดูแลคดีและ พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 สั่งกำชับต้องทำคดีนี้ให้กระจ่างโดยเร็วที่สุด ผบก.สส.ภาค 7 กล่าว,พล.ต.ต.ประภากร ยังกล่าวอีกด้วยว่า ดังนั้นขอความร่วมมือประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย หากพบเห็นชายฝรั่งตามภาพขอให้แจ้งมาได้ที่ บช.ภ.7 หมายเลข 034-134-660-9 หรือ ,www.police7.go.th, หรือที่ บก.ภ.จ.กาญจนบุรี ตลอดเวลา ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตัวเพื่อมาสอบถามและหาตัวคนร้ายเท่านั้น ไม่ได้มองว่าเขาเป็นฆาตกรแต่อย่างใด,ส่วน พ.ต.อ.ชูยศ ทองอยู่ ผกก.สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ท้องที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า คดีนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยร่วมกันคลี่คลายคดี อาทิ สส.บก.ภ.จ.กาญจนบุรี สภ.ท่าม่วง สภ.เมืองกาญจนบุรี ภาค 7 ตำรวจท่องเที่ยวและกองปราบปราม ส่วน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นผลการสืบสวนมีหลายเบาะแสแต่ที่จะยืนยันได้ว่าผู้ตายเป็นใครต้องรอผลการยืนยันทางนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น ตอนนี้บอกได้ว่ามีความคืบหน้าไปมากพอสมควร

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อให้กำลังใจจำเลย 4 คน ในคดีกบฏ กปปส.สำนวนแรก เพื่อฟังคำพิพาษาศาลชั้นต้น

วันนี้ (25 ก.ค.2562) ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี กบฏ กปปส.สำนวนแรก ที่อัยการยื่นฟ้องนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีนิด้า และนายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาด รวมทั้งหมด 4 คน ในความผิดฐานร่วมกันก่อการกบฏ – มั่วสุมสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ รวม 8 ข้อหา กรณีเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2556 ร่วมชุมนุม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.เพื่อกดดันให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้นโดยช่วงเช้าที่ผ่านมา จำเลยทั้ง 4 คน ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส.คนอื่นๆ เดินทางมาด้วย ทั้งนี้ พบว่ามีประชาชนกว่า 20 คน มายืนให้กำลังใจด้วยเช่นกันนายสุเทพ เปิดเผยก่อนขึ้นฟังคำพิพากษาว่า คดีนี้เป็นคดีที่แยกออกจากในส่วนคดีที่ตนเองเป็นจำเลย ซึ่งคดีนี้ได้ต่อสู้คดีกันมานานกว่า 4 ปีแล้ว ในฐานะผู้ร่วมอุดมการณ์ ตนจึงเดินทางมาเป็นกำลังใจให้แกนนำทั้ง 4 คน

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

OTW Free WiFi For School ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 หนุนเทคโนโลยีดิจิตอล การสื่อสารที่ต้องรวดเร็ว กระทรวงศึกษาฯ จับมือภาคเอกชน ติดตั้งอินเทอร์เน็ตครอบคลุม 50 โรงเรียนทั่วประเทศ เริ่มต้นที่ ร.ร.เทพศิรินทร์

กระทรวงศึกษาธิการ ได้จับมือกับภาคเอกชน ดำเนินการพร้อมส่งมอบโครงการ OTW Free WiFi For School นำร่องสถาบันการศึกษาโรงเรียนเทพศิรินทร์ เป็นแห่งแรก พร้อมจัดทำการส่งเสริมการทำ CSR (Corporate Social Responsibility) ให้ข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตกับบรรดานักเรียน,นายพีรณัฐ รุจนวงศ์ ประธานกรรมการบริษัท บีเคเค ดีเวลลอปเปอร์ เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการ ในการให้คำปรึกษาของโครงการ OTW Free WiFi For School เบื้องต้น ทางบีเคเค จะได้มีการเข้ามอบอินเทอร์เน็ต และข้อมูลการใช้งานให้กับทางโรงเรียนนำร่อง คือที่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ จะเปิดใช้เป็นโรงเรียนแรก ส่วนที่อยู่ในกระบวนการติดตั้งต่อไป ได้แก่ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี, โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า โดยตั้งเป้าในปีการศึกษา 2561 จะครอบคลุม 50 โรงเรียนทั่วประเทศ,ตอนนี้ทางบริษัท บีเคเค ดีเวลลอปเปอร์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากหลายโรงเรียนที่ต้องการให้เราเข้าไปทำการติดตั้ง ซึ่งมีการใช้งานง่ายจากเซ็นเตอร์ไวไฟ อยู่ภายในรถตู้ On The Way เราเพียงแค่เปิด Username แล้วให้นักเรียนใส่ Password ซึ่งก็คือ รหัสประจำตัวนักเรียน แค่นี้ก็ใช้งานได้เลย ในอนาคตเรามีแผนขยายต่อไปสู่สถาบันอุดมศึกษา และท้องถิ่นต่างๆ เพื่อที่ประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์จากฟรีไวไฟมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เราอยู่ในขั้นเตรียมโครงการ OTW Free WiFI ให้กับทางรถตู้โดยสารปรับอากาศมากกว่า 500 คัน ครอบคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะเปิดบริการภายในต้นปี 2561 นี้อีกด้วย ,นายพีรณัฐ รุจนวงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณโครงการ OTW Free WiFi For School ที่ทางบริษัท บีเคเค ดีเวลลอปเปอร์ ได้ให้การสนับสนุนภาครัฐบาลในการเร่งปฏิรูประบบการศึกษาไทยให้เข้ากับยุคไทยแลนด์ 4.0 ทางโรงเรียนเทพศิรินทร์ ในฐานะสถาบันการศึกษานำร่องติดตั้งฟรีไวไฟแห่งแรก นายอนันต์ ทรัพย์วารี ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ จึงได้มอบโล่เชิดชูเกียรติให้กับผู้บริหารบริษัท บีเคเค ดีเวลลอปเปอร์ ทั้ง 3 คน เพื่อแสดงความขอบคุณในกิจกรรมดีๆ

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

10 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก 19 กันยายนปีนี้ครบรอบ 10 ปีการรัฐประหารครั้งก่อน

และตอนนี้เราก็อยู่ในห้วงเวลาหลังการรัฐประหารครั้งล่าสุดโดยยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าประเทศไทยจะออกจากอำนาจการปกครองของทหารทั้งทางตรงและทางอ้อมเมื่อใดเมื่อต้องอยู่กับระบอบทหารอีกนาน ประชาไทจึงสัมภาษณ์นักประวัติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญการปกครองในยุคทหารอย่าง ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ เขาเป็นผู้ที่มักเสนอมุมมองใหม่และพลิกความเข้าใจเดิมของผู้คน ตั้งแต่ครั้งทำวิทยานิพนธ์นำเสนอว่าการรัฐประหาร ครั้งแรก หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้นกระทำผ่านการออกพระราชกฤษฎีกาเพียงฉบับเดียวโดยนายกรัฐมนตรีคนแรกของไทยพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เมื่อ 20 มิถุนายน 2476 และต่อมายังทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกเรื่อง บทบาททางการเมืองของจอมพลถนอม กิตติขจร พ.ศ. 2506-2516ที่เน้นศึกษากระบวนการขึ้นสู่อำนาจ การรักษาอำนาจโดยวิธีการต่างๆ และการปิดฉากอำนาจในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งเขาตั้งคำถามในการพูดคุยครั้งนี้ว่า เหตุการณ์นั้นเป็นพลังของนิสิตนักศึกษาจริงหรือไม่ หรือเพราะปัจจัยอื่นใดหลังการรัฐประหาร 2557 เขาบ่นว่า สื่อมวลชนไม่มาสัมภาษณ์เขาเหมือนที่ผ่านมาอีกเลย ทำให้อยู่ในภาวะอึดอัดในความเงียบ จนกระทั่งได้ขึ้นเวทีนำเสนอความเห็นทางวิชาการครั้งแรกในการจัดสัมมนาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา () ครั้งนั้นเขานำเสนอใหม่อีกครั้งว่า โดยเนื้อแท้แล้วประเทศไทยไม่เคยปกครองในระบอบประชาธิปไตยตลอด 84 ปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หากแต่อยู่ในรัฐทหาร ไม่เชื่อก็เพียงลองคำนวณง่ายๆ ระหว่างระยะเวลาที่พลเรือนปกครองกับทหารปกครองประเทศ ซึ่งพบว่าเป็นพลเรือน 34.5% เป็นทหาร 65.5%แต่แทนที่เขาจะลงรายละเอียดไปในเรื่องนั้น เขากลับเริ่มต้นชวนคุยถึงประสบการณ์การสอนการเมืองไทยกับนักศึกษาปี 1 อันยาวนานของเขาที่สอนในหลายๆ สถาบัน โดยเขาชี้ให้เห็นว่า มันมีเนื้อนาดินบางอย่างที่ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้มีการศึกษาของไทยยอมรับการรัฐประหารได้ สะท้อนผ่านมายาคติ 4 ประการที่เขาตั้งเป็นคำถามในห้องเรียนและให้นักศึกษาเล่นเกมตอบคำถาม1.ใครคือนักการเมือง 2.ใครบ้างที่คอร์รัปชัน 3.สถาบันทางการเมืองคืออะไร 4.หากนักศึกษาเป็นนายกรัฐมนตรี อะไรคือนโยบายเร่งด่วน 3 อย่างที่จะทำเขาเล่าว่าคำตอบของนักศึกษาสะท้อนความคิดของคนในสังคมได้อย่างดี พวกเขามองว่าการเมืองคือเรื่องสกปรก นักศึกษาแทบทั้งหมดไม่มองว่าทหารเป็นนักการเมือง ทั้งที่ทุกคนที่มีผลประโยชน์ในเรื่องต่างๆ ควรถูกนับให้เป็นนักการเมือง นักการเมืองถูกเน้นย้ำเรื่องการคอร์รัปชันมาก โดยแม้นักศึกษาจะตอบว่าทหารก็คอร์รัปชันแต่ไม่กล้าพูดเหตุผลมากเท่าเวลาพูดถึงนักการเมือง ส่วนสถาบันทางการเมืองนั้นก็มองเพียงแคบๆ และเห็นว่าองค์กรอิสระไม่ใช่สถาบันทางการเมืองแต่เป็นสถาบันตรวจสอบการทุจริตของนักการเมือง ธำรงศักดิ์มองว่าหากอยากรู้ว่าสถาบันทางการเมืองคืออะไรก็เพียงดูรัฐธรรมนูญ ทุกองค์กรที่ถูกระบุในนั้นล้วนเป็นสถาบันทางการเมืองรวมถึงทหารด้วย และท้ายที่สุด เยาวชนของไทยไม่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพียงเพราะขาดจินตนาการ ไม่สามารถเชื่อมโยงการเมืองเข้ากับชีวิตประจำวันได้ แต่เพราะอาชีพนี้ถูกทำให้ไม่ดีพอที่จะอยู่ในความใฝ่ฝันด้วยเราต้องเปลี่ยนแปลงความคิดพวกนี้ ไม่อย่างนั้นเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เขากล่าวหลังจากนั้นเขาจึงเริ่มเข้าสู่การชี้ชวนให้ดูเส้นทางการเกิดและเติบโตของทหารไทย และอาจพลิกความเข้าใจเดิมของผู้อ่านในหลายเรื่องธำรงศักดิ์ชี้ว่า การก่อร่างสร้างตัวของระบบทหารเริ่มต้นขึ้นในปี 2430 ที่เริ่มมีการก่อตั้งโรงเรียนนายร้อยเพื่อจัดระเบียบกองทัพสมัยใหม่แบบโลกตะวันตก (ในช่วงเวลานั้นก็มีการสร้างสถาบันตุลาการด้วย และเป็นสองสถาบันที่ยังไม่เคยมีการปฏิรูปนับแต่นั้น) ในปี 2435 มี การปฏิรูปการปกครอง ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งธำรงศักดิ์ชี้ว่าครูสอนประวัติศาสตร์สมัยมัธยมอาจไม่ได้ขยายความมากนักว่ามันคืออะไร หรือบรรยายรูปแบบการบริหารราชการแผ่นดินเพียงคร่าวๆ แต่โดยเนื้อแท้แล้วมันคือ การกระชับอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางในอีก 100 ปีต่อมา เราก็เจอกับคำว่า ปฏิรูปการปกครอง อีกในชื่อของคณะทหารที่ทำการรัฐประหารในปี 2519 และ 2549 ชื่อของคณะรัฐประหารที่ตั้งกันแบบนั้นไม่ใช่ไม่มีความหมาย ถ้าเราได้ยินคำนี้เมื่อไร มันก็คือ การกระชับอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางนั่นเอง ไม่น่าเชื่อว่า เรา พ่อของเรา และปู่ของเรา อยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหน (หัวเราะ)หลังพัฒนากองทัพให้ทันสมัยแบบตะวันตกได้ไม่นานอีก 25 ปีต่อมากลับมีการเปลี่ยนแปลงระบอบทางการเมืองของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์โดยทหารหนุ่ม คือ ในปี 2455 เกิดกบฏยังเติร์ก หรือกบฏ ร.ศ.130 ซึ่งผู้กระทำการล้วนเป็นทหารที่เพิ่งจบจากโรงเรียนนายร้อยอายุ 20 กว่าปีกันทั้งนั้น มีหัวหน้าอายุ 30 ปี พวกเขาต้องการเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยในรูปแบบหนึ่ง แต่เมื่อกระทำการไม่สำเร็จจึงมีสถานะเป็นกบฏ หลังจากนั้นอีก 20 ปีก็เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475แต่สองเรื่องนี้มักไม่ถูกเชื่อมโยงกัน อันที่จริง 2475 ไม่ใช่ไม่มีรากอย่างที่หลายคนเข้าใจ มันเป็นการสืบทอดกระแสประชาธิปไตยที่กบฏยังเติร์กทำไม่ได้ และ 2475 ก็ยังอยู่กับเราจนทุกวันนี้ในปี 2475 ผู้ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองคือ คณะราษฎร (ชื่อภาษาอังกฤษคือ The Peoples Party แต่ศัพท์ในเวลานั้นคำว่า พรรค และคำว่า ประชาชน ยังไม่แพร่หลาย) เป็นทั้งข้าราชการพลเรือน และข้าราชการทหารระบบราชการนั้นถูกสร้างขึ้นในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่เพียง 40 ปี (2435-2475) ระบบข้าราชการก็ล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประชาธิปไตยของไทยจึงเป็นระบบที่เริ่มต้นด้วยราชการธำรงศักดิ์ชี้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับแรกของคณะราษฎรนั้นกำเนิดในวันที่ 27 มิ.ย.2475 มี 39 มาตรา บรรจุในกระดาษ A4 ประมาณ 4 หน้า ทุกคนอ่านแล้วเข้าใจได้ ช่างแตกต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่มี 279 มาตรา บางมาตรายาว 1 หน้าครึ่งและแม้แต่คนร่างเองยังงงๆ มันคือกลยุทธ์ทำให้งงแล้วปกครองอย่างไรก็ตาม เราถูกทำให้มองว่าการเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ทุกฝ่ายยอมรับได้ แต่เรากลับไม่เห็นความเชื่อมโยงของการตอบโต้ในปีต่อมา เริ่มจากเกิดการรัฐประหารโดยพระยามโนปกรณ์ฯ ด้วยการออกพระราชกฤษฎีกา 1 เม.ย.2476 จากนั้นเดือนมิถุนายน คณะราษฎรปฏิวัติกลับ ต่อมาเดือนตุลาคม ทหารฝ่ายเจ้าในนาม คณะกู้บ้านกู้เมือง โต้กลับและพ่ายแพ้จึงมีสถานะเป็นกบฏ รู้จักกันในนาม กบฏบวรเดชเพียงแค่ครึ่งปี รัฐประหารกันไป 3 ครั้ง และครั้งที่ 3 นั้นมีการยิงกันตายด้วยในส่วนของการรัฐประหารครั้งแรกด้วยพระราชกฤษฎีกาโดยพระยามโนปกรณ์ฯ นั้น สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านั้นเริ่มมีการกล่าวหาว่า ปรีดี พนมยงค์ ผู้นำปีกพลเรือนของคณะราษฎรมีแนวคิดโน้มเอียงไปทางคอมมิวนิสต์เนื่องจากการผลักดัน เค้าโครงเศรษฐกิจ หรือสมุดปกเหลืองของเขา พระยามโนปกรณ์ฯ โดยกองทัพที่หนุนอยู่เบื้องหลัง จึงออก พ.ร.ฎ.ปิดประชุมสภา แต่เนื้อหานั้นมหัศจรรย์มากโดยกำหนดให้ ปิดสภาไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งและงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ให้ยุบรัฐบาลนี้และมีรัฐบาลใหม่นำโดยพระยามโนปกรณ์ฯ เช่นเดิมแต่สมาชิกคณะราษฎรที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งทั้งหมด และยังให้อำนาจรัฐบาลพระยามโนปกรณ์ฯ ออก พ.ร.บ.ได้ด้วย โดย พ.ร.บ.ฉบับแรกที่ออก คือ พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.2476หลังจากนั้นเมื่อปีกทหารในคณะราษฎรปฏิวัติยึดอำนาจกลับมาได้ ไม่นานรัชกาลที่ 7 ก็ทรงสละราชสมบัติและเดินทางไปต่างประเทศ นับเป็นการต่อสู้สำคัญในการกำหนดว่า ใครคือผู้นำทางการเมือง ใครคือผู้แต่งตั้งสมาชิกครึ่งหนึ่งของสภา เป็นข้อต่อสู้ที่ไม่ต่างกับในตอนนี้ธำรงศักดิ์ชี้ว่า ในการปฏิวัติ 3 ครั้งแรกที่กล่าวไปนั้น คนที่จะต้องต่อสู้อยู่ด่านหน้าคือ คณะทหารในคณะราษฎร เพราะต้องทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เมื่อยึดอำนาจกลับคืนมาได้ พระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะราษฎรฝ่ายทหารบกจึงขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นเจ้าของคำกล่าวที่ว่า ข้าพเจ้าไม่ใช่นักการเมือง ข้าพเจ้าคือทหาร นี่เองคือจุดเริ่มต้นของความคิดที่ว่า ทหารไม่ใช่นักการเมือง และในปีที่ 2 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้นเอง ทหารก็สามารถสร้างความชอบธรรมในการเข้าสู่ตำแหน่งในทางการเมืองได้ ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ยุคสงครามโลกในช่วงจอมพล ป. ทำให้ทหารสามารถใช้อำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จและประชาธิปไตยถูกแช่แข็ง เมื่อสิ้นสงคราม ฝ่ายประชาธิปไตยขึ้นสู่อำนาจได้เพียง 2 ปีก็เกิดการรัฐประหารอีกเพราะปัจจัยภายในประเทศ และคณะรัฐประหารชุดนี้เองที่เริ่มต้นสโลแกนสำคัญว่า ทหารมีหน้าที่พิทักษ์ ชาติ ศาสนา และกษัตริย์ โดยไม่มีคำว่า รัฐธรรมนูญ ให้ต้องพิทักษ์อีกต่อไปหลังการรัฐประหารปี 2490 สงครามเย็นเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายอำนาจของทหาร โดยทหารไทยได้ประโยชน์จากการแพร่ของคอมมิวนิสต์ เพราะได้รับเงินสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาจำนวนมากสามารถเพิ่มพูนอำนาจได้มากขึ้นจนขึ้นสูงสุดในยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และจอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งมีรัฐธรรมนูญเพียง 20 มาตรา และมีมาตรา 17 อันโด่งดังซึ่งให้อำนาจนายกรัฐมนตรีจัดการผู้ก่อความไม่สงบได้ทันทีแล้วค่อยแจ้งต่อรัฐสภาแม้แต่การประหารชีวิตมาตรา 17 นี่แหละคือบิดาของมาตรา 44 ในปัจจุบัน อันที่จริงสฤษดิ์ใช้เชือดในบางครั้ง เพื่อควบคุมสถานการณ์สำคัญ ถนอมนั้นใช้เยอะกว่า ฆ่าคนก็มากกว่า แต่คนไม่จำ ส่วนกรณีมาตรา 44 นี่คือ ใช้ไปเรื่อย คิดอะไรไม่ออกก็ใช้สำหรับธำรงศักดิ์เขาแบ่งการเมืองไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองออกเป็น 2 ช่วงใหญ่ช่วงละ 40 กว่าปี ช่วงแรกคือ ปี 2475-2516 และช่วงที่สองคือ 2516-2560ในช่วงเวลา 40 กว่าปีแรกนั้น มีเหตุการณ์ความปั่นป่วนทางการเมืองเกิดขึ้นทั้งหมด 17 ครั้ง เฉลี่ยแล้วคือ 2.7-3 ปีต่อ 1 ครั้ง หากดูเฉพาะ 25 ปีแรกคือช่วง 2475-2500 พบว่ามีการยึดอำนาจถึง 13 ครั้งแบ่งเป็น ยึดอำนาจสำเร็จ 6 ครั้ง ยึดอำนาจไม่สำเร็จ 7 ครั้ง ในช่วงปี 2500-2516 ช่วงเวลานี้กองทัพเข้มแข็งมากแต่ถูกพลังใหม่ท้าทายและล้มลงในเหตุการณ์ 14 ตุลารัฐทหารพัฒนามาเรื่อยๆ และสูงสุดในยุคสฤษดิ์ แต่กลับล้มลงในเหตุการณ์ 14 ตุลา มีคำถามอธิบายว่าเป็นพลังนักศึกษาประชาชน ผมยังไม่แน่ใจนักและเริ่มคลางแคลงในบทสรุปที่ผ่านมา ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมอีก 3 ปีต่อมานักศึกษาจึงถูกฆ่าธำรงศักดิ์ยังแทรกเกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์เกร็ดใหญ่ด้วยว่า ในสมัยปรีดี พนมยงค์ เป็นนายกฯ นั้นมีความพยายามจะปฏิรูปกองทัพเสียใหม่แต่ไม่สำเร็จ และน่าเสียดายที่หลังสงครามโลกครั้งที่สองสหรัฐอเมริกาเข้าไปจัดการกับกองทัพญี่ปุ่น แต่กลับไม่ให้อังกฤษจัดการกับกองทัพไทย ทำให้ยักษ์ในตะเกียงยังคงใหญ่โตอยู่นอกตะเกียงมาจนทุกวันนี้ นอกจากนี้ปรีดียังผลักดันให้ตุลาการเป็นอิสระ แต่การรัฐประหารในปี 2490 นั้นพบว่า อธิบดีศาลฎีกาในขณะนั้นได้ไปร่วมร่างรัฐธรรมนูญใต้ตุ่มของทหารด้วยและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า รัฏฐาธิปัตย์ ที่เราคุ้นเคยมาจนปัจจุบัน ศาลฎีกาออกมาตีความเป็นครั้งแรกในตอนนั้น แสดงว่าผู้พิพากษาได้เป็นส่วนหนึ่งของการรัฐประหารตั้งแต่ปี 2490 จนปัจจุบัน คุณมีปืนอย่างเดียวไม่ได้ต้องมีส่วนประกอบอื่นด้วยสำหรับในช่วง 40 กว่าปีหลังนับจาก 2516-2560 นั้น เราพบว่ามีประชาชน นักศึกษาออกมาและมีชัยชนะ 2 ครั้ง คือ ปี 2516 และ 2534 หลังปี 2516 เรามีรัฐบาลพลเรือนอยู่นาน 2 ปี จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา ธานินทร์ กรัยวิเชียร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี มีแผน Freeze ประเทศไทย 12 ปี แนวคิดทำนองนี้มีมานานแล้ว แต่แนวนโยบายแบบขวาจัดนี้อยู่ไม่ได้ ในที่สุดเพียงปีเดียวก็ต้องมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ โดยใช้วิธีการยึดอำนาจ ส่วนช่วงปี 2534-2549 นั้นนับเป็นช่วงขาลงของทหาร และถนนทุกสายเริ่มพุ่งเป้ามาที่นักการเมืองช่วงนั้นนักวิชาการคนไหนยังศึกษาเรื่องทหารกลายเป็นพวกโบราณ นักการเมืองเริ่มกลายเป็นตัวแทนความชั่ว ขณะที่ทหารซึ่งไม่ได้ทำอะไร ไม่มีบทบาทอะไร เริ่มกลายเป็นตัวแทนความดี พวกเขา (ทหาร) ไม่สามารถกำหนดทิศทางตัวเองได้ แต่อาศัยเป็นผู้พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อันเป็นข้ออ้างสุดท้ายของการมีอยู่ของเขารัฐประหารปี 49 เป็นต้นมาคือการกลับคืนมาของบทบาทกองทัพในทางการเมือง หลังจากหายไปนาน 15 ปี แต่รัฐประหารปี 49 นั้นยืดหยุ่นและถอยเร็ว แต่รอบนี้จะอยู่ยาวมาก เราไม่มีคำอธิบาย ถึงเรามีเราก็ไม่กล้าอธิบายชัยชนะของเขาวางอยู่บนฐานที่ว่า ทหารไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นผู้พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์สำหรับรูปแบบการอยู่ในอำนาจทางการเมืองของทหาร ภายหลังการรัฐประหารในปี 24901.ยึดอำนาจแล้วต้องอยู่ในอำนาจของทหารเต็มๆ ช่วงหนึ่ง ช่วงเวลานั้นประกาศของคณะยึดอำนาจถือเป็นกฎหมาย ไม่มี สนช. ไม่มีการลงพระปรมาภิไธย คนที่อยู่ในอำนาจเช่นนั้นยาวที่สุดคือ ถนอม กิตติขจร คือเมื่อยึดอำนาจแล้วก็อยู่ในอำนาจถึง 13 เดือน2.ทหารของประเทศนี้ต้องอ้างว่า ยึดเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ สมัยของสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็อ้างเช่นนั้นและยังบอกว่า คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ร่างกันได้เต็มที่นานเท่าไรก็ได้ สมัยสฤษดิ์-ถนอมปล่อยให้ สนช.คุยกันเรื่องร่างรัฐธรรมนูญยาวนานถึง 9-10 ปีเรียกได้ว่าเป็นการใช้การร่างรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในอำนาจนาน มาครั้งนี้ใช้ยุทธวิธี ร่างแล้วแท้ง ประชามติไม่ผ่านจะอยู่ต่อ ไม่รู้ว่าต้นทุนของการร่างรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับที่ผ่านมานั้นสูญเสียไปเท่าไร สมัยสฤษดิ์ มี สนช.ชุดเดียวนี่แหละทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญด้วย แต่สมัยนี้ มี สนช. 220 คน และยังมี สปท.อีก 250 คนที่ฝีปากกล้าทั้งนั้น เป็นการดึงคนจำนวนมากมาร่วมปกป้องรัฐประหาร ถือว่าครั้งนี้เพอร์เฟ็กต์มากในการใช้เงินแผ่นดิน แล้วทำให้เป้าที่สำคัญถูกหลอกล่อหลบเลี่ยงได้ ทำยังไงให้ทหารไม่เป็นเป้า ไม่ปรากฏว่าเป็นศัตรูต่อประชาธิปไตยอย่างชัดเจน แตกต่างจากยุคสฤษดิ์3.เมื่อร่างรัฐธรรมนูญผ่านแล้วทหารก็จะให้เลือกตั้ง โดยทหารเริ่มมาตั้งพรรคการเมืองของตัวเอง ดังจะเห็นได้ในอดีต เช่น พรรคมนังคศิลา ของจอมพล ป. พรรคสหประชาไทย ของจอมพลถนอม โดยวางกลเกมให้พรรคทหารต้องเป็นพรรครัฐบาล ต้องทำให้พรรคคู่แข่งมี ส.ส.น้อย เช่น ในปี 2495 สมัยจอมพล ป. มีการออกกฎห้ามนักการเมืองหาเสียงเลือกตั้ง ห้ามปราศรัย ห้ามชุมนุม เมื่อพรรคอื่นได้ ส.ส.น้อย เสียงแตกก็ไม่มีพาวเวอร์ พรรคทหารก็คุมนักการเมืองพรรคที่เพอร์เฟ็กต์คือพรรคสหประชาไทย ถ้ามาเป็นพรรครัฐบาลจะได้รถจิ๊บคนละคัน ได้เบี้ยเลี้ยง และสามารถขอสาธารณูปโภคไปลงในพื้นที่ได ภาพออกมาจึงกลายเป็น ส.ส.ขี้ขอ แต่คิดดูแล้วกันว่าไม่ขอแล้วจะได้ไหม ในเมื่อกำหนดเกมให้เป็นแบบนั้น4.หาพรรคสนับสนุน โดยพรรคเหล่านั้นต้องเป็นพรรคขนาดกลาง ไม่สามารถมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง สมัยเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ และเปรม ติณสูลานนท์ ก็ใช้กลไกนี้ผ่านกฎหมายเลือกตั้ง เกมการเลือกตั้ง โดยให้มีทหารอยู่ในตำแหน่งนายกฯ คนเดียวก็ได้ เพราะเราออกแบบให้อำนาจสูงสุดของรัฐบาลอยู่ที่นายกรัฐมนตรีทหาร คือสถาบันทางการเมืองที่ไม่ได้ถูกเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญตลอด 80 กว่าปี และป็นพรรคการเมืองที่มีฐานจากภาษีของประชาชนเดิมที่เราอาจปรามาสกองทัพ อย่าลืมว่ามันหล่อเลี้ยงข้าราชการที่ไม่มีภารกิจการงานจำนวนมาก การมีเวลาว่างก็จะทำให้นั่งคิดอะไรได้เยอะ หากสังเกตดูจะเห็นว่าจังหวะการยึดอำนาจจะเริ่มต้นเมื่อรัฐบาลมีอำนาจมาก รูปแบบก่อนยึดอำนาจคือ ทำให้มีปัญหาการเผชิญหน้าของมวลชน เรามักจะเห็นการเคลื่อนไหวของมวลชน 6-8 เดือนล่วงหน้า ทำให้วุ่นวายจนต้องหาทางลดความวุ่นวาย หรือไม่เช่นนั้นก็มีปัญหาการเลือกตั้ง ถึงตอนนี้คงมีคำถามว่า เราประเมินประสบการณ์ของกองทัพน้อยไปหรือเปล่ามีคนพูดเรื่องปฏิรูปกองทัพกันมาก ผมคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่เรียนรัฐศาสตร์แต่มันเกิดไม่ได้ ตอนนี้คิดใหม่แล้วว่า เราต้องสร้างนักการเมืองพันธุ์ใหม่ที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตย ตลอดที่ผ่านมา เราไม่เคยเห็นการต่อสู้เพื่อยืนยันระบบเลือกตั้ง เมื่อพูดว่าปฏิรูปกองทัพ คำถามคือ ใครล่ะจะทำ? ภาคประชาสังคมแบบเราจะทำให้เราเชื่อมั่นในตัวเองได้ไหม ผมเคยให้นักศึกษาที่เรียนทำเปเปอร์เรื่องผู้แทนราษฎรที่น่ายกย่อง เราไม่เคยมองนักการเมืองดีเลย เป็นเรื่องที่เราต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ ขณะเดียวกันพอพูดถึงทหารเรากลับรู้สึกกันง่ายๆ ว่าทหารน่ายกย่อง ถ้าเราไม่ทำตรงนี้ ระบอบประชาธิปไตยก็ไม่มีทางไปแต่ก็ไม่อยากให้สิ้นหวังเสียทีเดียว เรามีฐานของคนที่ยืนหยัด มีคนที่เห็นปัญหาของระบบทางการเมืองแบบนี้ ดูจากการโหวตโนไม่รับรัฐธรรมนูญในปี 2550 มี 9.5 ล้าน ปี 2559 มี 10.6 ล้าน ถือว่ามีพาวเวอร์เยอะมากและเรายังไม่รู้ว่ามันจะกลายเป็นพลังเมื่อไร สิ่งที่สังคมไทยไม่มีคือ head ของการเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาพอทหารยึดอำนาจก็ได้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ถ้ามีคนกลุ่มหนึ่งยืนยันต่อต้าน สถานการณ์อาจเปลี่ยนไป ใครฟังอาจคิดว่าเพ้อฟัน แต่ตอนหลังเมื่อผมเริ่มเรียนเริ่มสอนเรื่องอาเซียนมากๆ มันทำให้เห็นว่า ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลง และทุกสิ่งเป็นไปได้

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเปิดงานวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2560 ประทานธรรมกถาให้ประชาชนพากเพียรตามรอยพระยุคลบาท ขณะ มจร. เปิดตัว พระไตรปิฎกสากล ฉบับแรกของโลก ให้ชาวพุทธในต่างประเทศได้ศึกษา

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 60 ตั้งแต่ช่วงเช้า ที่หอประชุม มวก. 48 พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ จัดประชุมสัมมนาทางวิชาการระดับนานาชาติและเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก วันสำคัญสากลของโลก ภายใต้หัวข้อ สติ : วิถีปฏิบัติและวิถีแห่งการประยุกต์บนฐานแห่งความกรุณา โดยมีผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการทางพระพุทธศาสนา จาก 85 ประเทศ กว่า 2,000 รูป/คน เข้าร่วม มี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) วัดราชบพิธฯ เสด็จเปิดงานพร้อมประทานธรรมกถา ใจความว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนเราทั้งหลายไว้ว่า ปญฺญา โลกสฺมํ ปชฺโชโต ความว่า ปัญญาเป็นแสงสว่างในทางโลก แม้ปัญญาในทางโลกมีความสำคัญ แต่ปัญญาที่มีความสำคัญยิ่งกว่า คือ ปัญญาในทางธรรมอันเกิดจากการอบรมจิตภาวนา จนเกิดความสามารถหยั่งรู้สภาพความเป็นจริงของชีวิต เป็นปัญญาที่ทำให้เกิดการดับทุกข์ ทำให้ชีวิตหลุดพ้นจากการเวียนอยู่ในกองทุกข์ ประเสริฐยิ่งกว่าประดิษฐกรรมใดๆ ในทางโลก,เมื่อชาวโลกต่างพากันตระหนักคุณวิเศษของพระพุทธศาสนา ประกาศให้วิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก จึงนับเป็นวันสำคัญของคนทุกชาติทุกศาสนา ไม่ได้จำกัดความสำคัญอยู่ในหมู่พุทธบริษัทแต่เพียงเท่านั้น ฉะนั้น พุทธบริษัทควรที่จะอบรมบ่มเพาะปัญญาให้งอกงามยิ่งขึ้น เพื่อให้รู้จักโลกอย่างถ่องแท้ทั้งสองนัย และจงเตือนใจตนให้ซาบซึ้งในพระพุทธคุณ เพื่อจะได้พากเพียรตามรอยพระยุคลบาท พระผู้ทรงเป็นโลกวิทู ผู้รู้แจ้งโลก และจะได้นำแสงสว่างที่แท้จริงมาสู่โลกนี้ให้ก้าวผ่านความมืดมนด้วย สติ คือความระลึกได้ สามารถคุมจิตไว้ได้ ด้วยปัญญา คือ ความรู้ถึงเหตุผล สามารถเข้าใจความเป็นไปของสรรพสิ่ง อันเป็นบ่อเกิดแห่งความผาสุกสันติได้อย่างแท้จริง เนื่องในวิสาขบูชา พุทธศักราช 2560 ขอตั้งความปรารถนาดีอำนวยพรให้เพื่อนสหธรรมิกและสาธุชน จงถึงพร้อมด้วยกำลังปัญญาอันเป็นแสงสว่างของโลก ให้งอกงามไพบูลย์ในธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งๆ ขึ้นไป,ต่อมา พระพรหมบัณฑิต อธิการบดี มจร. ในฐานะประธานจัดงานแถลงข่าว เปิดตัวพระไตรปิฎกฉบับสากลฉบับแรกของโลก ว่า วิสาขบูชาปีนี้ ถือเป็นวาระสำคัญที่ประชาคมชาวพุทธได้มีมติให้ มจร. จัดทำพระไตรปิฎกสากลฉบับแรกของโลกสำเร็จ ถือเป็นพระไตรปิฎกฉบับประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา รวบรวมจาก 3 นิกายหลัก คือ เถรวาท มหายาน และวัชรยาน แปลเป็นภาษาอังกฤษ และภาษานานาชาติ ที่ชาวพุทธทั่วโลกใช้อ้างอิงและสามารถศึกษาหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เป็นสากลอีกด้วย,พระไตรปิฎกสากลเล่มนี้ ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า GUIDANCE AND INSIGHT FROM THE BUDDHA หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า พุทธโอวาทจากพุทธปัญญา ใช้ระยะจัดทำถึง 7 ปี มีเนื้อหาทั้งหมด 600 หน้า ผ่านการประชาพิจารณ์จากชาวพุทธและนักวิชาการทั่วโลกมากกว่า 6 ครั้ง กระทั่งออกมาเป็นเล่มพระไตรปิฎกฉบับสมบูรณ์ที่นักวิชาการพระพุทธศาสนาและชาวพุทธทั่วโลกรอคอย โดยมีเนื้อทั้งหมด 12 บท แบ่งเป็น เรื่องพระพุทธ 2 บท พระสงฆ์ 2 บท และพระธรรม 8 บท โดยจะเน้นให้ผู้อ่านได้รู้ว่า พระพุทธศาสนาสอนอะไร และจะเน้นเนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องของกรรมฐาน สติ ชีวิตและความตาย และเรื่องของกรรม ของแต่ละนิกาย ไม่มีการบิดเบือนเปลี่ยนแปลง ครั้งนี้ จัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษที่อ่านง่ายจำนวน 10,000 เล่ม เพื่อมอบให้แก่ชาวพุทธนานาชาติทั่วโลก จากนั้น จะดำเนินการแจกไปยังห้องสมุดมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาทั่วโลก รวมทั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำ ส่วนฉบับภาษาไทยจะจัดทำแล้วเสร็จในปี 2561 รวมถึงจะมีการจัดทำเผยแพร่บนเว็บไซต์ในอนาคตด้วย,พระพรหมบัณฑิต กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดงานวิสาขบูชา จะมีถึงวันที่ 8 พ.ค. นี้ ในเวลา 14.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จทรงเปิดงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2560 ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีสุนทรพจน์จากบุคคลสำคัญมาร่วมด้วย เช่น นายกรัฐมนตรี เลขาธิการศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กทม. เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เลขาธิการองค์การยูเนสโก เป็นต้น.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ฟุตบอลเจลีกหรือบอลลีกอาชีพของญี่ปุ่นในฤดูกาล 2018 นี้ ที่กำลังจะเปิดลีกในปลายเดือนนี้ จะเป็น เจลีก ที่แฟนบอลชาวไทยให้ความสนใจมากที่สุด

facebook.com/SCGMuangthongUnited,ฟุตบอลเจลีกหรือบอลลีกอาชีพของญี่ปุ่นในฤดูกาล 2018 นี้ ที่กำลังจะเปิดลีกในปลายเดือนนี้ จะเป็น ,เจลีก, ที่แฟนบอลชาวไทยให้ความสนใจมากที่สุด มากกว่า ครั้งไหนอย่างแน่นอน,นั่นย่อมเป็นผลพวงของการที่ เจลีก จะมีนักเตะไทยถึง 5 คน ในสนามไม่ว่าจะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา (ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา), ชนาธิป สรงกระสินธ์ (คอนซาโดเล ซัปโปโร), ธีราทร บุญมาทัน (วิสเซล โกเบ), จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ (เอฟซี โตเกียว) และ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ (เซเรซโซ โอซากา),ถือเป็นการพัฒนาของ เจลีก ที่มีผลโดยตรง ต่อคนไทยมากขึ้น,แน่นอนเมื่อพูดถึง การพัฒนา ย่อมไม่ได้หมายถึง มาตรฐาน ด้วย มาตรฐานของเจลีกที่มีมาก อยู่แล้ว คงไม่ได้มีส่วนที่จะยกระดับสูงขึ้นจากการมี นักเตะไทยไปร่วมลีก,ตรงกันข้าม นักเตะไทยจะมีโอกาสพัฒนาและ ยกระดับมาตรฐานของตัวเองให้สูงขึ้นก็จาก เจลีก ได้แน่นอน,แต่การพัฒนาของ เจลีก จากการมีนักเตะไทยไปลงสนามมากขึ้นเช่นนี้ ก็ย่อมเป็นการพัฒนาในด้าน ตลาด และมูลค่าทางธุรกิจ ที่จะสูงขึ้นตามไปโดยเฉพาะในเมืองไทยและภูมิภาคอาเซียน,ซึ่งนอกจากเรื่องของลิขสิทธิ์โดยตรงที่ทิศทางต้องสูงขึ้นแล้ว ธุรกิจแวดล้อมอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องก็ย่อม มีทิศทางที่สดใส คงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่ต่อไปจะมี การจัดทัวร์ชมฟุตบอลเจลีกมากขึ้น,นี่จึงเป็นการพัฒนาอีกขั้นของเจลีก,ขณะที่ลีกบ้านเรา หรือ ไทยลีก นอกจากการ ปรับโฉมภาพลักษณ์มาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ปรากฏ อย่างชัดเจนที่สุด เป็นการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ทางตา ซึ่งนานวันก็จะทำให้ลืมเลือนจากภาพเก่า,แต่มุมของการพัฒนา ที่หมายถึงทำให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมาตรฐาน หรือความนิยม รวมทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในอดีต อาทิ การตัดสิน หรือการสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อให้ทีมแข็งแรงอยู่ได้มากขึ้น,ลองดูว่ามันดีขึ้น หรือแย่ลง,ซึ่งผู้ที่จะตอบได้ดีที่สุดก็คือคนดู หรือแฟนบอล อันถือเป็นมุมมองที่อยู่แวดล้อมในภายนอก กับผู้ที่เกี่ยวข้อง และรับผลกระทบโดยตรงอย่างสโมสรต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่สโมสรยอดนิยมในลีก 1 แต่หมายถึงทีม ส่วนใหญ่ในครอบครัวฟุตบอลเมืองไทยในทุกระดับชั้น,ซ้ำร้ายเรื่องเดิมๆที่ว่าไปแล้วมีปัญหาอยู่น้อยทีมมาก อย่างปัญหาแฟนบอลตีกัน กลับแก้กันด้วยการใช้วิธีร้องขอไม่ให้แฟนบอลทั้งสองฝ่ายเข้าไปเชียร์ในสนาม แถมผู้คุมกฎก็ยังเห็นดีเห็นงามไปด้วย,นี่คือการพัฒนาสไตล์ไทยลีกหรืออย่างไร,เบี้ยหงาย

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

อุตสาหกรรมโบรกฯ ระส่ำ ชี้แข่งขันดุเดือดหลายปีต่อเนื่อง จัดโปรโมชั่นลดค่าคอมฯลง ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นไทยซบเซา กดมูลค่าการซื้อขายหุ้นหด โบรกฯเล็ก เริ่มเสนอขายกิจการหนีตาย เล็งหาพันธมิตรควบรวมเพื่อความอยู่รอด!!

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมบริษัทหลักทรัพย์เริ่มประสบปัญหา หลังจากที่มีบริษัทหลักทรัพย์รายใหม่ๆเข้ามาทำธุรกิจมากขึ้น ส่งผลให้มีการแข่งขันกันที่รุนแรงมากขึ้นตามไปด้วย ตรงกันข้ามกับภาวะตลาดหุ้นที่ยังคงซบเซาต่อเนื่อง ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันในปีนี้ลดลงไปมากเมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะภาวะตลาดไม่คึกคักเท่าที่ควร ทำให้บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งที่เป็นบริษัทขนาดเล็กและมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ไม่มากเตรียมขายกิจการ รวมทั้งมีการเจรจาเพื่อการควบรวมกิจการเพื่อรักษากิจการให้อยู่รอด โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ไม่มีธนาคารแม่ช่วยสนับสนุน และเป็นโบรกเกอร์ที่เน้นให้บริการลูกค้ารายย่อยซึ่งมีการแข่งขันกันสูง และรายย่อยขณะนี้ส่วนใหญ่เน้นการซื้อขายผ่านออนไลน์ หรืออินเตอร์เน็ต,นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรม การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์รุนแรงมาอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ปี 56 ที่ผ่านมา ซึ่งภาวะตลาดหุ้นคึกคัก มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นมาก ทำให้มีบริษัทหลักทรัพย์รายใหม่ทยอยเปิดตัวในตลาดมากถึง 6 ราย และทำให้มีการแย่งชิงบุคลากร เจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งกัน ขณะเดียวกัน ยังมีการแข่งขันกันลดค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิชชั่น) กันรุนแรง โดยเฉพาะบริษัทหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์ที่เน้นซื้อขายออนไลน์ เพราะนักลงทุนยังต้องการต้นทุนในการซื้อขายที่ถูก ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งเริ่มลงมาแย่งชิงลูกค้ารายย่อยมากขึ้น จากเดิมที่เน้นลูกค้าสถาบันและรายใหญ่เป็นหลักส่งผลให้ค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยของอุตสาหกรรมลดลงไปมากจากเฉลี่ย 0.18% ของมูลค่าการซื้อขายปรับลงมาเหลือ 0.13% เท่านั้น,ช่วงนี้ทำธุรกิจยากลำบาก เพราะจากในอดีตช่วงที่ตลาดหุ้นคึกคัก มูลค่าการซื้อขายสูงมากกว่า 40,000 ล้านบาทต่อวัน โบรกเกอร์จะมีรายได้ค่อนข้างมาก เพราะค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยของอุตสาหกรรมยังสูงอยู่ที่ 0.18% ของมูลค่าการซื้อขาย แต่ขณะนี้ค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยลงมาเหลือเพียง 0.13% เท่านั้น ขณะที่มีการแข่งขันกันแย่งชิงลูกค้ารุนแรงขึ้น ทำให้โบรกเกอร์รายเล็กจะอยู่ได้ลำบาก หากไม่ปรับตัวหรือเน้นเป็นโบรกเกอร์ที่มีจุดขายเฉพาะเจาะจง ทั้งการมีบทวิเคราะห์ที่ให้บริการลูกค้าที่ดี หรือโบรกเกอร์ที่เน้นราคา เน้นออนไลน์ แต่อาจไม่มีบทวิเคราะห์ที่ให้บริการลูกค้าที่ครอบคลุมเพียงพอ อย่างไรก็ตามแม้ภาวะตลาดจะกลับมาดีขึ้น แต่คงไม่สามารถสร้างรายได้ค่านายหน้าได้ดีเท่าเดิมอีกต่อไป โดยส่วนตัวเชื่อว่าการเข้าซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการจะช่วยเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจได้ โดยขณะนี้ในส่วนของบริษัทเองก็ยังมองหาโอกาสการเข้าซื้อกิจการเพื่อมาต่อยอดและสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัท,ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงภาวะตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ล่าสุด ซึ่งรวบรวมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ หรือสิ้นเดือน มี.ค.พบว่า ณ วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ มีจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งสิ้น 518 บริษัท (ไม่รวมหน่วยลงทุน) ขณะที่มีจำนวนหลักทรัพย์ทั้งสิ้น 1,709 หลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นจากสิ้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 ทั้งสิ้น 44 หลักทรัพย์ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม หรือ มาร์เกตแคปรวมทั้งสิ้น 13,407,065 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อน 5.6% และเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ตั้งแต่ต้นปี 2559 ที่ผ่านมา โดยในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มาร์เกตแคปของตลาดหุ้นไทยลดลง 15.6% ขณะที่ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มูลค่ามาร์เกตแคปลดลง 14.5% ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันทำการ ในเดือน มี.ค. อยู่ที่ 51,134 ล้านบาทต่อวัน,สำหรับตัวดัชนีตลาดหลักทรัพย์ สินเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1,407 .70 จุด ลดลง 6.5% ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน ซึ่งคิดจากเงินปันผล 12 เดือนของหุ้นสามัญ หารด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 3.38% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 3.36% อัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ หรือ พีอีเรโช สิ้นเดือน มี.ค. อยู่ที่ 20.65 เท่า ลดลงจากสิ้นไตรมาสที่ 4 หรือสิ้นปี 2558 ที่อยู่ที่ 22.57 เท่า,ขณะที่ในส่วนของผู้ลงทุนต่างประเทศ ยังคงมีสัดส่วนในตลาดหลักทรัพย์ไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของชาวต่างประเทศต่อการซื้อขายหลักทรัพย์รวมสิ้นเดือน มี.ค. ปีนี้อยู่ที่ 27.07% เพิ่มขึ้นจากสิ้นไตรมาสที่ 4 หรือสิ้นปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ 25.78%.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

SpaceX เปิดตัวเศรษฐีญี่ปุ่นซึ่งกำลังจะกลายเป็นนักท่องเที่ยวอวกาศคนแรกที่เหมาเที่ยวบินของยาน BFR เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวดวงจันทร์ในปี 2566 นี้

วันนี้ (18 ก.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า SpaceX เปิดตัว วัย 42 ปี เศรษฐีพันล้าน เจ้าของเว็บไซต์ขายปลีกรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นชื่อดังของญี่ปุ่นชื่อ ZOZO ซึ่งกำลังจะกลายเป็นนักท่องเที่ยวอวกาศคนแรกที่เหมาเที่ยวบินของยานBig Falcon Rocket (BFR) เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวดวงจันทร์ในปี 2566 นี้ภาพ : SpaceXมีรายงานว่า ยูซาคุ มาเอซาวา ซื้อเที่ยวบิน BFR เที่ยวนี้แบบเหมาลำ เนื่องจากต้องการเชิญศิลปินในด้านต่างๆ ขึ้นไปด้วย ทั้งนักร้อง นักวาดรูป ตากล้อง นักร้อง สถาปนิค นักออกแบบ และสาขาอื่นๆ จากทั่วทุกมุมโลกร่วมออกเดินทางในชื่อแคมเปญ Dear Moon โดยเป้าหมายพาศิลปินประมาณ 6-8 คน ไปเห็นดวงจันทร์ในมุมมองที่ต่างออกไปเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อกลับมาสร้างผลงานที่จะจุดประกายแรงบันดาลใจให้กับมวลมนุษยชาติภาพ : SpaceXภาพ : SpaceXภายในงานเปิดตัววันนี้ ผู้บริหารของ SpaceX ได้ออกมาพูดถึงยาน BFR ที่ปรับมาเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกที่งาน International Astronautical Congress ปี 2559 โดยในรอบนี้มีการปรับดีไซน์ภายนอก ทั้งปีกที่ควบกับขาลงจอดและการจัดเรียงเครื่องยนต์แบบใหม่ ส่วนรายละเอียดภายในนั้นยังไม่มีการเปิดเผยมาก แต่อีลอน มัสก์ ระบุว่า สำหรับภารกิจแรกนั้นจะมีการเพิ่มปริมาณของเชื้อเพลิง ออกซิเจน อาหารและน้ำสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินภาพ : SpaceXขณะนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของภารกิจอย่างชัดเจนว่าเส้นทางในภารกิจครั้งนี้เป็นอย่างไร แต่คาดการณ์ว่า ยูซาคุ มาเอซาวา และคณะจะกลายเป็นมนุษย์ที่เดินทางออกไปไกลจากโลกมากที่สุด ที่ระยะประมาณ 500000-600000 กิโลเมตรจากโลก มากกว่าที่ภารกิจอพอลโล 13 เคยทำไว้เมื่อปี 2513 ที่ระยะ 400171 กิโลเมตรภาพ : SpaceXทั้งนี้ ความพิเศษของเที่ยวบินนี้ คือ นอกจาก ยูซาคุ มาเอซาวา จะเป็นชาวต่างชาติคนแรกที่ได้เดินทางสู่ดวงจันทร์แล้ว เที่ยวบินนี้จะเป็นเที่ยวบินแรกที่พามนุษย์ธรรมดาที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับด้านดาราศาสตร์ออกเดินทางสู่อวกาศอีกด้วย โดยตามกำหนดในปัจจุบันของ SpaceX นั่นจะเกิดขึ้นในปี 2566 แต่ อีลอน มัสก์ไม่ได้ยืนยันว่าภารกิจนี้จะไม่ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อตัวภารกิจได้

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ ออกมาเปิดเผยว่า ทีมจะขาด ดาบิด ซิลบา ตัวรุกคนสำคัญในเกมบุกเยือน เดอะ แบ็กกีส์ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ในวันที่ 9 เมษายนนี้ หลังมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 เม.ย. ว่า เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเปิดเผยว่า ทีมจะขาด ดาบิด ซิลบา ตัวรุกคนสำคัญในเกมบุกเยือน เดอะ แบ็กกีส์ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ในวันที่ 9 เมษายน นี้ หลังมีอาการบาดเจ็บรบกวนบริเวณข้อเท้า,ดาวเตะชาวสเปนได้รับบาดเจ็บที่ข่าวเท้าจากเกมบุกไปเยือน ปารีส แซงต์แชร์กแมง 2-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยล่าสุด มานูเอล เปเยกรินี นายใหญ่ของทีมก็ยืนยันว่าจะไม่เสี่ยงส่งแข้งรายนี้ลงสนามในเกมลีกนัดต่อไปแน่นอนแล้ว,แน่นอนว่าซิลบาจะไม่ได้ลงเล่นเกมนี้ ส่วน แวงซองต์ กอมปานี ปราการหลังกัปตันทีม ก็ยังไม่หายเจ็บน่อง ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ยังเจ็บโคนขาหนีบไม่ฟิตลงเล่น กุนซือเรือใบกล่าว,พร้อมกันนี้มาร์ค วิลม็อตส์ โค้ชทีมชาติเบลเยียมแสดงความกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของ แวงซองต์ กอมปานี ที่มีเวลาพักฟื้นอีกเพียง 2 เดือนเท่านั้นก่อนที่ ศึกยูโร 2016 รอบสุดท้ายที่ประเทศฝรั่งเศสจะเปิดฉากขึ้น แต่ถึงอย่างไร เปเยกรินี ก็ไม่ได้กังวลถึงเรื่องนี้,ผมแค่มีความคิดเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บกอมปานี ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในทีม ดังนั้นเราจะเห็นว่าเขาจะเป็นยังไงในสัปดาห์หน้าและสัปดาห์อื่น ผมคิดบวกเสมอและไม่ได้กังวลอะไรมาก เปเยกรินี กล่าวเพิ่ม,แมนฯซิตี้จะไปแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้เพื่อเป้าหมายในการคว้าอันดับสี่ โดยมีเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่หวังจะคว้าโควต้า เพื่อไปลุยศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ไปครองเช่นกัน

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคตรวจยึดรถยนต์ในเต้นท์ขายรถมือสอง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พบรถยนต์ 6 คัน ไม่มีสมุดคู่มือประจำรถ ที่คาดว่าจะได้มาไม่ถูกต้อง

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคนำกำลังเข้าตรวจสอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 6 คัน ภายในเต้นท์ขายรถมือสอง สุเมธรถบ้าน บริเวณถนนสถิตย์นิมานกาล อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่มาเช่าซื้อรถ แต่เมื่อทำการผ่อนชำระเสร็จสิ้น ไม่สามารถขอโอนทะเบียนรถได้เนื่องจากไม่มีสมุดคู่มือประจำรถจากตรวจสอบพบว่า ชื่อเต้นท์รถดังกล่าวมีนายสุเมธ ไสยสมบัติ เป็นเจ้าของ แต่พบเพียงนายสุขุม ขุนโยธี แสดงตัวเป็นผู้จัดการเต้นท์รถ โดยอ้างว่าเป็นคนเก็บเอกสารประจำรถไว้ทั้งหมดจึงไม่สามารถนำมาแสดงเป็นหลักฐานได้เบื้องต้นตำรวจได้ยึดรถทั้งหมดไว้ตรวจสอบพร้อมกับควบคุมนายสุขุมไปสอบสวนเพิ่มและดำเนินคดีในข้อหาซื้อขายรถมือสองโดยไม่มีการแสดงฉลากอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และขายของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตำรวจคาดว่ารถทั้งหมด น่าจะเป็นรถที่ได้มาจากการรับจำนำจากบ่อนการพนันก่อนจะนำมาสวมทะเบียน เพื่อส่งขายตามเต้นท์รถอีกทอด

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

หนุ่มวัย 21 ปี เพิ่งได้งานเป็นหัวหน้างานที่โรงงานอัดก๊าซออกซิเจน เคราะห์ร้ายเดินตรวจความเรียบร้อย เอามือไปหมุนเกลียวข้อต่อขณะอัดก๊าซ เกิดแรงดันหัวเหล็กหลุดฟาดเข้าที่ใบหน้าและศีรษะ บาดเจ็บสาหัสไปตายที่รพ.

หนุ่มวัย 21 ปี เพิ่งได้งานเป็นหัวหน้างานที่โรงงานอัดก๊าซออกซิเจน เคราะห์ร้ายเดินตรวจความเรียบร้อย เอามือไปหมุนเกลียวข้อต่อขณะอัดก๊าซ เกิดแรงดันหัวเหล็กหลุดฟาดเข้าที่ใบหน้าและศีรษะ บาดเจ็บสาหัสไปตายที่ รพ.      ,เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 เม.ย. ร.ต.ท.ธวัช หนอสิงหา รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลระยองว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหัวแก๊สฟาดที่ใบหน้า อาการสาหัส มารักษาตัวและเสียชีวิต ขอให้ไปสอบสวนและร่วมชันสูตรศพด้วย,พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ชื่อนายวันชัย ถิ่นจันทร์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.6 ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง มีบาดแผลที่หน้าผากถึงศีรษะด้านขวาเป็นแผลลึกฉกรรจ์ มันสมองไหล จากการสอบสวน ทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นหัวหน้าคนงานอยู่ที่บริษัทก๊าซแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ต.เนินพระ อ.เมือง ระยอง เป็นบริษัท อัดก๊าซออกซิเจน ทางการแพทย์ และอุตสาหกรรม มีคนงานจำนวน 60 คน ผู้ตายเป็นหัวหน้าคนงาน เพิ่งเข้าทำงานเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา,ทั้งนี้ หลังเข้างานช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ผู้ตายเดินตรวจงาน และเอามือไปหมุนเกลียวข้อต่อถังขณะอัดก๊าซอยู่ ทำให้ข้อต่อถังที่เป็นหัวเหล็ก เกิดแรงดันหลุดออกมาฟาดเข้าที่ใบหน้าและศีรษะทำให้ล้มทั้งยืน คนงานเห็นจึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลระยอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ผอ.ของทีมงูใหญ่ออกปากด้วยตัวเองว่า ปิศาจแดงแสดงความสนใจคว้าตัว อิวาน เปริชิซ จริงตามข่าวลือ แต่ทีมดังแห่งอิตาลียังสงวนท่าทีเอาไว้ก่อน เพื่อรอการตัดสินใจของเฮดโค้ชคนใหม่ในเร็วๆ นี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 29 พ.ค.ว่า ปิเอโร ออซิลิโอ ผู้อำนวยการสโมสรอินเตอร์ มิลาน ยืนยันด้วยตัวเองว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจคว้าตัว อิวาน เปริชิซ จริงตามข่าวที่สื่อหลายสำนักนำเสนอไปก่อนหน้านี้,โดยมิดฟิลด์ริมเส้นชาวโครแอต ตกเป็นเป้าหมายในลำดับต้นๆ ของ โชเซ มูรินโญ ที่ต้องการคว้าตัวมาเสริมทัพปิศาจแดงให้มีความแข็งแกร่งขึ้นในตำแหน่งริมเส้น ซึ่งล่าสุด ผอ.สโมสรของทีมงูใหญ่ ได้ออกมาเผยด้วยตัวเองว่า กระแสข่าวที่ปิศาจแดงสนใจในตัว เปริชิซ เป็นเรื่องจริง แม้จะยังไม่มีข้อเสนออย่างเป็นทางการยื่นเข้ามาในขณะนี้ก็ตาม,ยูไนเต็ด ยังไม่ได้ยื่นข้อเสนอซื้อตัว เปริชิซ แต่พวกเขามีความสนใจจริง เรากำลังอยู่ในช่วงยกระดับทีม ซึ่งนั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวด้านตัวผู้เล่นในขณะนี้,เรารู้ดีว่านักเตะอย่าง เปริชิซ มีความสำคัญต่อทีมมากขนาดไหน และก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป เราต้องคิดถึงผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับทีมเสมอ ตอนนี้ อินเตอร์ฯ มีขุมกำลังดีมากๆ และอาจดีกว่าบางทีมที่จบในอันดับดีกว่าเราด้วยซ้ำ แต่ก่อนอื่นเราต้องดูก่อนว่าโค้ชคนใหม่ต้องการอะไรบ้าง เพื่อจะได้ดำเนินตามแผนงานที่ถูกต้อง,สำหรับ อินเตอร์ มิลาน เพิ่งเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นใหญ่จาก เอริก ธอเฮียร์ มหาเศรษฐีชาวอินโดนีเซีย ไปเป็นกลุ่มทุน ซุนหนิง ของจีน เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และกลุ่มทุนใหม่มีแผนที่จะยกระดับทีมให้ดีขึ้น เพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่ให้กลับมาอีกครั้ง.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ชาวบ้านแห่ลูบคลำ หวังโชคลาภ จากตะเคียนโบราณขนาดใหญ่ ที่จมแม่น้ำจันทบุรีอายุหลายร้อยปี หลังทำพิธีอัญเชิญไปไว้คู่กันที่วัดสระบาป ขณะรถเครนที่ใช้ยกขึ้นฝั่ง ให้เลข 2 ตัว งวดที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.61 ที่บริเวณไซต์ที่พักคนงาน โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำจันทบุรี พื้นที่ ม.2 ต.จันทนิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี ผู้นำชุมชนพร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ ได้ร่วมทำพิธีอัญเชิญต้นตะเคียนโบราณ ขนาดใหญ่ เพื่อทำการเคลื่อนย้ายไปเก็บรักษาไว้คู่กับวัด เพื่อให้ชุมชนได้ร่วมกันดูแล ตามความเชื่อตั้งแต่โบราณที่สืบทอดกันมา ,โดยต้นตะเคียนต้นนี้ เป็นต้นที่ 2 ที่ได้นำไปเก็บไว้คู่กับวัดสระบาป ต.คลองนารายณ์ อ.เมืองจันทบุรี ซึ่งลักษณะคล้ายเป็นส่วนโคนต้น มีสภาพสมบูรณ์แม้จมอยู่ในแม่น้ำจันทบุรี มีขนาดความยาว 5.78 เมตร รอบต้นประมาณ 2 เมตร น้ำหนัก 2.1 ตัน ที่ส่วนโคนพบลักษณะเป็นรอยลูกคลื่น คล้ายกับใช้ขวานโบราณจามเพื่อให้ตัดขาดจากโคนต้น โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา ระหว่างทำการก่อสร้างโครงการ ในแม่น้ำจันทบุรี ช่วงระหว่างกลางวัดจันทนาราม กับวัดโรมันคาทอลิค คนงานได้ใช้เครื่องจักร ทำการตอกเสาเข็มลงด้านล่าง แต่ไม่สามารถเจาะลงไปได้ จึงใช้รถแบ็กโฮ ทำการขุดสำรวจพื้นที่ด้านล่าง จนพบว่า มีต้นไม้ขนาดใหญ่จมอยู่ในลักษณะขนานติดกับฝั่ง หลังจากใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงนำขึ้นมาพ้นจากผิวน้ำ และพบว่าเป็นต้นตะเคียนโบราณ จึงได้ใช้รถเครนมายกขึ้นมาวางไว้บนฝั่ง พร้อมกับแจ้งผู้นำชุมชนให้เข้ามาตรวจสอบ นอกจากนี้ พื้นที่ระหว่างวัด ยังพบต้นตะเคียน ที่คาดว่าอายุจะรุ่นราวคราวเดียวกันอีกจำนวน 2 ท่อน เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3 เมตร และกว่า 2 เมตร ถูกคนงานนำขึ้นมาไว้บนฝั่งแล้วก่อนหน้า,จากการสอบถาม นายนพดล สายคงดี ผญบ.ม.2 ต.จันทนิมิต ก็ทราบว่า เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ระหว่างการก่อสร้างขุดเจาะตอกเสาเข็ม โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ริมแม่น้ำจันทบุรีแห่งนี้ ได้เจอต้นตะเคียนต้นแรก ในบริเวณใกล้กัน ห่างจากไซต์ที่พักคนงานไปไม่กี่เมตร ที่ขนาดใกล้เคียงกับต้นนี้แต่เล็กกว่าหน่อย ยาวประมาณ 5 เมตร น้ำหนัก 1.9 ตัน และหลังจากนั้นมา ก็เจอต้นตะเคียนอีก 2 ต้น,จนกระทั่งเมื่อบ่ายวานนี้ ก็มาเจอต้นล่าสุด ที่ใหญ่มากกว่าทุกต้นจากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ ก็พอสันนิษฐานได้ว่า ต้นตะเคียนโบราณชุดนี้น่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 300 ปี เพราะด้วยสมัยก่อนนั้น แม่น้ำจันทบุรี คือ แม่น้ำสายหลักในการสัญจร และการส่งสินค้าต่างๆ อีกทั้งเคยมีโรงไม้เก่าอยู่บริเวณริมแม่น้ำจันทบุรี ทำให้เชื่อได้ว่า ยังมีต้นตะเคียนอีกหลายต้นที่ยังอยู่ในน้ำ ,อย่างไรก็ตาม หลังการทราบข่าวของชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองนารายณ์ ถึงการนำต้นตะเคียนโบราณขนาดใหญ่ 2 ต้น มาไว้คู่กันที่วัดสระบาป จึงต่างพากันเดินทางออกมากราบไหว้ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ถึงที่มาของต้นตะเคียนที่จมอยู่ในแม่น้ำจันทบุรี และก็ไม่วายที่จะมองหาและขอโชคลาภ รวมไปถึงหมายเลขทะเบียน 81-1319 จันทบุรี รถบรรทุกที่ใช้เคลื่อนย้ายมาเก็บรักษายังวัดแห่งนี้ และรถเครนขนาดใหญ่ ที่ใช้ยกต้นตะเคียน 2 ต้น ขึ้นจากน้ำมาไว้บนฝั่ง หมายเลขทะเบียน 81-4610 จันทบุรี ที่ออกเลข 2 ตัว คือ 46 มาแล้ว ในงวดที่ผ่านมา.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตำรวจนครบาลโชคชัย คุมตัว น.ส.พิชามชุ์ พิบูลย์กิตติกุล หรือคุณไอ หรือฉายา น้องปีนป่าย ซึ่งก่อเหตุหลอกขายสินค้าในเฟซบุ๊กแล้วไม่ส่งของตามตกลงไว้ หลังมีผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อโอนเงินให้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุสร้างความน่าเชื่อถือในสื่อสังคมออนไลน์

วันนี้ (5 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจนครบาลโชคชัย ควบคุมตัว น.ส.พิชามชุ์ พิบูลย์กิตติกุล หรือคุณไอ หรือฉายา น้องปีนป่าย ที่รู้จักกันในสื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกหลอกให้โอนเงินในการซื้อสินค้า เช่น เครื่องเล่นไอแพด และบัตรคอนเสิร์ต แต่ น.ส.พิชามชุ์ กลับไม่ส่งของให้เบื้องต้น ตำรวจนครบาลโชคชัย คุมตัว น.ส.พิชามชุ์ ไว้รอพนักงานสอบสวนจากสถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ มารับตัวไปดำเนินคดีตามหมายจับข้อหาฉ้อโกง และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์สร้างภาพน่าเชื่อถือในสื่อสังคมออนไลน์ทั้งนี้ ข้อมูลการสืบสวน พบว่า น.ส.พิชามชุ์ สร้างภาพน่าเชื่อถือในสื่อสังคมออนไลน์ว่าทำงานเป็นพริตตี้ จนมีผู้ติดตามเฟซบุ๊กจำนวนมาก โดย น.ส.พิชามชุ์ มักจะโพสต์ขายสินค้าประเภทต่างๆ และเมื่อมีผู้โอนเงินสั่งซื้อ กลับไม่ส่งของให้ตามตกลง ทำให้มีผู้เสียหายหลายคน แจ้งความให้ดำเนินคดีกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายคนหนึ่ง ทราบว่า น.ส.พิชามชุ์ รับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จึงประสานให้ตำรวจนครบาลโชคชัย เข้าควบคุมตัวไว้สอบสวนเพื่อขยายผล

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

คอหวยนั่งยิ้ม ถือ ลอตเตอรี่ ถูกรางวัลไปขึ้นเงินที่แบงก์กรุงไทย เริ่ม 2 พ.ค. 63 และจะเริ่มทั่วประเทศ 2 มิ.ย.63 ยกเว้นรางวัลที่ 1 ต้องไปกองสลากเท่านั้น

คอหวยนั่งยิ้ม ถือ ลอตเตอรรี่ ถูกรางวัลไปขึ้นเงินที่แบงก์กรุงไทย เริ่ม 2 พ.ค. 63 และจะเริ่มทั่วประเทศ 2 มิ.ย.63 ยกเว้นรางวัลที่ 1 ต้องไปกองสลากเท่านั้นเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 63 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้รับความไว้วางใจจากนายพชร อนันตศิลป์ ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่งตั้งธนาคารเป็นตัวแทน ในการให้บริการรับขึ้นเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางสาขาธนาคารได้มีการลงนามบันทึกสัญญาให้บริการจ่ายเงินรางวัล ร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ถูกรางวัล ซึ่งธนาคารมีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งทรัพยากรบุคคล เครื่องมือที่ทันสมัย ระบบการทำงานที่รัดกุม และมีสาขากระจายในทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 1100 สาขา โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.63คนที่ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล นำสลากที่ถูกรางวัลพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน มาติดต่อที่สาขาของธนาคารกรุงไทยด้วยตนเอง ซึ่งสามารถขึ้นเงินรางวัลได้ทุกรางวัล ยกเว้นรางวัลที่ 1 ที่ต้องนำไปขึ้นกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ธนาคารจะจ่ายเงินรางวัลให้ในงวดปัจจุบันที่ออกรางวัล ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัลในงวดนั้น จนถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ออกรางวัลในงวดถัดไปทั้งนี้ ธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียม รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเพียง 1% และค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของมูลค่ารางวัล สำหรับสลากกินแบ่งรัฐบาล และคิดค่าธรรมเนียม 1% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 1% ของมูลค่ารางวัล ในส่วนของสลากการกุศล โดยค่าอากรแสตมป์และภาษี หัก ณ ที่จ่าย ธนาคารจะนำส่งให้กับสำนักงานสลากฯสำหรับ ผู้รับรางวัลสามารถเลือกรับเงินได้หลายรูปแบบ เช่น โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย บัญชีต่างธนาคาร หรือแคชเชียร์เช็ค โดยไม่ต้องจับเงินสด ซึ่งสะดวกและปลอดภัยมาก ลดการเดินทางไปสถานที่ชุมชน ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดทั้งนี้ ในเดือนแรก ธนาคารให้บริการเฉพาะสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร รวมประมาณ 300 สาขา และตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.63 เป็นต้นไป ธนาคารให้บริการรับขึ้นเงินรางวัลได้ทุกสาขาทั่วประเทศพ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ มีแนวนโยบายในการขยายช่องทางการขึ้นเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการขึ้นรางวัลมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยบรรเทาปัญหาการนำสลากปลอมมาขึ้นรางวัลด้วยโดย สาขาของธนาคารกรุงไทยมีศักยภาพ และมีความพร้อมในการตรวจสอบสลากด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และมีการจัดอบรมเจ้าหน้าที่เรื่องการให้บริการจ่ายรางวัลอย่างเคร่งครัดพ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวอีกว่า ผู้ที่ซื้อสลากงวดวันที่ 1 เม.ย.63 จึงขอให้เก็บรักษาสลากไว้อย่างดี เพื่อรอตรวจรางวัลในวันที่ 2 พ.ค. 63 หลังการออกรางวัลสามารถขึ้นเงินรางวัลได้ตามปกติที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และช่องทางธนาคารที่มีการรับขึ้นเงินรางวัล รวมทั้งที่สาขาของธนาคารกรุงไทย สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งนี้ วันออกรางวัลที่เลื่อนไปเป็น 2 พฤษภาคม 2563 ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในห้วงเวลา ณ ขณะนั้นด้วย หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป จะมีการประสานกับธนาคารกรุงไทยและธนาคารที่มีการรับขึ้นเงินรางวัลเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำองค์กรในจีน 28 องค์กร กล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการข่มเหงชาวอุยกูร์ ขณะที่จีนปฏิเสธ ชี้สหรัฐฯ ต้องการแทรกแซงกิจการภายใน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 8 ต.ค. 2562 ว่า สหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำองค์กรสัญชาติจีน 28 องค์กร ซึ่งรวมถึงหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยีด้านอุปกรณ์สอดแนม โดยกล่าวหาว่าองค์กรเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการข่มเหงรังแกชาวอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียง,องค์กรที่ถูกขึ้นบัญชีดำรวมไปถึงสำนักงานความมั่นคงสาธารณะประจำซินเจียง กับหน่วยงานรัฐที่ขนาดเล็กกว่าอีก 19 หน่วยงาน นอกจากนี้ยังมีบริษัทพาณิชย์อีก 8 บริษัท รวมถึง ฮิควิชัน (Hikvision), ต้าหัว เทคโนโลยี, เมกวี เทคโนโลยี (Megvii Technology) ซึ่งทั้งหมดเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า,กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า องค์กรเหล่านี้พัวพันกับการรณรงค์ของจีนในการปราบปราม, จับกุมครั้งใหญ่ตามอำเภอใจ และใช้เทคโนโลยีสอดแนมขั้นสูงกับชาวอุยกูร์, คาซัค และสมาชิกอื่นๆ ของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในจีน โดยองค์กรที่ถูกขึ้นบัญชีดำจะถูกห้ามไม่ให้ซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล,อย่างไรก็ตาม นายเกิ้ง ฉวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ อย่างรุนแรง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ปัญหาสิทธิมนุษยชน เกิดขึ้นตามที่สหรัฐฯ กล่าวอ้าง ข้อกล่าวหาพวกนี้เป็นเพียงข้ออ้างของสหรัฐฯ ที่ตั้งใจจะแทรกแซงกิจการภายในของจีนเท่านั้น,ทั้งนี้ จีนมีปฏิบัติการด้านความมั่นคงในซินเจียง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของประเทศมาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนและสหประชาชาติอ้างว่าจีนจับกุมตัวชาวอุยกูร์และสมาชิกชนกลุ่มน้อยอื่นๆ กว่า 1 ล้านคนไปรวมกันที่ค่ายกักกันขนาดใหญ่ เพื่อบังคับให้คนกลุ่มนี้ละทิ้งศาสนาอิสลาม, พูดแต่ภาษาจีนแมนดาริน และเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังรัฐบาลคอมมิวนิสต์,ขณะที่ฝ่ายจีนแย้งว่า คนกลุ่มนี้กำลังเข้าศูนย์ฝึกวิชาชีพ ซึ่งจะสร้างงานและช่วยให้พวกเขาผสมผสานเข้ากับสังคมจีนได้ เพื่อป้องกันการก่อการร้าย.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่จะต้องคัดเลือกศิลปินแขนงต่างๆ ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ มีสัญชาติไทย และมีผลงานเอกอุ เป็นที่ประจักษ์ใน 3 สาขา อันได้แก่ สาขาทัศนศิลป์ สาขาศิลปะการแสดง และสาขาวรรณศิลป์

อันได้แก่ สาขาทัศนศิลป์ สาขาศิลปะการแสดง และสาขาวรรณศิลป์ เข้ารับรางวัลศิลปินแห่งชาติในทุกๆปี,ซึ่งโดยปกติแล้ว ไทยเราจะถือว่าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันศิลปินแห่งชาติ และได้ประกาศเกียรติคุณนี้ ต่อเนื่องกันมาหลายสิบปี,นับจากปีแรกๆถึงปัจจุบัน ก็มีจำนวนทุกสาขารวมกันเป็นจำนวนหลายสิบท่านหรือร่วมร้อยท่าน,บางท่านก็ถึงแก่กรรมไปแล้ว คงเหลือแต่ผลงานที่เป็นอมตะแทนตัว,การเป็นศิลปินแห่งชาติในยุคแรกๆ การคัดเลือกค่อนข้างจะเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่ยอมรับได้สนิทใจ ส่วนปีที่ผ่านๆมา แม้จะมีเสียงค่อนขอดนินทาว่าอิงการเมือง พัวพันกับเฉดสีบ้าง,แต่โดยภาพรวม ก็พอจะเรียกขานได้ว่าเป็นศิลปินแห่งชาติในสาขานั้นๆ ส่วนใครจะเอกอุจริงหรือไม่ แฟนพันธุ์แท้ในแต่ละสาขาก็พอจะมองออก,ประจำปี 2561 เข้าใจว่าจะยังไม่ประกาศเป็นทางการ จะผิดฝาผิดตัวเหมือนบางปีหรือไม่ จะถูกกระแสการเมืองชักนำหรือไม่ คงต้องติดตาม,เพราะการเป็นศิลปินแห่งชาติในยุคนี้บางปีนั้น นอกจากจะมีฝีมือเป็นที่ยอมรับแล้ว ชื่อชั้น แนวคิดทางการเมืองต้องตรงกับผู้มีอำนาจบางรายด้วย,ก็คงต้องฝากให้คณะกรรมการคัดสรร ได้ทำหน้าที่อย่างสุจริตใจเที่ยงธรรม เพื่อศักดิ์ศรีของรางวัลนี้,มิฉะนั้นรางวัลศิลปินแห่งชาติก็จะตกต่ำ,เหมือนรางวัลคนดีที่บางสถาบันมอบให้เน็ตไอดอลบางรายในขณะนี้,สันติพงษ์ นาคประดา,แจ๋วริมจอ,jaewrimjor@gmail.com

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ชูเฮ โยโมดะ กุนซือทีมคอนซาโดเล ซัปโปโร ยอมรับ ตอนนี้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มีความสำคัญต่อทีมเป็นอย่างมาก

วันที่ 22 ก.ย. ความเคลื่อนไหวของสโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร ทีมอันดับที่ 14 ของตารางคะแนนเจลีกวัน 2017 ที่มีคิวลงเกมนัดถัดไปในการเปิดสนามซัปโปโรโดม สเตเดียม พบกับ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ทีมอันดับสุดท้ายของตารางคะแนน ในวันเสาร์ที่ 23 ก.ย. 60 เวลา 12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่องทรูโฟร์ยู 24 ซึ่งล่าสุดสโมสรได้ลงฝึกซ้อมตามปกติที่สนามมิยาโนซาวา สเตเดียม โดย ชูเฮ โยโมดะ ได้แบ่งทีมออกเป็นสองทีม ทบทวนแท็กติกที่จะใช้พบกับ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ โดยมีชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังคงอยู่ในแผนผู้เล่นตัวหลักของทีมต่อไป,ชูเฮ โยโมดะ กล่าวว่า จากการลงสนามของเขา (ชนาธิป สรงกระสินธ์) ใน 8 เกม สะท้อนให้เห็นว่า เขาคือผู้เล่นคนสำคัญของทีมในตอนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ของทีมถือว่ายังไม่ปลอดภัย จึงจำเป็นต้องมีนักเตะคุณภาพสูงอยู่ในแผนการเล่น ซึ่งชนาธิป เป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญในเกมรุกของทีมเป็นอย่างมาก และทีมต้องการเขาในการลงสนามต่อไป,สำหรับ คอนซาโดเล ซัปโปโร อยู่อันดับที่ 14 จากการมี 26 คะแนน มีคะแนนทิ้งห่าง เวนท์โฟเรต โคฟุ ทีมอันดับ 16 อยู่เพียง 5 คะแนนเท่านั้น โดยโปรแกรมการแข่งขันของเจวัน 2017 เหลือเพียง 8 นัดเท่านั้น.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

วันนี้ผมมาพูดในฐานะเพื่อน/สหายของสยาม ผมจะพูดถึงเขาในฐานะ มนุษย์คนหนึ่ง1.

วันนี้ผมมาพูดในฐานะเพื่อน/สหายของสยาม ผมจะพูดถึงเขาในฐานะ มนุษย์คนหนึ่งสยาม ธีรวุฒิ ชายอายุ 33 ปี ลูกชายของครอบครัวช่างซ่อมแอร์ย่านอ้อมน้อย เขาเรียนจบวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมรู้จักสยามช่วงปี 2552 หลังจากรัฐประหารปี 2549 ได้ 3 ปี และก่อนเหตุการณ์สังหารหมู่คนเสื้อแดงในปี 2553 ไม่ถึงปี โดยการแนะนำของน้องๆ ที่ทำกิจกรรมทางสังคมในรามคำแหงภาพแรกที่เห็นคือ เขาขี้อาย ไม่ค่อยพูด บางครั้งพอเขาพูด เพื่อนก็จะขำ เพราะคิดว่าคำถามของเขาดูแปลกหลังจากปี 52 สยามก็เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในฐานะคนร่วมจัดงาน ยกเก้าอี้ คนนำเสนอการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในขณะนั้นๆ และล่าสุดก็คือนักแสดงละครในกลุ่มประกายไฟการละครมีเรื่องที่พวกเรารู้กันเสมอเกี่ยวกับสยามคือเขาจะมาร่วมกิจกรรมกับพวกเราได้ก็ต่อเมื่อว่างจากงานช่วยครอบครัวซ่อมแอร์ บางทีเขาก็บอกเราว่า แน่ล่ะ สยามมีพ่อและแม่ ไม่ต่างจากเราทุกคนภายหลังจากรัฐประหารปี 2557 นักกิจกรรมหลายคนถูกเรียกไปรายงานตัวและระบุความผิด ผมและหลายคนถูกเรียกไปในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม พวกเขาถามเราว่าเราอยู่ตรงไหนใน ทำไมผมมีรูปถ่ายกับคนนั้นคนนี้ ฯลฯเรื่องราวหนึ่งในระหว่างการสอบสวนพวกเรา เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผมซึ่งแก่ที่สุดในกลุ่มประกายไฟเป็นคนเขียนบทละครเจ้าสาวหมาป่า แน่นอนว่าผมปฏิเสธ เพราะผมไม่มีความสามารถนั้นแน่ๆที่สำคัญ ผู้มีอำนาจยังได้ถามถึงสยามและสมาชิกคนอื่นๆ ของประกายไฟการละคร ผมและเพื่อนตระหนักแน่ชัดระหว่างที่นอนในค่ายทหารว่าสยามคงจะโดนคดีแน่นอนภายหลังจากออกจากค่ายทหาร ผมฝากเพื่อนไปบอกสยามว่าเขาน่าจะมีโอกาสโดนจับกุมหลังจากนั้นผมก็ทราบว่าเขาหนีไป เขาหนีไปแบบที่หลายคนหนีไปหลังการรัฐประหาร บางคนหนีสำเร็จ บางคนถูกจับเข้าคุกในระหว่างที่เขาหนีไป ผมรู้มาว่าเขาลำบากมาก ทั้งการปรับตัวและความเป็นอยู่ เขาไม่มีใครสนับสนุน นอกจากเงินเล็กน้อยที่ผมเดาว่า มีคนส่งให้เขาในนามของการบริจาคช่วยเพื่อน ไม่มีองค์กรระหว่างประเทศใดๆ เข้าไปช่วยให้เขาไปประเทศที่ 3 ได้อย่างปลอดภัยนี่ยังไม่นับว่าพ่อและแม่ของเขาโดนคุกคามอยู่ตลอดเวลา จากกลุ่มคนที่คุณก็รู้ว่าใครแน่ล่ะ คนที่จับกุมและทำร้ายเขาคงรู้ดีสยามไม่ได้อยากหายไป ไม่ได้อยากหนี ทำไมสยามไม่สู้คดีเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ผิดผมคงไม่ต้องสาธยายมากนักว่าทำไม เพราะไม่เคยมีใครถูกพิสูจน์ ถูก จากคดีทำนองนี้ เพราะผู้มีอำนาจตัดสินไปแล้วว่าพวกเขาผิดและเป็นภัย และพวกเขาไม่ใช่คนไทยผมนึกสงสัยมากๆ ว่า เพราะเหตุใดลูกชายของช่างแอร์ที่ตลก เศร้า รัก และมีความฝัน ถึงต้องจบลงแบบนี้สังคมที่ดีคือสังคมที่ทำให้เรามีความฝันได้ สังคมที่จะมีความฝันได้มันต้องเป็นสังคมที่มีเสรีภาพ เสรีภาพที่จะมีชีวิตและเสรีภาพที่จะพูด รวมถึงเสรีภาพที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมให้สอดคล้องไปกับความฝันความฝัน จึงสะท้อน 2 สิ่ง1) สังคมที่ดำรงอยู่ไม่ดีพอ มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นความอยุติธรรม ความเหลื่อมล้ำ และความรุนแรง2) สังคมที่ดีกว่าคือทางแก้หนึ่ง ซึ่งก็มีได้หลายความใฝ่ฝันพร้อมๆ กันได้เสมอผมมารู้ว่าสยามมีบทบาทในการจัดรายการวิทยุร่วมกับผู้ลี้ภัยอีกสองสามคน ก็เมื่อเห็นข่าวการหายตัวไปของพวกเขาไม่ว่าผู้มีอำนาจจะมองเขาอย่างไร ผมก็รู้ว่าเขาคือสยามที่ผมรู้จักเมื่อกว่าสิบปีที่แล้วการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและความฝัน สัมพันธ์กับความเปลี่ยนแปลงของสังคมไม่ทางใดทางหนึ่งเสมอ และความเปลี่ยนแปลงก็คือเงื่อนไขของการดำรงอยู่ของสังคมหนึ่งๆ ด้วยการปฏิเสธความเปลี่ยนแปลงก็คือหัวใจของระบอบเผด็จการและการกดทับเบียดขับการมีชีวิตและเสรีภาพของสมาชิกในสังคมในทางรัฐศาสตร์ หากสังคมใดไม่สามารถอดทน ไม่สามารถปรับตัว หรือไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่มาจากสมาชิกของสังคม มันก็สะท้อนความป่วยอันเกิดจากความไม่ยืดหยุ่นและไร้สมรรถนะในการจัดการกับความแตกต่างและความขัดแย้ง ซึ่งควรจะถูกมองเป็นเรื่องปกติของการอยู่ร่วมกันการหาความจริงว่าสยามอยู่ที่ไหน ใครทำให้เขาหายไป และทำไมพวกเขาถึงต้องทำให้สยามหายไป ก็คือ จุดเริ่มต้นของการแก้ไขอาการป่วยไข้ปางตายของสังคมไทยเราทุกคนคือสยาม คือสโลแกนที่สะท้อนความจริงอย่างถึงรากที่สุด เราคือสยาม เราเคยเป็นสยาม และเราจะกลายเป็นสยามในที่สุดมาร่วมแก้ไขความป่วยไข้/ล้างพิษของสังคมนี้ด้วยการตามหาสยามกันเถอะด้วยความสมานฉันท์ บทความนีี้เป็นสคริปต์ที่ใช้พูดในงาน De-Talk : ล้างพิษรัฐประหาร ทวงคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน จัดโดยโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง เครือข่ายนักปฏิบัติการเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน และ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่7 กรกฎาคม 2562 เวลา 13.00-17.00 น.ณ ห้องประชุมริมน้ำ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ค่ายอีตั้น กรุ๊ป ผู้นำอันดับหนึ่งแห่งยุทธจักรรถนำเข้าอิสระสำหรับครอบครัวและผู้บริหาร โดยเฉพาะรถเอ็มพีวีสายพันธุ์ญี่ปุ่น ได้รัวกลองรบรุกสนั่นช่วงเทศกาลตรุษจีน

ตะลุ่งตุ้งแช่ ตะลุ่งตุ้งแช่,ค่ายอีตั้น กรุ๊ป ผู้นำอันดับหนึ่งแห่งยุทธจักรรถนำเข้าอิสระสำหรับครอบครัวและผู้บริหาร โดยเฉพาะรถเอ็มพีวีสายพันธุ์ญี่ปุ่น บริหารงานโดย เสี่ยต๊ะ-พีรศุษม์ ตันติยันกุล กรรมการผู้จัดการ และ คุณรีย์-อัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด,ได้รัวกลองรบรุกสนั่นช่วงเทศกาลตรุษจีน,เพราะเห็นว่าทุกช่วงตรุษจีน กำลังซื้อรถจะมีความคึกคัก โดยเฉพาะรถเอ็มพีวีสำหรับครอบครัวและผู้บริหารที่ตลาดมีความ ต้องการสูงอย่างมากในช่วงนี้,ค่ายอีตั้น กรุ๊ป ในฐานะหนึ่งในเอตทัคคะของตลาดรถนำเข้าสำหรับครอบครัวและผู้บริหาร จึงได้จัดทัพรถนำเข้ากว่า 100 คัน,พร้อมแจกอั่งเปา คูณสองฉลองตรุษจีน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 25 ก.พ.นี้,ด้วยแคมเปญฉลองตรุษจีนปีหมูทอง แจกจี้หมูทองทุกคันที่จอง พร้อมเลือกรับสิทธิพิเศษตามความพึงพอใจในการเลือกซื้อ ดังนี้,สิทธิ์ที่ 1 จองรถทุกรุ่น ทุกคัน รับฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อมเลือกรับเพิ่มอีก คือ 1.ตรวจเช็กรถยนต์ฟรี 21 รายการตลอดอายุการใช้งาน 2.ผ่อนนาน 72 งวด และ 3.แลกรถเก่า เพิ่มให้อีก 20,000 บาท,สิทธิ์ที่ 2 รับจี้มงคลปีกุนทองคำแท้เสริมดวงเฮง รับทรัพย์ตลอดปีสำหรับรถทุกคัน,โดยในแคมเปญ คูณสองฉลองตรุษจีน ค่ายอีตั้น กรุ๊ป ได้จัดทัพรถนำเข้าหลากหลายรุ่น หลากหลายการใช้งาน,ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ยอดฮิตสุดร้อนแรงอย่าง อัลพาร์ดใหม่ เวลไฟร์ใหม่ พร้อมออป-ชันให้เลือกตามความสะดวกในการใช้งานและราคาโดนใจ เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่และผู้บริหาร,สำหรับครอบครัวขนาดกะทัดรัด ชอบความคล่องตัว แต่มีเทคโนโลยีในการใช้งานที่ทันสมัย ค่ายอีตั้น กรุ๊ป ได้จัดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางให้เลือกหลากหลาย อาทิ เซเรน่า ว็อกซี่ เอสไควร์,หรือรถเอสยูวีหรู รูปทรงปราดเปรียวด้วยสีพิเศษสะดุดตาอย่าง แฮริเออร์ พรีเมียม สไตล์ แอช และยังมีรุ่นอื่นๆอีกมากมายให้จับจองและรับรถได้ทันที,เสี่ยต๊ะย้ำว่าในปีนี้ ค่ายอีตั้น กรุ๊ป ซึ่งปัจจุบันมี 4 สาขา คือ สำนักงานใหญ่ศรีนครินทร์, สาขารัชดา, สาขาเชียงใหม่ และสาขาขอนแก่น พร้อมรุกเข้มเต็มสูบ,ตอกย้ำสโลแกน ถ้านึกถึงรถเอ็มพีวีนำเข้า ต้องนึกถึงเรา,ชูจุดขายการสร้างความอุ่นใจแก่ลูกค้า ด้วยศูนย์บริการมาตรฐานที่ดำเนินงานมากว่า 24 ปี โดยมีเครื่องมือทันสมัย อีกทั้งช่างผู้ชำนาญ-การซึ่งพร้อมที่จะดูแลและให้คำปรึกษาคุณตลอดการใช้งาน,อัลคาโปน,motorwars@thairath.co.th

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ก.อุตสาหกรรม ย้ำไทย เป็นฐานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า มุ่งสู่สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต ขณะพานาโซนิค ย้ายฐานการผลิต เป็นเพียง 2 จาก 18 โรงงาน ยันไม่เกี่ยวข้องความเชื่อมั่นลงทุนในไทย

ก.อุตสาหกรรม ย้ำไทย เป็นฐานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า มุ่งสู่ สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ ในอนาคต ขณะ พานาโซนิค ย้ายฐานการผลิต เป็นเพียง 2 จาก 18 โรงงาน ยันไม่เกี่ยวข้องความเชื่อมั่นลงทุนในไทยวันที่ 28 พ.ค. 2563 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นัดหารือร่วมภาครัฐ ภาคเอกชน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมียอดการส่งออกมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท มีการจ้างแรงงานกว่า 1 ล้านคน รวมถึงยอดขอตั้งประกอบโรงงานใหม่ และขยายกิจการโรงงานประเภทไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเทียบ 5 เดือนแรกของปี 62 กับปี 63 พบว่าเพิ่มขึ้นจาก 43 โรงงาน เป็น 53 โรงงาน และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น จาก 9372 คน เป็น 29064 คน จากการสอบถามนักลงทุนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นักลงทุนชื่นชมการรับมือรัฐบาลไทย สามารถรับมือกับโควิด ได้ดี ส่งผลเอื้อประโยชน์ให้ภาคอุตสาหกรรมกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า มียอดการส่งออกเพิ่มมากขึ้น 5-10%นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนที่ทำธุรกิจภายในประเทศอยู่แล้ว มีแผนจะขยายการลงทุนภายในปีนี้เพิ่มขึ้น อาทิ ซัมซุง มิตซูบิชิ โตชิบา ซีเกต ไซโจเด็นกิ เป็นต้น ส่วนกิจการที่มีการย้ายฐานการผลิตนั้น การตรวจสอบพบว่า เป็นการปรับแผนทางธุรกิจที่วางไว้เดิมอยู่แล้วนายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของยอดคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากครึ่งหลังของปี 2562 โดย 5 เดือนแรกของปี 2563 มียอดคำขอ 62 โครงการ มูลค่ากว่า 26764 ล้านบาท ประกอบด้วยอุตสาหกรรมประเภทอุปกรณ์ไฟฟ้า ในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบสมาร์ท เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น หมวดผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น วงจรรวม หรือ IC (Integrated Circuit) และแผงวงจรพิมพ์ หรือ PCBA เซลล์แสงอาทิตย์ และสัดส่วนของนักลงทุนที่เข้ามาดำเนินการขอฯ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา และสวีเดน เป็นต้นทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนใหญ่ยังยืนยัน ยึดไทยเป็นฐานการผลิต และมีแนวโน้มที่จะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะอุตสาหกรรม ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ด้านผู้บริหารกลุ่มพานาโซนิค ยืนยันว่า การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเวียดนาม นั้น ไม่ได้มีผลเกี่ยวเนื่องกับความเชื่อมั่นการลงทุนในไทย เนื่องจากพานาโซนิค เปิดโรงงานในไทยทั้งสิ้น 20 โรงงาน และย้ายฐานการลงทุนไปเพียง 2 แห่ง ซึ่งเป็นกลุ่มกิจการที่มีเทคโนโลยีแบบเก่า ไม่ได้ใช้งานในประเทศไทยแล้ว และยังเหลือบริษัทในประเทศไทยอีก 18 แห่ง โดยยังคงมีการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ตกเป็นข่าวเล็งคว้าตัว เนเวน ซูโบติช กองหลังของทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 10 มี.ค. ว่า ปืนใหญ่ อาร์เซนอล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวให้ความสนใจที่จะคว้า เนเวน ซูโบติช กองหลังทีมชาติเซอร์เบียของ เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน มาเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้,สำหรับ ซูโบติช วัย 26 ปี ย้ายมาร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อปี 2008 และจะหมดสัญญากับต้นสังกัดในปี 2016 ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมปืนใหญ่ เตรียมดึงปราการหลังเซอร์เบีย มายังถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม ในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อมาแทนที่ แพร์ เมอร์เตซัคเกอร์ ที่มีข่าวว่าจะโดนโละออกจากทีมหลังจบซีซั่นนี้,รายงานระบุว่า อาร์เซนอล ล้มแผนที่จะคว้าเพื่อนร่วมทีมของ ซูโบติช อย่าง มัตส์ ฮุมเมลส์ เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีค่าตัวที่สูงเกินไป และมีคู่แข่งในการแย่งชิงตัวดาวเตะทีมชาติเยอรมันหลายทีม จึงหันมาล่า ซูโบติช แทน,ทั้งนี้ ซูโบติช ประสบปัญหามีอาการบาดเจ็บ ทำให้ฤดูกาลที่แล้ว ลงเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ ไปเพียง 10 นัดเท่านั้น 

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ชิปปี้ ศิรินทร์ ดีใจละคร สุดแค้นแสนรัก กระแสดีมากทำให้มีคนรู้จักเพิ่มขึ้น เผยมีงานติดต่อมาเรื่อยๆ แต่ให้ ผจก.ส่วนตัวดูให้ตามความเหมาะสม รับสนิทอองตวนที่สุดแต่ยังกั๊กแฟน กังวลคนจับตามองความสัมพันธ์บ้างหลังเริ่มมีชื่อเสียง

กลายเป็นนางเอกคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงอีกคนสำหรับ ชิปปี้ ศิรินทร์ ปรีดียานนท์ ที่แจ้งเกิดเต็มๆ จากบท หทัยรัตน์ ในละครฮอตฮิต สุดแค้นแสนรัก ทางช่อง 3 ส่วนเรื่องหัวใจก็แว่วว่ามีหนุ่มคนสนิท อองตวน ปินโต มาดูแลแล้ว เรียกว่างานรุ่งรักแฮปปี้ว่างั้นเถอะ เจอตัวชิปปี้มาร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอลแคนนอนใหม่ Canon High Resolution Image ที่ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรม The Okura Prestige Bangkok เลยอัพเดตทุกเรื่อง,หลังจากจบละคร สุดแค้นแสนรัก เรามีชื่อเสียงมากขึ้น? ก็ดีใจค่ะ ตอนแรกเราไม่ได้คาดหวังว่าละครจะบูมขนาดนี้ พอคนดูชอบและสนับสนุนเราก็ดีใจค่ะ เห็นว่ามีงานเข้ามาด้วย? ใช่ค่ะ ก็มีเรื่อยๆ ด้วยความที่ตอนนี้ปิดเทอมอยู่ก็สามารถรับงานได้มากขึ้นกว่าตอนเปิดเทอม และก็มีถ่ายละครเรื่อง แรงตะวัน ด้วยค่ะ อีเวนต์ก็มีเรื่อยๆ ค่ะ แล้วแต่ผู้จัดการจะดูให้ค่ะ เรามีส่วนร่วมในการเลือกงานไหม? อันนี้ส่วนใหญ่ผู้จัดการจะดูตามความเหมาะสมค่ะ ต้องอัพค่าตัวเพิ่มไหม? อันนี้ไม่ทราบมากเท่าไหร่ค่ะ งานส่วนใหญ่ที่เข้ามาเป็นแบบไหน? ก็มีทั้งงานเดี่ยวและงานคู่ด้วยค่ะ หนูก็ไม่เกี่ยงค่ะ คนเดียวก็ได้ แต่ถ้าไปกับพี่เพื่อนเราก็เหมือนมีเพื่อนก็สนุกค่ะ ช่วงนี้เราถูกจับตามากขึ้น? ก็ต้องวางตัวมากขึ้นค่ะ คือก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมายค่ะ แต่พอรู้ว่ามีคนจับตามากขึ้นเราก็ต้องวางตัวมากขึ้นค่ะ ตกใจไหมที่มีชื่อเสียงขึ้นภายในเวลารวดเร็ว? ก็ไม่ตกใจมากค่ะ ก็ชินมาในระดับนึงแล้วค่ะ,เรายังพูดไทยไม่ชัด เราต้องหัดต่อไปไหม? ค่ะ ก็อย่างตอนที่จะเปิดกล้องสุดแค้นแสนรักตอนแรกก็มีไปเรียนภาษาไทย เรียนร้องเพลงเพิ่มค่ะ ตอนนี้ก็มีละครเรื่องแรงตะวันและอีกเรื่องหนึ่ง ต้องรอดูคิวเรียนด้วย เพราะต้องเรียนและถ่ายละครไปด้วยค่ะ เรื่องการแสดงต้องเรียนเพิ่มไหม? ก็ในความคิดของหนูคือ ถ้าเกิดหนูได้รับเรื่องใหม่ หนูก็อยากไปเรียนสักนิดนึง เพราะเหมือนพอรับเรื่องใหม่ มันก็เป็นตัวละครใหม่ ซึ่งเราไม่ชินค่ะ คือเรียนนิดนึงมันน่าจะดีกว่าค่ะ พี่ๆ ช่วยสอนเรื่องการแสดงไหม? ส่วนใหญ่จะเรียนกับคุณครูมากกว่าค่ะ อย่างเวลาเราถ่ายละคร รุ่นพี่หรือผู้ใหญ่ที่เป็นนักแสดงมาก่อนเขาก็จะสอนบ้าง แนะนำบ้างค่ะ เราเซ็นสัญญากับช่องกี่ปี? เซ็นไว้ 3 ปีค่ะ เซ็นมาได้สักพักแล้วตั้งแต่เล่นเรื่องซิกซ์เซ้นส์ค่ะ ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าสัญญาหมดเมื่อไหร่ค่ะ แต่น่าจะเหลือประมาณปีนึงค่ะ ถ้าผู้ใหญ่เรียกต่อสัญญาจะต่อไหม? ก็ยินดีจะต่อค่ะ ด้วยความที่หนูเล่นเรื่องแรกก็มาจากช่อง 3 ค่ะ,ถามถึงความรักกับอองตวน? ชิปกับพี่อองตวนก็สนิทกันมานานมาก รู้จักกันมา 4-5 ปีแล้วค่ะ ก็สนิทกัน คนเห็นไปไหนด้วยกันบ่อยเลยจับตาความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนรึเปล่า? คือปกติพี่อองตวนเขาอยู่บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งช่วงนี้เรามีโอกาสไปไหนมาไหนกับเขาบ่อยขึ้น เพราะเขาจะมาเปิดค่ายมวยที่กรุงเทพฯ ฉะนั้นเขาก็มาดูงาน ด้วยความที่สนิทกับเขาอยู่แล้ว เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันปกติค่ะ สถานะเรียกว่าเป็นคนรู้ใจได้ไหม? อืม หนูกับพี่อองตวนด้วยความที่สนิทกันมานานแล้ว เราก็ไม่ได้เรียกว่าแฟนหรืออะไร แต่ก็ดูแลกันไป ให้คำปรึกษากันไปค่ะ กังวลไหมพอเราเริ่มดัง คนก็จับตามองเรื่องเรา? ก็นิดนึงค่ะ เพราะเหมือนเรายังไม่ได้โตมากในระดับนึง แล้วเรายังใหม่ในวงการด้วย จะพูดจะทำอะไรก็ต้องนึกถึงผู้ใหญ่กับพ่อแม่ที่บ้านด้วยค่ะ,คนมองว่าเรากับอองตวนเป็นแฟนกันแล้ว? หนูคิดว่าเพราะภาพในไอจีเราสองคนด้วย หนูเป็นคนขี้เล่น พี่อองตวนก็เป็นคนขี้เล่น บางครั้งเขาลงแคปชั่นอะไรตลกๆ เราก็ไม่ได้ออกมาพูดว่าเราเป็นอะไรกัน คนดูก็เลยคิดว่าเฮ้ย ต้องเป็นแฟนกันแน่ๆ เลย แต่อย่างที่บอกค่ะว่าเราสนิทกันก็ไม่ได้ปิดบัง แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้เรียกว่าแฟน แต่ว่าในอนาคตถ้าเกิดว่าเราพร้อมเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที เขามีท่าทีจีบบ้างไหม? อืมไม่ได้จีบแบบนั้นนะคะ ด้วยความที่เขาโตกว่า เขาเป็นรุ่นพี่ เขาก็จะให้คำปรึกษาเรา สนิทกับเรา ก็คุยกันได้ทุกเรื่องค่ะ เขายังไม่ได้มาขอคบเป็นแฟน? อืม ยังนะคะ เห็นลงรูปเรากับครอบครัวอองตวน แล้วเขียนข้อความว่า Pintos Family? อ๋อ ใช่ เพราะมีอองตวนกับลีโอค่ะ หลายคนมองว่าเราอยู่ในครอบครัวเขาแล้ว? อ๋อ ไม่ๆๆ คือหมายความว่าเป็นครอบครัวสองพี่น้องนะคะ (หัวเราะ) คือสนิททั้งอองตวนและลีโอด้วยค่ะ ตอนนี้ยังโสด? ยังโสดอยู่ค่ะ สเปกเราเป็นยังไง? หนูชอบคนที่รักครอบครัว คนที่เข้าใจเราได้ คือเราไม่ได้มีสเปกตายตัวว่าเราจะต้องคบกับผู้ชายแบบนี้ๆ สำหรับหนูคือคนไหนที่สามารถเข้ากับเราได้แล้วมันโอเคก็โอเคค่ะ แต่กับอองตวนเป็นคนที่เราสนิทที่สุด? ก็ค่ะ (หัวเราะ).

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ตร.ร่วมทหาร บุกจับชาย อ้างตัวเป็น เสธ.อัต ภายในบ้านที่หัวหิน หลอกเหยื่อ 3 ราย สามารถฝากเข้าทำงานเป็นทหารในสังกัดมหาดเล็กรักษาพระองค์ฯได้ เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินกว่า 1.6 ล้านบาท ตร.แจ้งข้อหาหนัก

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2559 พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจปราบปราม ได้มอบหมายให้ ร.ต.ท.สนั่น สีปาน รอง.สว.(ป) กองบังคับการ 4 กองบังคับการตำรวจปราบปราม นำหมายศาลมณฑลทหารบกที่ 15 จังหวัดเพชรบุรี เข้าตรวจสอบ คดีแอบอ้างเบื้องสูง โดยสนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลโลยี, จ.ส.อ.สมพร หงษ์ทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพื้นที่หัวหิน ค่ายธนะรัชต์ และตำรวจน้ำปราณบุรี พร้อมกำลังกว่า 20 นาย บุกตรวจค้น บ้านเลขที่ 42/38 ซอย 6 ชุมชนบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังสืบทราบว่า ใช้เป็นสถานที่ในการก่อเหตุ กระทำการแอบอ้างเบื้องสูง และผู้ก่อเหตุยังแอบอ้างว่า ชื่อ เสธ.อัต หรือ ผู้กองอัต โดยได้กระจายกำลังเข้าตรวจค้น ก่อนเข้าควบคุมตัว นายจรินทร์ หรือ วิธวิทย์ รัตนวิจิตร์ ชาว จ.เพชรบุรี,จากการตรวจสอบภายในบ้านพัก พบอาวุธปืนสั้นบีบีกัน 1 กระบอก อยู่ในตู้เสื้อผ้า และยังพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะชุดใหญ่ เราท์เตอร์อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ตั้งอยู่ข้างเตียงนอน นอกจากนี้ยังตรวจพบ วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง, สมุดบัญชีเงินฝาก ธนาคาร 3 เล่มเป็นชื่อภรรยา และน้องสาว, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ อีก 5 เครื่อง, บารากู่, โพยแทงพนันออนไลน์, บุหรี่ไฟฟ้า ตลอดจนเอกสารต่างๆอีกหลายรายการ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแอบอ้างเบื้องสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อายัดหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบ หาผู้ร่วมขบวนการ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน,ร.ต.ท.สนั่น สีปาน รอง.สว.(ป)กองบังคับการ 4 กองบังคับการตำรวจปราบปราม ระบุว่า ในเบื้องต้น นายจรินทร์ หรือวิธวิทย์ รัตนวิจิตร์ ถูกดำเนินคดีในความผิดซึ่งหน้า ใน 3 ประเด็นคือ มีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ครอบครองยาเสพติดบารากู่ และมีโพยแทงพนันออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีความผิดในข้อหา ผิด พรบ.คอมพิวเตอร์, ข้อหากรรโชกทรัพย์ และข้อหาแอบอ้างเบื้องสูง(ป.อาญา ม.112),ทั้งนี้ ทางตำรวจสอบสวนกลาง จะส่งเรื่องให้ทางตำรวจภูธรภาค 7 ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการแอบอ้างเบื้องสูง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญผู้เสียหาย 3 ราย ที่ถูกนายจรินทร์ หรือ นายวิธวิทย์ แอบอ้างว่าเป็นเสธอัต หรือผู้กองอัต หลอกให้โอนเงิน กว่า 1 ล้าน 6 แสนบาท โดยอ้างว่า สามารถฝากเข้าทำงานเป็นทหารในสังกัดมหาดเล็กรักษาพระองค์ฯได้ โดยใช้คอมพิวเตอร์ในการติดต่อกับผู้ตกเป็นเหยื่อ นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายอีก 1 ราย ที่ถูกแอบอ้างชื่อ และรูปถ่าย จนก่อให้เกิดความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งนี้ หลังจากผู้เสียหายมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ก็จะทำการออกหมายจับในคดีแอบอ้างเบื้องสูงต่อไป.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

กางปฏิทิน วันหยุดเดือนกรกฎาคม 2563 ลุ้นถ้าหากการ์ดไม่ตก โควิด-19 ไม่ระบาดเพิ่มในประเทศ อาจได้หยุดชดเชยวันสงกรานต์ พร้อมเปิดคาดการณ์วันหยุดยาว

กางปฏิทิน วันหยุดเดือนกรกฎาคม 2563 ลุ้นถ้าหากการ์ดไม่ตก โควิด-19 ไม่ระบาดเพิ่มในประเทศ อาจได้หยุดชดเชยวันสงกรานต์ พร้อมเปิดคาดการณ์วันหยุดยาวจากกรณี นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงถึงเรื่องชดเชยวันหยุดสงกรานต์ ที่เลื่อนมาจากเดือน เม.ย. นั้น จะเกิดขึ้นได้จากการผ่อนคลายมาตรการระยะ 3 และ 4 หากเดือน มิ.ย. ผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนระยะที่ 1 และ 2 ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนว่าการ์ดต้องไม่ตกขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยวันหยุดตามประเพณีของสถาบันการเงิน ประจำเดือนกรกฎาคม 2563 มีดังต่อไปนี้วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563ชดเชยวันอาสาฬหบูชา (จากวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2563)วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2563วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหยุดยาว 5 วัน13-15 กรกฎาคม 2563(วันที่ 11-12 กรกฎาคม ตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์)20-22 กรกฎาคม 2563(วันที่ 18-19 กรกฎาคม ตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์)หยุดยาว 6 วัน1-3 กรกฎาคม 2563(วันที่ 4-5 กรกฎาคม ตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์)(วันที่ 6 กรกฎาคม ตรงกับชดเชยวันอาสาฬหบูชา)อย่างไรก็ตาม ในเดือน ก.ค.นี้ ครม. อาจจะมีการชดเชยกรณีวันหยุดสงกรานต์เกิดขึ้น ถ้าเดือน มิ.ย. เราผ่านกันไปด้วยดี คือเริ่มตั้งแต่วันนี้ วินาทีนี้ และเดี๋ยวนี้ ถ้าเราผ่านการผ่อนคลายระยะที่ 3 ไปได้ ถ้าเราพร้อมเพรียงกัน เราจะมีอนาคตร่วมกันว่า ก.ค.นี้ ไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีวันหยุดเพิ่มเติมขึ้นมา ไม่มีเชื้อในประเทศไทย นี่คือความหวังความฝันร่วมกัน.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.55) เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดา บัลลังก์ 910 จะมีการอ่านคำพิพากษาคดีที่จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท (prachatai.com) เป็นจำเลย

ในคดีความผิดตามมาตรา 14 และ 15 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ โดยจีรนุชถูกกล่าวหาว่า มีเจตนาจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีข้อความที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ปรากฏอยู่ในเว็บบอร์ดประชาไทก่อนหน้านี้ ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ในวันดังกล่าว ผู้พิพากษาขึ้นบัลลังก์แจ้งขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 30 พ.ค.55 โดยให้เหตุผลว่า เอกสารคดีนี้มีจำนวนเยอะมากเครือข่ายสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAPA) ว่า คดีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีนัยยะต่อเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อแนวโน้มของการสื่อสารมวลชนออนไลน์ในภูมิภาค พร้อมย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินคดีต่อตัวกลางในการแสดงออกของประชาชนอย่างเสรี และเรียกร้องอีกครั้งไปยังรัฐบาลให้มีการทบทวนการบังคับใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะมาตรา 15 เพื่อทำให้แน่ใจว่าตัวกลางจะได้รับการปฏิบัติที่ยุติธรรมตามสมควร และจะไม่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ทางการเมืองดังกรณีของจีรนุช และคนอื่นๆ////////////////////////////

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

สํานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเตรียมประชุมคัดเลือกรูปแบบโครงการและผลตอบแทนของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ วันพรุ่งนี้ ก่อนเปิดระดมทุน วงเงิน 100000 ล้านบาท ปลายปีนี้

วันนี้ (28 ส.ค.2559) นายชาญวิทย์ นาคบุรี ผู้อำนวยการสำนักคณะกรรมการนโยบายแผนรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.เตรียมหารือกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน วันที่ 29 สิงหาคมนี้ เพื่อกำหนดรูปแบบโครงการและผลตอบแทนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ ก่อนเปิดขายหน่วยลงทุนในช่วงปลายปีนี้ เบื้องต้น จะนำโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-โคราช มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และโครงการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เข้าบรรจุในกองทุนดังกล่าว เพื่อคำนวณการรับประกันผลตอบแทน ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนผู้อำนวย สคร.กล่าวอีกว่า มีความพยายามผลักดัน จัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากถูกท้วงติงเกี่ยวกับเงินงบประมาณที่จะนำมาเป็นผลตอบแทนการลงทุน สคร.จึงปรับรูปแบบ โดยของบประมาณ มาตั้งกองทุนหมุนเวียน เพื่อรับประกันผลตอบแทน ซึ่งจะประเดิมทุนงวดแรก 9000 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนหน้า คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณและลดภาระหนี้สาธารณะของภาครัฐ

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

รายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง จัดเต็มครั้งที่ 2 ให้แฟนรายการได้สัมผัสความสนุกอย่างใกล้ชิดกับคอนเสิร์ตหน้ากากซุปตาร์ OPPO PRESENTS THE MASK SINGER 2 เมื่อ 2-3 ก.ย. ที่ผ่านมา ณ ไบเทค บางนา ฮอลล์ 98

จากปรากฏการณ์ที่สร้างกระแสแรงแบบถล่มทลายจนกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ที่สุดของวงการโทรทัศน์ไทย รายการ ,The Mask Singer หน้ากากนักร้อง, จัดเต็มครั้งที่ 2 ให้แฟนรายการได้สัมผัสความสนุกอย่างใกล้ชิดกับคอนเสิร์ตหน้ากากซุปตาร์, OPPO PRESENTS THE MASK SINGER 2 ,คอนเสิร์ตจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 และอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2560 รวมทั้งหมด 3 รอบการแสดง โดยเริ่มรอบแรกเวลา 13.00 น. ณ ไบเทค บางนา ฮอลล์ 98 โดย ,หน้ากากสามี กันต์ กันตถาวร, รับหน้าที่เป็นพิธีกรมอบความสุขตลอดทั้งคอนเสิร์ต,เปิดเวทีความสุขความสนุกกันด้วยเพลงในจังหวะสุดมันอย่างเพลง  ,Crazy in love, ถ่ายทอดความสนุกโดย ,หน้ากากเต่า (ปนัดดา เรืองวุฒิ), แค่เพียงเพลงแรกก็ทำเอาผู้ชมในฮอลล์ ออกสเต็ปขยับกันสุดฤทธิ์ ตามมาด้วย เพลง ,อกหัก, จาก ,หน้ากากซาลาเปา (บี้ KPN), ตามมาด้วย ,หน้ากากเสือจากัวร์ (บี พีระพัฒน์), มาโชว์เสียงร้องสุดเพราะอันทรงพลังในเพลง ,Chandelier, ซี่งเสียงร้องเรียกว่าเพราะสะกดใจผู้ชมทั้งฮอลล์ จากนั้นเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นกันต่อ กับการปรากฏตัวของเจ้าของตำแหน่งแชมป์จากรายการ The Mask Singer 2 ,หน้ากากซูโม่ (ลีเดีย ศรัณย์รัชต์), ออกมาโชว์พลังเสียงในเพลง ,บัวลอย, ซึ่งมีบรรดาแฟนคลับมารอให้กำลังใจลีเดียกันอย่างแน่นขนัด งานนี้ต่างก็พากันลุกขึ้นเต้นและร้องตามกันดังลั่นฮอลล์,ความมันความสนุกยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ฟินกันอย่างต่อเนื่องกับหน้ากากซุปตาร์จากซีซั่น 1-2 อาทิ 2 พี่น้องขาร็อก ,หน้ากากอีกาดำ (เอ๊ะ จิรากร), ที่ควงคู่น้องสาว ,หน้ากากอีกาเผือก (ซานิ AF), กับเพลง ,Its my life, ภายใต้โชว์อลังการประชันเสียงร้องโดยทั้งคู่โหนบนสลิงเหมือนบินอยู่บนท้องฟ้า และกรี๊ดกันต่อกับการฟีเจอริ่งกันระหว่าง 2 ซุปตาร์ซีซั่น 1 ,หน้ากากทุเรียน (ทอม Room39), และ ,หน้ากากจิงโจ้ (เป๊ก ผลิตโชค), กับเพลง ,มือปืน, ที่เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งฮอลล์ ต่อด้วยเพลงสนุกๆ ของทุเรียนกับซูโม่ กับเพลง ,Love me like you do,และที่เรียกเสียงกรี๊ดกันไม่แพ้หน้ากากอื่นกับ, หน้ากากหอยนางรม (โอม วงค็อกเทล), ที่ควง ,ตั๊ก ศิริพร, มาในเพลง ,หมดห่วง, ตามมาด้วย ,หน้ากากเข็มทิศ (แสตมป์ อภิวัชร์), หน้ากากดอกไม้ (ปุยฝ้าย AF), หน้ากากระฆัง (อาร์ม กรกันต์), หน้ากากโพนี่ (แปม ศิรภัสรา), หน้ากากไก่ฟ้า (โต๋  ศักดิ์สิทธิ์), พร้อมเหล่ากรรมการจากรายการที่รวมตัวมาสร้างเสียงหัวเราะในเพลง ผู้สาวขาเลาะ ไม่ว่าจะเป็น ,เสนาหอย, ตั๊ก ศิริพร, ซาร่า AF, ดีเจนุ้ย, กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่, หนึ่ง จักรวาล,ตบท้ายความสนุกแบบนอนสต็อป ยืนแดนซ์กระจายแบบรวดเดียวจบ โดยเฉพาะกับโชว์สุดพิเศษของ 4 หน้ากากจากซีซั่น 2 ,หน้ากากซาลาเปา, หน้ากากเสือจากัวร์, หน้ากากเต่า และหน้ากากซูโม่, บนเวทีแบบหมุนรอบทิศ ก่อนจะตบท้ายด้วยเพลงประทับใจ ,ขอบคุณที่รักกัน, ซึ่งเป็นการรวมกันทั้งหมด 15 หน้ากาก เรียกได้ว่าอิ่มเอมอิ่มใจกันทั้งเหล่าหน้ากากซุปตาร์และแฟนคลับ ต่างพากันกลับบ้านด้วยรอยยิ้มและความสุขแบบเกินบรรยายเลยทีเดียว.

จงสรุปเรื่องต่อไปนี้

สองโจ๋ตั้งวงดื่มเหล้า เกิดมีปากเสียงพูดจาไม่เข้าหู คว้ามีดปลายแหลมแทงตัดขั้วหัวใจดับ ก่อนหลบหนีพร้อมมีดก่อเหตุ ตำรวจเร่งล่าตัว คาดไปได้ไม่ไกล

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 25 พ.ย.61 ร.ต.อ.ธีรพัฒน์ ชมชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชียงคาน จ.เลย ได้รับแจ้งมีเหตุแทงกันตาย หน้าบ้านเลขที่ 99/1 บ้านใหม่ศาลาเฟือง ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อรับแจ้งประสานไปยังแพทย์โรงพยาบาลเชียงคาน กู้ภัยสว่างคีรีธรรม กู้ภัยเลย จุดเชียงคาน เดินทางไปชันสูตรพลิกศพ,ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย สภาพนอนหงาย ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าสีเหลือง ทราบชื่อ นายวัชรินทร์ คำสาร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128/1 หมู่ 11 ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลม เข้าที่หน้าอกซ้าย 1 แผล ตัดขั้วหัวใจเสียชีวิต มาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ส่วนผู้ก่อนเหตุชื่อ นายรุ่งปทุม ไชโยแสง อายุประมาณ 30-35 ปี โดยหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมกับมีดที่ใช้ก่อเหตุ
,จากการสอบถามเพื่อนผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายและนายรุ่งปทุม พร้อมเพื่อนอีก 2 คน นั่งกินเหล้าอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ จนกระทั่งผู้ตายมีปากเสียงกับนายรุ่งปทุม จู่ๆ นายรุ่งปทุม ก็วิ่งเข้าในครัวภายในบ้านของผู้ตาย แล้วคว้ามีดปลายแหลม มาแทงเข้าที่หน้าอกซ้ายของผู้ตายโดยไม่ทันตั้งตัว จนผู้ตายหนีตายล้มลงหน้าบ้านจนเสียชีวิต ส่วนนายรุ่งปทุมหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมกับมีดที่ใช้ก่อเหตุ ตำรวจชุดสืบสวนได้กระจายกำลังออกไล่ล่าตัวแล้ว คาดว่าหนีไปได้ไม่ไกล และเฝ้าติดตามดูบ้านญาติผู้ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป